Quantcast
Channel: Sansiri แสนสิริ Archives - 2025 / 2568 รีวิวบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, ทาวน์โฮม
Viewing all 300 articles
Browse latest View live

สิริ อเวนิว สายไหม Siri Avenue Saimai ช็อปเฮ้าส์ใหม่ ใจกลางสายไหม เริ่ม 6.19 ล้านบาท

$
0
0

สิริ อเวนิว สายไหม Siri Avenue Saimai ช็อปเฮ้าส์ใหม่ ใจกลางสายไหม เริ่ม 6.19 ล้านบาท

สิริ อเวนิว สายไหม

แสนสิริ เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ Siri Avenue สายไหม ช็อปเฮ้าส์ใหม่ ใจกลางสายไหม ปักหมุดความสำเร็จ เพื่อธุรกิจในฝัน เริ่ม 6.19 ล้านบาท*


ที่ตั้งโครงการ : ติดถนนสายไหม แขวงสายไหม เขตสายไหม กทม.

พิกัด Google : 13.921220,100.660690

ผู้ที่สนใจโครงการสามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใครได้แล้วที่นี่

RGT

คลิกที่นี่ เพื่อลงทะเบียน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1685

Website : http://www.sansiri.com/


EP.728 รีวิว คอนโด QUATTRO BY SANSIRI ใกล้รถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ

$
0
0

EP.728 รีวิว คอนโด ควอทโทร บาย แสนสิริ QUATTRO BY SANSIRI

QUATTRO BY SANSIRI

BR ผู้นำคอนโดแนวรถไฟฟ้าในโซน CBD
ชมห้อง Highlight คลิ๊ก goo.gl/92ynWe
สามารถนัดหมายเข้าชมห้องได้ที่
Line@: http://line.me/ti/p/%40bkkresidence
Line ID: @bkkresidence (มี @ นำหน้าด้วยนะคะ)
โทร.082-796-2800, 098-964-9562


สวัสดีผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกคนครับ วันนี้ผมจะพามาชมโครงการ Quattro by sansiri โครงการจาก แสนสิริ เป็นคอนโดโครงการแรกของแสนสิริที่ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ ห่างจาก BTS ทองหล่อประมาณ 600 ม. ใกล้คอมมูนิตี้มอลล์อย่าง Market Place, Maze, ตึก Eight และ J Avenue ทองหล่อ ตัวโครงการเป็นคอนโด High Rise 2 อาคาร สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ โครงการนี้ Sold Out ไปแล้วนะครับ แต่ผมจะพามาชมรูปแบบโครงการเผื่อใครยังไม่เคยชมมาก่อน หรืออยากจะเป็นเจ้าของก็คงต้องหาห้อง Resale ครับ

ภายในโครงการมีส่วนกลางที่จัดเต็มมาให้ครบน่าใช้งาน และมีบริการพิเศษเทียบเท่ากับโรงแรม มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 446 ยูนิต มีห้องให้เลือกแบบ 1 Bed , 2 Bed , 3 Bed และ Penthouse ในราคา Resales ปัจจุบัน 1 ห้องนอน ขนาด 49.5 ตร.ม. ราคาประมาณ 11 ล้านบาท (เฉลี่ย 220,000./ตร.ม.) รายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไรอ่านต่อด้านล่างได้เลยครับ

ชื่อโครงการ ควอทโทร บาย แสนสิริ QUATTRO BY SANSIRI
เจ้าของโครงการ แสนสิริSANSIRI
ลักษณะห้องและขนาดห้อง – 1 Bed / 49.50-63 ตารางเมตร
– 2 Bed / 78- 92 ตารางเมตร
– 3 Bed / 103-148.50 ตารางเมตร
– Penthouse / 168.50-295.50 ตารางเมตร
เนื้อที่ทั้งหมด 4 ไร่ 2 งาน 7.00 ตร.ว.
จำนวนตึก 2 อาคาร(A และ B)
จำนวนชั้น อาคาร A มี 28 ชั้น และ อาคาร B มี 36 ชั้น
จำนวนห้อง อาคาร A และ อาคาร B รวม 446 ห้อง
ที่จอดรถทั้งหมด n/a
โซน สุขุมวิทช่วงกลาง 25-71, ทองหล่อ, เอกมัย, พระโขนง
ขนส่งสาธารณะ รถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ 600 ม.
รถโดยสารที่ผ่าน n/a
ที่ตั้ง ซอยทองหล่อ 4 ถนนสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10250
กำหนดการ n/a
ปีที่สร้างเสร็จ ปลายปี พ.ศ. 2554
ราคา 8,900,000 – 38,420,000 บาท (ณ. วันที่ 29 มิย. 55)
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม เริ่มต้น 17x,xxx บ./ตร.ม. (ณ. วันที่ 29 มิย. 55)
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
  • Market Place : 30 ม.
  • MAZE : 70 ม.
  • Fifty Fifth : 300 ม.
  • Eight : 350 ม.
  • J Avanue : 800 ม.
  • Arena 10 : 900 ม.
  • นั่งเล่น : 1.1 กม.
  • Major เอกมัย : 1.1 กม.
  • Park Lane : 1.3 กม.
  • Big C เอกมัย : 1.5 กม.
  • Rain Hill : 2 กม.
  • Emporium : 2 กม.
  • Emquartier : 2 กม.
  • Gateway เอกมัย : 2.3 กม.
  • K Village : 2.8 กม.
  • Big C Extra พระรามสี่ : 3 กม.
  • Tesco Lotus พระรามสี่ : 3 กม.
  • Shinsen Fish Market : 3.8 กม.
  • Terminal 21 : 4.3 กม.
  • Singha Complex : 4.5 กม.
  • Mercury Ville : 5 กม.
  • ฟอร์จูน : 5.6 กม.
  • Central World : 5.7 กม.
  • Central Embassy : 7 กม.
  • Central ชิดลม : 7 กม.
  • Central พระราม 9 : 7.2 กม.
  • ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ : 4.8 กม.
  • สวนเบญจกิตติ : 5.1 กม.
  • สวนลุมพินี : 6.8 กม.
  • Bangkok Prep : 1.4 กม.
  • รพ.สมิติเวช : 1.3 กม.
  • รพ.คามิลเลียน : 1.4 กม.
  • รพ.กรุงเทพ : 2.8 กม.
  • รพ.บำรุงราษฎร์ : 4.9 กม.
  • ม.ศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร : 3.6 กม.
  • รร.วัฒนา : 4.1 กม.
  • NIST International School : 4.6 กม.
  • Saint Dominic : 4.9 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก – สระว่ายน้ำ 2 สระ , ฟิตเนส
– สวนหย่อม
– บริการรับจอดรถ
– บริการผู้ช่วยส่วนตัว
– บริการทำความสะอาด
– Shuttle Bus , London Cab
– ระบบ Video Door Phone
– จุดล้างรถและเครื่องล้างรถ
– Wi-Fi Internet บริเวณ Lobby (และพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด)
– รปภ., กล้องวงจรปิดโครงการ, ประตู Key Card
จุดเด่นของโครงการ คอนโดมิเนียมหนึ่งเดียวที่รังสรรค์เฉพาะสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อคุณ หนึ่งในทำเลที่ดีที่สุดกลางใจทองหล่อ ดีไซน์ที่เป็นหนึ่งในทุกรายละเอียด พร้อมวัสดุที่คัดสรรพิเศษจากภายนอกถึงภายใน

ที่ตั้งโครงการ

ซอยทองหล่อ 4 ถนนสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10250

000

พิกัด Google โดยประมาณ : 13.727974, 100.581605

Screen Shot 2017-03-04 at 2.07.16 PM

ที่ตั้งโครงการ Quattro by sansiri ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 4 ห่างจากปากซอยประมาณ 70 ม. และห่างจากปากซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) ประมาณ 600 ม. ซอยทองหล่อเป็นถนนขนาด 6 เลน ตัดมาจากถนนสุขุมวิทยาวไปสิ้นสุดที่ถนนเพชรบุรี ระยะทางจากปากซอยถึงท้ายซอยประมาณ 2.4 กม. การเดินทางเข้าออกค่อนข้างสะดวกถือเป็นจุดเด่นของซอยนี้ เข้าได้ทั้งจากฝั่งสุขุมวิท จากฝั่งถนนเพชรบุรี และจากซอยย่อยต่างๆที่เชื่อมมาจากฝั่งพระโขนง หรือเชื่อมมาจากฝั่งอโศก โดยจะมีซอยลัดเลาะเชื่อมมาถึงกันโดยที่ไม่ต้องใช้เส้นหลักเลยครับ

การเดินทางเข้าเมือง เลือกใช้ได้ทั้งเส้นสุขุมวิท และเพชรบุรี ถ้าใช้เส้นสุขุมวิทออกมาปากซอยทองหล่อเลี้ยวเข้าสุขุมวิทได้เลย จากนั้นก็มุ่งหน้าไปผ่านพร้อมพงษ์ อโศก นานา เพลินจิต ชิดลม สยาม วิ่งตามแนว BTS ไปเลยสะดวกดี ถ้าจะไปแถวเอกมัยก็ไปเข้าซอยทองหล่อ 10 จะไปเชื่อมออกเอกมัยซอย 5 พอดีครับ หรือถ้าจะไปโซนพระรามสี่มาออกสุขุมวิทแล้วเข้าซอยสุขุมวิท 36 หรือซอยสุขุมวิท 40 ทั้งสองซอยมาเชื่อมออกถนนพระรามสี่ได้เลย จากนั้นก็วิ่งเข้าสวนลุม สาทร สีลม สามย่าน ยาวไปเยาวราชได้เลยครับ ถ้าใช้เส้นเพชรบุรีวิ่งไปท้ายซอยทองหล่อก็จะเข้าถนนเพชรบุรีจากนั้นก็วิ่งเข้าเมือง เส้นนี้จะขนานก็สุขุมวิทไปแต่จะเป็นท้ายซอยของสุขุมวิทนั่นเองครับไปเข้าอโศก นานา ชิดลม เชื่อมออกพระรามเก้าได้ หรือจะผ่านประตูน้ำ ราชเทวี วิ่งไปเข้าเขตพระนครได้เลยครับ

การเดินทางออกนออกเมือง ถ้าจะไปโซนบางนาก็ใช้เส้นสุขุมวิทได้ครับ วิ่งตามแนว BTS ผ่านเอกมัย พระโขนง อ่อนนุช บางนา ยาวไปสมุทรปราการได้ หรือตรงแยกบางนาจะเชื่อมออกถนนบางนา-ตราด วิ่งไปเชื่อมถนนศรีนครินทร์ ถนนกาญจนาภิเษก ถนนกิ่งแก้ว ยาวเลยไปออกฉะเชิงเทรา ชลบุรี พัทยาได้เลย และที่สำคัญเส้นนี้มีทางด่วนบูรพาวิถีวิ่งไปจนถึงชลบุรีเลยสะดวกดี หรือจะใช้เส้นเพชรบุรีก็ได้ครับวิ่งไปทางแยกคลองตันตัดไปออกรามคำแหง พัฒนาการ มอเตอร์เวย์ ลาดกระบังได้เลย ถ้าจะไปโซนรามอินทรา ลาดพร้าว เกษตรนวมินทร์ มีทางด่วนให้ขึ้นแถวๆพระโขนง ถ้าไปโซนฝั่งธนก็ไปทางพระรามสี่ได้เลยครับสะดวกดี

Screen Shot 2017-03-04 at 1.48.44 PM

การเดินทางโดยสาธารณะ ตัวโครงการอยู่ห่างจาก BTS ทองหล่อประมาณ 600 ม. ระยะก็พอเดินได้ครับมีทางเท้าเดินสะดวกถึงสถานี นั่ง BTS ไปเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าใต้ดินได้ที่สถานีอโศกเพียง 2 สถานีเท่านั้นครับ

ตัวโครงการมีบริการ Shuttle bus รับส่งฟรีหลายจุดและผ่าน BTS ทองหล่อด้วยครับ นอกจากนี้ยังมี London Cab ที่ให้บริการฟรี 2 ครั้งต่อเดือนในระยะทางที่กำหนด ครั้งที่ 3 ขึ้นไปจะมีค่าใช้จ่ายตามราคาและระยะทางที่กำหนดไว้แล้ว แต่ต้องจองล่วงหน้าครับ เส้นทางมีไปสนามบินด้วยครับก็ถือว่าสะดวกดี ในซอยทองหล่อ 4 มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ตรงปากซอยเลย หรือออกมาตรงซอยทองหล่อมีทั้งวินมอเตอร์ไซค์ และรถสองแถวที่วิ่งให้บริการตั้งแต่ปากซอยถึงท้ายซอยทองหล่อครับ Taxi ก็เรียกได้สะดวกมีวิ่งเกือบตลอด

ถ้าออกมาตรงเส้นสุขุมวิทจะมีรถเมล์วิ่งผ่านไปมาหลายสายเลยทั้งเข้าและออกเมือง วิ่งเกือบทั้งคืน ป้ายรถเมล์อยู่ใต้สถานี BTS ทองหล่อเลย เส้นเพชรบุรีก็มีรถเมล์วิ่งผ่านไปมาเช่นกันครับ นอกจากนั้นท้ายซอยทองหล่อยังมีบริการเรือด่วนคลองแสนแสบนั่งเข้าเมืองได้เช่นกัน ท่าเรือที่อยู่ใกล้โครงการคือท่าเรือทองหล่อ จะเห็นว่าตัวเลือกในการเดินทางค่อนข้างหลากหลายดีครับ

4-01

จากภาพถ่ายดาวเทียมจะเห็นว่าพื้นที่รอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย และคอนโดมิเนียมระดับ Luxury ทั้งเก่าและที่เปิดตัวใหม่อีกหลายโครงการเลย รวมไปถึงตามริมสองฝั่งทางจะเป็นอาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน โรงแรมหรูๆ พื้นที่ว่างเปล่านี่ไม่น่าจะเหลือแล้วครับ หรือถ้ามีก็เป็นแปลงเล็กๆ ย่านทองหล่อนี้เป็นหนึ่งในย่านอันดับต้นๆที่อยู่ในความต้องการของใครหลายๆคน เป็นย่านที่ฮอตฮิตมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่ก็มีอยู่บางช่วงที่ไม่มีโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆขึ้นเลย จนเมื่อปีที่ผ่านมาทำเลทองหล่อค่อนข้างร้อนแรงมาก มีผู้ประกอบการหลายเจ้าเข้ามาจัดสรรกันตั้งแต่ปากซอยไปจนเกือบท้ายซอยทองหล่อ มีดังนี้ครับ

  • The Reserve ทองหล่อ 2 จากค่ายพฤกษาตั้งอยู่ในทองหล่อซอย 2
  • The Bangkok Thonglor เป็นแบรนด์ Hi-end จาก Land & House ตั้งอยู่ตรงทองหล่อซอย 1 ติดถนนทองหล่อ
  • Khun by YOO inspired by Starck จากแสนสิริ อยู่ตรงซอยทองหล่อ 12 ติดถนนทองหล่อ
  • Tela Thonglor ตั้งอยู่ตรงซอยทองหล่อ 13 ติดถนนทองหล่อ จากค่ายเกษร วัฒนา เจ้าของเดียวกับ เกษร วิลเลจตรงแยกราชประสงค์
  • The Monument Thonglor จากแสนสิริอีกตัวตั้งอยู่เกือบจะท้ายซอยทองหล่อเลย
  • อีกตัวซึ่งยังไม่ได้เปิดตัวโครงการ จากค่าย Origin ตั้งอยู่ตรงทองหล่อซอย 5 ติดถนนทองหล่อ

ด้วยความที่เพียบพร้อมในทุกๆด้านและอยู่ใจกลางเมือง คนที่อาศัยอยู่ย่านนี้ส่วนใหญ่ค่อนข้างจะมีฐานะดีทั้งคนไทยและต่างชาติโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่มาอาศัยอยู่ในย่านนี้กันเยอะมาก เมื่อมีความต้องการสูงย่อมส่งผลให้ราคาย่านนี้โดดสูงขึ้นไปตามดีมานด์ โดยจากราคาประเมินที่ดินซอยทองหล่อของกรมธนารักษ์ในปี 2559-2562 สูงขึ้นถึง 420,000 บาทต่อตารางวา ซึ่งราคาซื้อขายจริงปัจจุบันอยู่ที่ 1,xxx,xxx บาทต่อตารางวาทำเลที่ติดถนนใหญ่หรือใกล้ BTS ทองหล่อราคาจะสูงกว่าในซอยพอสมควร

Quattro by sansiri เป็นโครงการแรกของแสนสิริอยู่ในซอยทองหล่อ และตามมาด้วย HQ Thonglor ที่อยู่ถัดจากโครงการไปอีกหน่อย และเมื่อปี 2559 เปิดตัวอีก 2 โครงการคือ The Monument Thonglor ซึ่งอยู่เกือบจะท้ายซอยทองหล่อ อีกตัวคือ Khun by YOO inspired by Starck อยู่ตรงซอยทองหล่อ 12 แสนสิรินับว่าเป็นผู้ประกอบการที่มีจำนวนโครงการมากที่สุดในย่านนี้ โดยถ้านับตรงปากซอยทองหล่อด้วยอีก 2 โครงการคือ Siri at Sukhumvit อยู่ติดถนนสุขุมวิทช่วงระหว่างซอยสุขุมวิท 40 และสุขุมวิท 38 เป็นโครงการแรกของแสนสิริในย่านทองหล่อ อีกตัวคือ Keyen by sansiri อยู่ติดถนนสุขุมวิทใกล้ๆซอยสุขุมวิท 36 รวมโครงการของแสนสิริย่านทองหล่อทั้งหมดตอนนี้มี 6 โครงการ ส่วนในอนาคตนั้นจะมีอีกหรือไม่คงต้องรอดูกันต่อไปครับ

Screen Shot 2017-03-04 at 1.48.24 PM

การเดินทางวันนี้เริ่มจากถนนสุขุมวิทตรงแยกอโศกมุ่งหน้าบางนา ขับตามแนวรถไฟฟ้า BTS มาจนถึง BTS ทองหล่อ จากนั้นเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 55 หรือซอยทองหล่อ เข้าไปประมาณ 600 ม. เลี้ยวขวาเข้าซอยทองหล่อ 4 ไปอีกประมาณ 70 ม. โครงการจะอยู่ทางขวามือครับ

สรุปการเดินทาง ถนนสุขุมวิท > ซอยสุขุมวิท 55 > ซอยทองหล่อ 4 > Quattro by sansiri

0-01

เร่ิมจากแยกอโศกมุ่งหน้าไปบางนา ขับตรงข้ามแยกไปครับ

2-01

ข้ามมาซ้ายมือจะเจอ Jasmine City Hotel

4-01

ถัดมาขวามือเป็นโรงแรม Holiday Inn

5-01

เลยมาอีกซ้ายมือเป็นโรงแรม S 31

6-01

ติดกันเป็นแยกสายน้ำผึ้ง

7-01

ถัดมาจะเจออุทยานเบญจสิริขวามือ เป็นสวนสาธารณะสำคัญย่านนี้

01

ถัดมาอีกเป็น BTS พร้อมพงษ์

02

ซ้ายมือเป็น Emquartier ขวามือเป็น Emporium

 

04

จากนั้นจะเจอมิราเคิลมอลล์ซ้ายมือ

05

เลยมาอีกจะเป็น Rain Hill

8-01

จากนั้นถัดมาขวามือจะเจอโครงการ Beatniq

06

จากนั้นขวามือจะเจอโครงการ Noble Remix

9-01

ถัดมาซ้ายมือจะเจอโรงเรียนนานาชาติ Bangkok Prep

07

และจะเจอ BTS ทองหล่อ เตรียมชิดซ้ายได้เลย

10-01

และจะเจอแยกทองหล่อ เราจะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 55 ครับ

11-01

เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 55 เป็นถนนขนาด 6 เลน แบ่งฝั่งละ 3 เลน ตั้งแต่ปากซอยเข้าไปจะมีร้านค้า ร้านอาหารสองฝั่งทางไปจนเกือบท้ายซอยเลย

12-01

ถัดมาหน่อยซ้ายมือเป็นโรงแรม Nikko Bangkok กำลังก่อสร้างอยู่

13-01

เข้ามาอีกหน่อยขวามือจะมองเป็นตัวโครงการ 2 อาคารตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 4 อีกที

14-01

จากนั้นจะเห็น Vasu The Residence อยู่ติดกับโครงการเลย

15-01

ถัดมาซ้ายมือจะเจอโครงการ The Bangkok จาก Land & House พื้นที่โครงการอยู่ติดกับสถาบันปรีดี พนมยงค์

16-01

และก็จะถึง Vasu The Residence เตรียมเลี้ยวขวาเข้าซอยทองหล่อ 4 ได้เลย

17-01

ซอยทองหล่อ 4 เป็นซอยทางเข้าโครงการ อยู่ระหว่าง Vasu The Residence และ Maze เดินเข้าไป 70 ม. ก็ถึงโครงการแล้วครับ ซ้ายมือเป็นที่ดินของ Origin ซึ่งจะเป็นโครงการใหม่จะเปิดตัวในปีนี้ครับ

18-01

ผมพาขับไปท้ายซอยทองหล่อหน่อย เลยซอยทองหล่อ 4 มา ขวามือเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ Maze มีร้านอาหารหลายร้านเลย เดินมาจากโครงการได้สบายๆ

19-01

เลยมาอีกหน่อยขวามือเป็น Market Place

20-01

เลยมาอีกจะเจอตึก Eight มีร้านอาหารอร่อยๆหลายร้านในนี้ครับ

21-01

เลยมาอีกเป็นโรงแรม Grand Center Point

22-01

จากนั้นเป็นซอยทองหล่อ 10 เป็นซอยที่เชื่อมไปออกเอกมัยซอย 5 ได้ครับ

23-01

เลยมาอีกขวามือเป็นพื้นที่โครงการ Khun by yoo และซ้ายมือเป็นโครงการ TELA

24-01

จากนั้นจะเจอ J Avenue ทองหล่อ

25-01

ถัดมาอีกเป็น 72 Courtyard มีร้านอาหาร ร้านนั่งชิวในนี้หลายร้านเลย

26-01

เลยมาอีกจะเจอมัสยิดด่อฮีรุ้ลอิสลาม

27-01

ติดกันเป็นสถานีตำรวจทองหล่อ

29-01

และจะเจอโรงพยาบาลคามิลเลียนซ้ายมือ

30-01

จากนั้นจะเจอโครงการ The Monument ทองหล่อ

31-01

และจะเจอสะพานข้ามคลองแสนแสบ ใต้สะพานมีทางกลับรถได้

32-01

ข้ามสะพานมาซ้ายมือเป็นโรงแรม Metropole Bangkok

33-01

สุดซอยสุขุมวิท 55 จะเป็นถนนเพชรบุรี เลี้ยวซ้ายไปทางประตูน้ำ เลี้ยวขวาไปทางคลองตันได้

Screen Shot 2017-03-05 at 12.03.15 AM

เดี๋ยวผมพาเดินจาก BTS ทองหล่อไปโครงการ โดยออกทางออก 3 จากนั้นเดินเข้าซอยสุขุมวิท 55 ไปประมาณ 530 ม. แล้วเลี้ยวเข้าซอยทองหล่อ 4 ประมาณ 70 ม. โครงการจะอยู่ทางขวามือ

34

อีกทางผมเริ่มจาก BTS ทองหล่อ ผมจะพาเดินไปโครงการระยะทางประมาณ 600 ม.

35

จากนั้นเดินออกทางออกหมายเลข 3

36

เดินลงจากสถานีมาก็จะเจอร้านค้าเลยครับ ซ้ายมือเป็นร้านข้าวแกง

37

ถัดมาเป็นเกาเหลาเลือดหมู

38

ติดกันเป็น Subway

39

และจะเจอแยกทองหล่อตรงหน้า

40

มองย้อนกลับไปจะเป็นบันไดเลื่อนทางขึ้น BTS ทองหล่อ

41-01

หันกลับมาที่แยกทองหล่อ ผมจะพาเดินข้ามทางม้าลายไปอีกฝั่งครับ

42

เดินข้ามมา แล้วก็เดินตามทางเท้าไปครับ

43

ช่วงปากซอยจะมีร้านค้าต่างๆทั้งสองฝั่ง

44

ถัดมาเป็นร้านผลไม้

45

ถัดมาเป็นโชว์รูม ซ้ายมือมี 7-11

46

จากนั้นซ้ายมือจะเจอ Asia herb association เป็นร้านนวดสปา

47

จากนั้นขวามือเป็นร้านอาหาร

48

จากนั้นจะเจอร้านอาหารเกาหลีโคซิแรซอยขวามือ

49

ฝั่งตรงข้ามเป็น Hotel Nikko Bangkok กำลังก่อสร้างอยู่ครับ

50

กลับมาทางเดิม เดินไปต่อมีร้านอาหาร Satsuma

51

ติดกันเป็นร้านโซล

52

ร้านนี้เป็นร้านราเมน

53

ถัดมาจะเจอธนาคารไทยพาณิชย์

54

ถัดมาเป็นร้าน DAT WICH คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่น

55

เลยมาอีกเป็น Fifty Fifth ตั้งอยู่หน้าโครงการคอนโด Fifty Fifth

57

จากนั้นก็เดินผ่านรั้วบ้านอฐศิลาแลงไปต่อครับ

58

ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่โครงการ The Bangkok ทองหล่อ อยู่ติดกับสถาบันปรีดี พนมยงค์ขวามือ

59

กลับมาทางเดิม ตามทางเท้าช่วงนี้จะมีร้านก๋วยเตี๋ยววางขายริมรั้วครับ

60

ถัดมาก็จะเจอ Vasu The Residence ฝั่งซ้ายเป็นโรงแรม Somerset

61-01

และจะเจอซอยทองหล่อ 4 ซึ่งเป็นซอยทางเข้าโครงการครับ เดี๋ยวผมพาเดินเลยซอยไปหน่อยว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

62-01

ฝั่งตรงข้ามซอยทองหล่อ 4 เป็นที่ดินของ Origin ซึ่งจะเปิดตัวโครงการใหม่เร็วๆนี้

64

กลับมาทางเดิม เดินผ่านซอยทองหล่อ 4 มาจะเป็นคอมมูนิตี้มอล์ MAZE

65

ภายในมีทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหารหลายร้านครับ

66

ถัดมาจะเจอ Market Place

67

ภายในมีทั้ง Starbucks , Tops , Burger King และอีกหลายร้านครับ มีทางเข้าออกได้จากในซอยทองหล่อ 4 ซึ่งอยู่เยื้องๆกับหน้าทางเข้าโครงการ Quattro เลย

68

ด้านหน้า Market Place มีวินมอเตอร์ไซค์

69

ถัดมามีร้านอาหารญี่ปุ่น

70

เลยมาอีกขวามือเป็นโครงการ HQ ทองหล่อ

71

ถ่ายตัวอาคาร HQ ให้ดูครับ

73

เลยมาอีกเป็นธนาคารกรุงเทพ

74

เลยมาเป็นตึก Eight มีร้านอาหารอร่อยๆในนี้ มี Food Land เปิด 24 ชม. ฝั่งซ้ายมี 7-11

77

เลยมาอีกเป็นโรงแรม Grande Centre Point

78

ถัดมาปากซอยทองหล่อ 10 เป็นโครงการ TEN มีร้านอาหารในนี้

79

ติดกันเป็นซอยทองหล่อ 10

80

ซอยทองหล่อ 10 เป็นซอยที่ไปเชื่อมออกเอกมัย 5 ได้ครับ ในซอยนี้ก็มีร้านอาหาร และผับชื่อดังในโครงการ Arena 10

81

กลับมาที่ซอยทองหล่อ เดินผ่านซอยทองหล่อ 10 มา มีร้านเป็ดย่าง

82

เลยมาจะเจอที่ตั้งโครงการ Khun by yoo ฝั่งซ้ายเป็นที่ตั้งโครงการ TELA

83

ถัดมามีร้านแหนมเนือง

86

ถัดมาเป็นร้าน Shakariki

87

และฝั่งตรงข้ามก็จะเป็น J Avenue จากโครงการเดินมาถึงนี่ประมาณ 800 ม. จะเห็นว่าตั้งแต่ปากซอยเข้ามาเราสามารถเลือกร้านกินได้เลยสบายๆครับ บ้างร้านเปิดตลอด 24 ชม.เลย61-01

กลับมาที่ซอยทองหล่อ 4 เดินเข้าไปโครงการกันต่อครับ

88-01

ภายในซอยเป็นถนนขนาด 2 เลน รถวิ่งสวนกัน ซ้ายมือเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ MAZE ขวามือเป็น Vasu The Residence

89-01

ติดกับรั้ว Vasu The Residence ก็จะเป็นพื้นที่โครงการครับ มีร้านอาหารริมทางด้วย

90-01

รั้วโครงการอยู่ติดกันเลย Vasu The Residence สูง 21 ชั้น ห้องที่อยู่อาคาร A ฝั่งนี้ก็โดนบล็อควิวไปครับ

91-01

กลับมาทางเดิมต่อ ซ้ายมือเป็นทางเข้าออก Market Place ได้อีกทาง

92-01

ฝั่งขวาเป็นแนวรั้วโครงการ มีรถจอดริมรั้ว

94-01

จากปากซอยทองหล่อ 4 เข้ามาประมาณ 80 ม. จะเจอทางเข้าโครงการขวามือ

95-01

ผ่านหน้าโครงการไป ภายในซอยจะเป็นบ้านพักอาศัยเป็นส่วนใหญ่

96

ตรงนี้มีร้านซักรีดขวามือ

97

ด้านในมีอาคารสูง 4 ชั้น เข้าไปในสุดก็จะเป็นบ้านพักอาศัย เป็นซอยตันนะครับ

99

เงยหน้ามองกลับไปที่โครงการจะเห็นแบบนี้

101

กลับมาด้านหน้าทางเข้าโครงการ

102-01

มองไปทางซ้าย ทางเข้าโครงการติดกับบ้านพักอาศัย

103-01

มองไปทางขวาติดกับ Vasu The Residence

106-01

ตัวโครงการมี 2 อาคาร แบ่งเป็นอาคาร A และ B

108-01

ฝั่งตรงข้ามด้านหน้าโครงการเป็นอาคาร 3 ชั้น

109

มองไปทางซ้าย

110

มองไปทางขวา

Screen Shot 2017-03-04 at 1.49.16 PM

ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการย่านนี้เรียกได้ว่าเลือกกินได้เลย มีให้เลือกหลากหลายทั้งอาหาร ไทย จีน ฝรั่ง เกาหลี ญี่ปุ่น ทั้งร้านริมทางจนไปถึงในคอมมูนิตี้ และร้านหรูๆ รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีที่เป็นจุดนัดพบยามค่ำคืนของหลายๆคน ตั้งแต่ปากซอยเข้ามามีทั้งข้าวราดแกง อาหารตามสั่ง ร้านขายยา แผงผลไม้ หน้าโครงการมีร้านรถเข็น มีทางเดินเข้า Market Place ด้านข้างภายในมีทั้ง Starbuck , Tops , Burger king และร้านอื่นๆหลายร้าน หรือเดินมาปากซอยทองหล่อ 4 มี MAZE เป็นคอมมูนิตี้มอลล์มีร้านอาหารหลายร้านในนี้ครับ หรือเดินไปตึก Eight มี Foodland และร้านอาหารในนี้ด้วย เลยไปอีกมี J Avanue ทองหล่อ และยังมีคอมมูนิตี้มอลล์ที่ใกล้ๆคือ The Commons , 72 Courtyard , The Taste , 9:53 Art Mall และ 49 Terrace หรือข้ามไปเอกมัยก็มีร้านอาหารให้เลือกเช่นกัน ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆมี Emporium , Emquartier , Rain Hill , Gateway เอกมัย , Major เอกมัย , Park Lane , Terminal 21 , K-Village , Big C เอกมัย , Lotus พระรามสี่ , Big พระรามสี่

สถานที่สำคัญใกล้เคียง

  • Market Place : 30 ม.
  • MAZE : 70 ม.
  • Fifty Fifth : 300 ม.
  • Eight : 350 ม.
  • J Avanue : 800 ม.
  • Arena 10 : 900 ม.
  • นั่งเล่น : 1.1 กม.
  • Major เอกมัย : 1.1 กม.
  • Park Lane : 1.3 กม.
  • Big C เอกมัย : 1.5 กม.
  • Rain Hill : 2 กม.
  • Emporium : 2 กม.
  • Emquartier : 2 กม.
  • Gateway เอกมัย : 2.3 กม.
  • K Village : 2.8 กม.
  • Big C Extra พระรามสี่ : 3 กม.
  • Tesco Lotus พระรามสี่ : 3 กม.
  • Shinsen Fish Market : 3.8 กม.
  • Terminal 21 : 4.3 กม.
  • Singha Complex : 4.5 กม.
  • Mercury Ville : 5 กม.
  • ฟอร์จูน : 5.6 กม.
  • Central World : 5.7 กม.
  • Central Embassy : 7 กม.
  • Central ชิดลม : 7 กม.
  • Central พระราม 9 : 7.2 กม.
  • รพ.สมิติเวช : 1.3 กม.
  • รพ.คามิลเลียน : 1.4 กม.
  • รพ.กรุงเทพ : 2.8 กม.
  • รพ.บำรุงราษฎร์ : 4.9 กม.
  • ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ : 4.8 กม.
  • สวนเบญจกิตติ : 5.1 กม.
  • สวนลุมพินี : 6.8 กม.
  • Bangkok Prep : 1.4 กม.
  • ม.ศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร : 3.6 กม.
  • รร.วัฒนา : 4.1 กม.
  • NIST International School : 4.6 กม.
  • Saint Dominic : 4.9 กม.

แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง

Screen Shot 2017-03-04 at 2.07.16 PM

  • ถนนสุขุมวิท 55 : 70 ม.
  • ถนนสุขุมวิท : 600 ม.
  • ถนนสุขุมวิท 63 : 1.1 กม.
  • ถนนพระรามสี่ : 1.9 กม.
  • ถนนเพชรบุรี : 2 กม.
  • ถนนเพลินจิต : 4.5 กม.
  • แยกทองหล่อ : 600 ม.
  • แยกเอกมัย : 1.3 กม.
  • แยกพระโขนง : 2.4 กม.
  • แยกอโศก : 3 กม.
  • แยกพระรามสี่ : 4.4 กม.
  • แยกเพลินจิต : 4.8 กม.
  • แยกชิดลม : 5.2 กม.
  • แยกพระราม 9 : 5.3 กม.
  • แยกราชประสงค์ : 5.5 กม.

Floor Plan


Tower A : 5th floor



Tower A : 6th – 10th floor / 11st floor / 12nd floor / 13rd – 16th floor /
17th floor / 18th – 21st floor / 22nd – 25th floor / 26th – 28th floor



Tower B : 5th floor / 6th floor / 7th – 27th floor / 28th floor / 29th floor /
30th – 31st floor / 32nd floor / 33rd floor / 34th floor / 35th floor

 

โครงการ

5-01

พื้นที่โครงการทางทิศเหนือด้านหน้าโครงการส่วนของอาคาร A ติดกับซอยทองหล่อ 4 ฝั่งตรงข้ามจะเป็น Market place ส่วนของอาคาร B ติดกับบ้านพักอาศัย ทิศใต้และทิศตะวันออกติดกับบ้านพัก และทิศตะวันตกติดกับ Vasu The Residence

op

Quattro by sansiri เป็นโครงการสร้างเสร็จตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2554 โครงการปิดการขายหลังจากที่สร้างแล้วเสร็จครับ ส่วนตอนนี้ถ้าใครต้องการห้องจะเป็นแบบ Resale ทั้งหมด ตัวรูปพื้นที่โครงการจะเป็นสี่เหลี่ยมมาต่อกันแบ่งหลักๆเป็นสามส่วนคือ อาคาร A , อาคาร B , และ Pool & Pavilion พื้นที่ระหว่างอาคาร A และ B จะเป็นจุด Drop Off

อาคาร A จะสูง 28 ชั้นส่วนที่จอดรถจอดได้ที่ชั้น 1-4 มี มีจุดล้างรถพร้อมเครื่องล้าง 2 เครื่อง Lobby อยู่ที่ชั้น 1 มีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว และลิฟท์ขนของ 1 ตัว ที่ชั้น 5 เป็นชั้น Facility มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส

ส่วนอาคาร B สูง 36 ชั้น จอดรถได้ที่ชั้น 1-5 มี Lobby ที่ชั้น 1 มีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว และลิฟท์ขนของ 1 ตัว ที่ชั้น 6 มีสวนนั่งพักผ่อน และฟิตเนส ส่วนสระว่ายน้ำอาคาร B จะอยู่ที่ชั้น 1 แยกไว้มุมด้านข้างอาคาร ส่วนกลางทั้งสองอาคารลูกบ้านใช้งานได้ทั้งหมดครับ

1

เริ่มจากด้านหน้าทางเข้าโครงการ อยู่ติดถนนซอยทองหล่อ 4 มีป้อมยามอยู่ซ้ายมือ ขวามือมีป้ายชื่อโครงการ

2

ชื่อโครงการทำเป็นตัวอักษรผิวสแตนเลสตั้งอยู่หน้าพุ่มไม้

3

เดินเข้าโครงการกันต่อครับ

4

ตัวโครงการแบ่งมาเป็น 2 อาคาร ฝั่งขวาคืออาคาร A ซ้ายมือคืออาคาร B

5

เดินเข้ามาจะเจอทางแยกขวาไปเข้าที่จอดรถอาคาร A หรือตรงไป Drop Off ด้านหน้าสองอาคาร

6

ถ้าตรงเข้าไปสุดจะเจอ Drop Off และมีทางเลี้ยวไปเข้าที่จอดรถอาคาร B มีจัดสวนตกแต่งสองฝั่งทาง

8

มองกลับไปที่ประตูทางเข้า

9

ผมพาไปทางอาคาร A ก่อนนะครับ

10

ตรงเข้ามาจะเจอไม้กระดก ลูกบ้านต้องใช้ Key Card แตะเข้าออก

11

ผ่านเข้ามาซ้ายมือจะเจอทางเลี้ยวเข้าที่จอดรถในอาคาร หรือตรงไปจอดใต้อาคารด้านหลัง

12

เลี้ยวเข้าไปดูที่จอดรถกันก่อน เริ่มจอดได้ตั้งแต่ซ้ายมือเลย

13

ขึ้นมาวนไปทางซ้าย

14

จากนั้นก็แยกจอดซ้ายขวา และวนจอดขึ้นไปถึงชั้น 4

15

แต่ละชั้นจะมีประตูเชื่อมเข้าลิฟท์ ประตูต้องใช้ Key card

16

โถงลิฟท์ชั้นจอดรถ

11

กลับลงมาข้างล่างกันต่อครับ

17

ตรงมาสุดทางจะเจอศาลขวามือ

18

เลี้ยวซ้ายตามทางมา จะเจอที่จอดรถใต้อาคาร แนวรั้วโครงการขวามือจะมีต้นไม้ปลูกตลอดแนว

19

เงยหน้ามองด้านบนฝั่งอาคาร A จะอยู่ติดกับ Vasu The Residence สูง 21 ชั้น ตัวอาคาร A สูง 28 ชั้นครับ

21

เดินเข้ามาสุด ซ้ายมือจะมีที่สำหรับล้างรถ

22

มีเครื่องล้างรถ 2 เครื่องครับ

24

เดินมาด้านหลังต่อ จะเป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์และจักรยาน

25

สุดทางจะเป็นส่วน Landscape มีทางเดินเชื่อมไปอาคาร B เชื่อมไปสระว่ายน้ำ และ Pavilion ด้านข้างอาคาร B ริมทางรวยด้วยหินกรวดและวาง Art object ลูกวงกลมเป็นระยะๆ

26

มีทางเดินเชื่อมแบบในร่มระหว่างสองอาคาร

27

เงยหน้าดูด้านบนหน่อย

28

เดินตามทางเดินไปด้านหลังอาคาร B กันต่อ

29

ทางเดินด้านหลังอาคาร B จะยาวเชื่อมไปจนถึงสระว่ายน้ำ และ Pavilion ซ้ายมือใต้อาคารก็เป็นทางเดินแบบในร่มครับ

30

มองเข้ามาใต้อาคารจะเจอสนามเด็กเล่น วางเครื่องเล่นไว้ตรงนี้ ด้านในจะเป็นทางเดินใต้อาคารเชื่อมจากอาคาร B ไปยังสระว่ายน้ำ และ Pavilion

31

เดินมาสุดทางจะเป็นส่วนสระว่ายน้ำ และ Pavilion ที่เด่นเลยคือต้นไม้ใหญ่

32

ฝั่งนี้จะเป็นด้านข้างของอาคาร B เดินเชื่อมออกไปด้านหน้าไม่ได้นะครับ

61

ส่วนของสระว่ายน้ำ และ Pavilion มองจากมุมด้านบนจะเห็นว่ามีต้นไม้ใหญ่อยู่กึ่งกลาง และใช้ประโยชน์จากร่มเงาได้ดี ทั้งส่วนของสระว่ายน้ำ สนามหญ้า และ Pavilion ทำให้ลูกบ้านลงไปใช้งานได้ตลอดทั้งวันไม่ต้องกลัวร้อนครับ

IMG_1428

กลับมาข้างล่าง เดินเข้ามาจะเจอสระว่ายน้ำแบบน้ำล้น ได้ร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ บรรยากาศดีน่าใช้งานครับ

33

ติดกับสระว่ายน้ำเป็นสนามหญ้าโล่งๆ มีต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขา มี Pavilion ใต้ต้นไม้

34

Pavilion วางโซฟาเก้าอี้ไว้ให้นั่งพักผ่อน นั่งมองวิวสระว่ายน้ำ

35

ด้านในสุดจะเป็นทางเดินขึ้นไปสระว่ายน้ำ

36

มองกลับไปที่ Pavilion

37

มองขึ้นไปบนสระว่ายน้ำ

38

เดินขึ้นมาจะเจอ Pavilion อีกจุด ซ้ายมือเป็นสระเด็ก ขวามือเป็นสระผู้ใหญ่

IMG_1412

เงยหน้ามองขึ้นไปจะเห็นอาคาร B

41

สระเด็กอยู่ฝั่งนี้ครับ เป็นแบบกลางแจ้ง

42

ด้านใน Pavilion วางเตียงนอนไว้ 5 เตียง

43

มองไปฝั่งด้านข้าง

44

จาก Pavilion มองออกไปจะเห็นสระว่ายน้ำยาวไปอีกฝั่ง เป็นแบบกลางแจ้งได้ร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่

45

ริมสระว่ายน้ำจะมีเห็น Pavilion ด้านล่าง และสวนหย่อมตกแต่ง

46

เดินเข้าไปด้านในริมสระต่อ จะมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำ

47

หลังแนวพุ่มไม้มีอ่างล้างมือ

48

อีกฝั่งเป็นห้องน้ำ และห้องอาบน้ำ มีแนวกำแพงกั้นบังสายตา

49

ภายในห้องน้ำ

50

ภายในห้องอาบน้ำ

51

ริมสระว่ายน้ำฝั่งนี้วางเตียงไว้นอนอาบแดดได้

52

กลับมาที่ทางเข้าไปยัง Drop Off ระหว่างสองอาคาร

53

เดินเข้ามาจะเจอทางแยกไปที่จอดรถอาคาร B ซ้ายมือ ตรงหน้าเป็นจุด Drop off

55

มองไปทางซ้ายจะเห็นทางเข้าที่จอดรถอาคาร B

56

มีไม้กระดกแยกทางเข้าออกต้องใช้ Key Card เหมือนอาคาร A

57

ผ่านเข้ามาจะเจอทางขวามือขึ้นที่จอดรถในอาคาร หรือเลยไปจอดด้านข้างใต้อาคารก็ได้ครับ

59

ชั้นจอดรถอาคาร B จอดได้ที่ชั้น 1-5

60

รถสีแดงคันนี้ เรียกว่า London Cab เป็นบริการจากโครงการโดยลูกบ้านใช้บริการได้ฟรี 2 ครั้งต่อเดือน ในระยะทางที่กำหนด และต้องจองล่วงหน้า ครั้งที่ 3 ขึ้นไปจะเสียค่าบริการตามราคาและระยะทางที่กำหนดครับ

IMG_1299

อีกคันเป็นรถตู้ คันนี้จะให้บริการฟรีไม่จำกัดจำนวนครั้ง นั่งไป BTS ทองหล่อ , เมเจอร์เอกมัย , Palk lane เอกมัย , Big C เอกมัย , Arena 10 , J Avanue ทองหล่อ , รพ.คามิลเลียน , รพ.สมิติเวช สุขุมวิท , Fuji Supermarket

54

กลับออกมาตรงจุด Drop Off ทำเป็นวงเวียนวาง Art Object ตรงกลาง เข้าไปดูในอาคารกันต่อครับ ซ้ายมือเป็นอาคาร B ขวามือเป็นอาคาร A

64

เงยหน้ามองด้านบน สีภายนอกอาคารจะใช้โทนเทาเข้ม เทาอ่อนและขาว

66

เข้าไปดูอาคาร A กันก่อนครับ อาคารสูง 28 ชั้น หน้าประตูทางเข้ามีกันสาดยื่นออกมา

67

ประตูทางเข้า Lobby อาคาร A เป็นกระจกบานเปิด 2 บาน

68

ลูกบ้านต้องใช้ Key Card แตะเข้าออก ถ้ามีเพื่อนเรามาหาสามารถใช้ Video Door Phone กดขึ้นมาคุยกับเราที่ห้องได้เลย จากนั้นเราก็กดเปิดประตูจากในห้องเรา เพื่อนก็จะเข้ามาได้โดยที่เราไม่ต้องลงมาข้างล่างครับ

69

เดินเข้ามาจะเจอโถง Lobby พื้นหินอ่อน ในสุดมีเคาน์เตอร์ต้อนรับ มีพนักงานนั่งให้บริการอยู่ น่าเสียดายที่โถง Lobby ดูธรรมดาไปหน่อยถ้าเป็นแบบ Double volume จะดูแพงกว่านี้ครับ

70

ฝั่งด้านในเป็นส่วนนั่งรอ ขวามือมีทางเดินไปโถงลิฟท์

71

เดินเข้ามาจะเจอเก้าอี้สีทองวางเด่นบนพื้นพรมตรงกลาง ผนังขวามือเล่นระดับทำให้ดูเป็นมิติ ซ้ายมือวางโซฟาไว้ให้นั่ง

72

ผนังฝั่งโซฟาเป็นกระจกสูงจากพื้นถึงฝ้าเลย ซ้ายมือมีห้องสมุดเล็กๆ

73

ภายในทำเป็นชั้นวางหนังสือและวางของตกแต่ง

74

มุมโซฟานั่งเล่น ขวามือในสุดเป็นห้องน้ำ

75

ทางเข้าห้องน้ำหลบมุมอยู่ตรงนี้ครับ

76

ห้องน้ำแบ่งชาย หญิง ทั้งพื้นและผนังเป็นหินอ่อนทั้งหมด

77

ภายในห้องน้ำชาย

78

อ่างล้างหน้าอยู่ฝั่งนี้ครับ

79

ภายในห้องน้ำแยกโถสุขภัณฑ์ไว้

80

ภายในห้องน้ำหญิง

81

กลับออกมาด้านนอกมองไปฝั่งเคาน์เตอร์

82

เราเดินไปโถงลิฟท์กันต่อครับ ขวามือจะมีส่วน Mail Box

83

ตรงส่วน Mail Box แบ่งตู้เป็นสองฝั่ง ตรงกลางวางเก้าอี้ไว้ให้นั่ง จุดนี้ทำมาได้สวยกว่าตรง Lobby ด้านหน้านะผมว่า

84

Chandelier ด้านบนเป็นแท่งเหมือนหยดน้ำผิวสแตนเลสสะท้อนกับแสงไฟได้ดี

85

ถัดจาก Mail box มาจะเป็นโถงลิฟท์ มีรถเข็นไว้ให้ใช้ได้

86

ลิฟท์โดยสารมี 3 ตัว

87

ภายในลิฟท์

88

ลิฟท์ล็อคชั้นต้องใช้ Key card ขึ้นได้เฉพาะชั้นของตัวเองและชั้น Facility

89

ขึ้นมาที่ชั้น 5 จะเป็นชั้นพักอาศัย และเป็นชั้น Facility ลูกบ้านใช้งานได้ทั้งสองอาคารครับ

90

จากโถงลิฟท์ชั้น 5 มองออกไปด้านนอกจะมีประตูเดินออกไปส่วน Facility

92

เดินออกมาจะเจอสระว่ายน้ำ ฝั่งซ้ายจะเป็นฟิตเนสและห้องน้ำ

93

ห้องฟิตเนสประตูทางเข้าเป็นบานเปิด 2 บาน

94

เดินเข้ามาด้านในวางเครื่องออกกำลังกายมาครบ

95

เครื่องปั่นจักรยาน 1 เครื่อง

96

เครื่องเดินแบบล้อหลัง 1 เครื่อง

97

ดัมเบล 1 ชุด

98

ม้านั่งออกกำลังกาย 2 ตัว

99

ลู่วิ่ง 2 เครื่อง

100

เครื่องปั่นจักรยานแบบเอนปั่น 1 เครื่อง

101

เครื่องบริหารกล้ามเนื้อ 1 เครื่อง

102

มองกลับออกไปที่สระว่ายน้ำด้านนอก

103

ถัดจากห้องฟิตเนสมาจะเป็นห้องน้ำแยกชาย หญิง

104

ภายในห้องน้ำชาย เดินเข้ามาจะเจอตู้ล็อคเกอร์ก่อนเลย

105

ถัดเข้ามาเป็นชุดอ่างล้างหน้า

106

อ่างล้างหน้าเป็นหินแกรนิตสีดำ

107

ถัดมาเป็นโถปัสสาวะ 2 โถ ในสุดเป็นห้อง Steam

108

อีกฝั่งเป็นห้องน้ำ 1 ห้อง และห้องอาบน้ำ 1 ห้อง

109

ภายในห้องอาบน้ำ

110

ภายในห้องน้ำ

111

กลับออกมาด้านนอกจะเป็นสระว่ายน้ำ วางเตียงนอนไว้ริมสระ ปลายสระอีกฝั่งมี Pavilion

112

ด้านข้างมีเตียงนอนวางอยู่ในน้ำแบบนี้

113

ริมสระมีทางเดินเชื่อมไปยัง Pavilion และมีแนวพุ่มไม้ยาวตลอดแนว

114

มองออกไปด้านนอกฝั่งนี้พื้นที่โครงการติดกับ Vasu The Residence สูง 21 ชั้น

116

ซ้ายมือคืออาคาร A ขวามือเป็น Vasu The Residence วิวฝั่งนี้ ถ้าอยู่ชั้นต่ำกว่า 22 ก็โดนบล็อควิวไปครับ

115

กลับมาทางเดินริมสระต่อ

117

เดินมาสุดทางจะเจอ Pavilion

118

ด้านในวางโซฟาไว้นั่งชมวิวได้

119

มองออกไปฝั่งด้านนอก ทิศเหนือหรือด้านหน้าโครงการ จะเห็น Market Place ถัดไปอาคารสูงสีขาวดำเป็นโครงการ HQ ของแสนสิริเองครับ ซ้ายมือเป็นโรงแรม Somerset

120

มองกลับเข้าไปด้านใน

121

เรามาต่อกันที่อาคาร B ครับ เป็นอาคารสูง 36 ชั้น Facility หลักของอาคารนี้อยู่ที่ชั้น 1 ที่ผมพาเดินไปดูมาข้างต้น และมีฟิตเนส สวน อยู่ที่ชั้น 6 ขึ้นไปนั่งพักผ่อนกันได้

122

ด้านหน้าทางเข้าอาคาร B มีประตู และ Video Door Phone เหมือนกัน

123

เข้ามาด้านใน Lobby อาคาร B พื้นหินอ่อนสีต่างจากอาคาร A มีเคาน์เตอร์ขวามือ ด้านในมีเก้าอี้นั่งวางเด่นอยู่ 1 ตัว ส่วนฝ้าที่เห็นลูกโป่งติดอยู่เป็นส่วนของนิติบุคคลที่ทำกิจกรรมช่วงเทศกาลต่างๆ อย่างที่เห็นเป็นช่วงตรุษจีนและวันวาเลนไทน์ครับ ซึ่งผมดูแล้วมันไม่เข้ากันเลย…

124

เดินเข้ามามองไปด้านใน ขวามือมีส่วนนั่งเล่นวางโซฟาไว้ ซ้ายมือที่ผนังตกแต่งเป็นกรอบรูปขนาดต่างกัน

125

ส่วนนั่งพักผ่อนวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ไว้ให้

126

ถัดมาซ้ายมือเป็นโถงลิฟท์ ขวามือเป็น Mail Box ตรงไปเป็นห้องน้ำ และประตูเดินเชื่อมออกไปยัง สระว่ายน้ำ และ Pavilion ด้านหลัง

127

ตรงส่วนของ Mail Box รูปแบบเดียวกันกับอาคาร A ครับ

128

ถัดเข้ามาขวามือมีประตูเดินเชื่อมออกไปยังทางเดินไปสระว่ายน้ำและ Pavilion ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ

129

ภายในห้องน้ำชาย

130

ด้านในสุดเป็นโถงลิฟท์ มีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว

131

วิวทิศตะวันออก (ถ่ายจากชั้น 5 อาคาร B) เป็นวิวที่โล่งที่สุดของโครงการครับ มองไปทางฝั่งเอกมัยติดรั้วโครงการส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยความสูงไม่เกิน 3 ชั้น ที่เห็นอาคารสูงสีขาวคือโครงการ Regent on the Park 2 ในซอยสุขุมวิท 61

119

ฝั่งทิศเหนือหรือด้านหน้าโครงการ (ถ่ายจากชั้น 5 อาคาร A) ติดกับถนนซอยทองหล่อ 4 วิวมองไปทางท้ายซอยทองหล่อ จะเห็น Market Place ถัดไปอาคารสูงสีขาวดำเป็นโครงการ HQ ของแสนสิริเองครับ ซ้ายมือเป็นโรงแรม Somerset

ฝั่งทิศใต้หรือด้านหลังโครงการติดกับบ้านพักอาศัยวิวมองไปทางถนนสุขุมวิท และฝั่งทิศตะวันตกติดกับ Vasu The Residence สูง 21 ชั้น

Unit Layout

โครงการนี้มีห้องให้เลือกแบบหลักๆดังนี้

  • 1 Bed ขนาด 49.50 – 63 ตารางเมตร
  • 2 Bed ขนาด 78 – 92 ตารางเมตร
  • 3 Bed ขนาด 103 – 148.50 ตารางเมตร
  • Penthouse ขนาด 168.50 – 295.50 ตารางเมตร


Room Type : 1A’ / 1B / 1C / 1D / 1E


Room Type : 1F / 2A / 2B / 2C / 2D


Room Type : 2E / 3A / 3B / 3C

ห้องตัวอย่าง

ห้องตัวอย่างที่จะพามาชมวันนี้มี 1 แบบ

  • 2 Bedroom ขนาด 78.00 ตร.ม.

Screen Shot 2017-03-04 at 2.00.51 PM

ห้องที่พามาชมวันนี้เป็นแบบ 2 Bedroom ขนาด 78.00 ตร.ม. แปลนห้องนี้ออกแบบให้พื้นที่ที่ใช้งานร่วมกันไว้ตรงกลางคือส่วนรับประทานอาหาร ส่วนครัว ห้องนั่งเล่นขั้นกลางระหว่างสองห้องนอน โดยเดินเข้าห้องมาเจอส่วนรับประทานอาหารและส่วนครัวก่อนเลย ได้เป็นครัวเปิด ถัดไปด้านในเป็นส่วนห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดกับระเบียงหลังห้อง ฝั่งซ้ายเป็นห้อง Master Bedroom มีห้องน้ำในตัว ในห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วย หน้าห้องน้ำมีพื้นที่ Walk in closet เล็กๆ อีกฝั่งจะเป็นห้องนอนเล็กและห้องน้ำ

170

เริ่มจากประตูทางเข้าห้องบานใหญ่สูงเกือบถึงฝ้า ตัวเลขที่บ้านติดบนผนังสีไม้โทนเดียวกับประตู ใต้เลขที่บ้านจะเป็นกริ่ง

2

ประตูได้ Digital Doorlock ของ Yale พร้อมมือจับแบบคันโยก เป็นแบบ 3 ระบบคือไขกุญแจ ใส่รหัส และ Key Card

3

ติดกับประตูด้านในห้องจะมีเครื่อง Video Door Phone ที่เชื่อมกับเครื่องตรงประตูทางเข้า Lobby มองจากจอจะเห็นคนที่มาหาเรา และคุยผ่านเครื่องนี้พร้อมทั้งปลดล็อคประตูได้เลย

4

เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนรับประทานอาหารก่อน เชื่อมกับส่วนครัวขวามือ ด้านในสุดเป็นส่วนห้องนั่งเล่น และระเบียงหลังห้อง ซ้ายมือเป็น Master Bedroom ขวามือมีทางเดินไปยังห้องนอนเล็กและห้องน้ำ พื้นห้องเป็น Engineering Wood ฝ้าสูง 3 ม. ฝ้าส่วนครัวสูง 2.7 ม. ไฟได้แบบดาวน์ไลท์ ผนังจะได้ฉาบเรียบทาสีทั้งห้อง

5

เดินเข้าห้องมาแล้วมองกลับไปที่ประตูทางเข้าจะเห็นแบบนี้

6

ส่วนรับประทานอาหารวางโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งได้ ห้องนี้วางแบบโต๊ะยาวเหมาะกินแบบอาหารจานเดียว ถ้าจะวางกับข้าวด้วยหน้าโต๊ะต้องกว้างกว่านี้หน่อยแต่ก็จะเสียพื้นที่ขวางทางเดินประตูไปอีก หรือจะใช้เป็นแบบโต๊ะพับได้ก็ช่วยแก้ปัญหาได้ครับ

7

อีกฝั่งเป็นส่วนครัวได้เป็นครัวเปิด ฝั่งนี้โครงการให้มาทั้งชุดเลยครับ เคาน์เตอร์ครัวเป็นตัว U

8

มีตู้เก็บรองเท้าแบ่งมา 3 ชั้น ใต้เคาน์เตอร์ครัว

9

ชุดตู้ครัวด้านบนเป็นบานเปิด 7 บาน

10

ตู้ทุกบานมี Soft close ให้ของ Kohler

11

ชุดตู้ครัวด้านล่างมีทั้งแบบบานเปิด และลิ้นชัก พื้นที่ยืนตรงส่วนครัวกว้างประมาณ 85 ซม. ท็อปเคาน์เตอร์เป็นหินแท้ ผิวสัมผัสดี

12

มีไมโครเวฟให้ของ Siemens ด้านล่างเป็นลิ้นชัก

13

มีตู้บานเปิด 3 บาน ตู้ใต้อ่างล้างจานมีถังขยะซ่อนมาให้

14

มีลิ้นชัก 3 ชั้น

15

เตาไฟฟ้า 4 หัวของ Siemens พร้อมเครื่องดูดควัน

16

อ่างล้างจานได้แบบ 2 หลุม ฝังท็อปมาเรียบร้อย

17

ก๊อกน้ำแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็นของ Franke

18

ถัดมาด้านในเป็นส่วนห้องนั่งเล่น ในสุดเป็นระเบียงซ้ายมือเป็น Master Bedroom ขวามือเป็นห้องนอนเล็ก สังเกตฝ้าซ้ายมือจะมีส่วนที่ดรอปลงมาซ่อนไฟมาให้

19

ห้องนี้วางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งให้ดู พื้นที่สามารถวางโซฟาตัว L ได้สบายๆครับ

20

ระยะดูทีวีประมาณ 3.99 ม.

21

ตรงระเบียงมีประตูกระจกบานเลื่อน 2 บาน สูงเกือบถึงฝ้า โครงการทำรางม่านซ่อนมาให้

22

มือจับประตูบานเลื่อน

23

เปิดมาจะเจอระเบียงขนาด 2.78 x 0.89 ม.

24

มองไปทางขวา

25

อีกฝั่งเป็นส่วนวางคอมเพลสเซอร์แอร์ และเครื่องทำน้ำร้อน มีประตูระแนงเปิดปิดได้

26

วิวระเบียงจากห้องนี้มองไปที่อาคาร B ครับ

27

ถ่ายอาคาร B ให้ดู มีสวนส่วนกลางที่ชั้น 6 ต้นไม้ดูหนาแน่นดีครับ

28

กลับเข้ามาด้านในห้องกันต่อ แอร์จะได้แบบ Concealed Type

30

ไปดู Master Bedroom กันต่อ

31

มือจับประตูแบบคันโยก

32

ในห้องนอนปูพื้นคนละทางกันห้องนั่งเล่น

33

ภายในห้องนอนพื้นที่วางเตียง King size ได้ ห้องนี้วางเตียงสี่เสาได้ความคลาสสิค

34

พื้นที่ข้างเตียงถึงผนังเหลือประมาณ 1.75 ม. วางตู้เก็บของหรือโต๊ะทำงานได้

35

ปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 88 ซม.

36

ข้างเตียงริมหน้าต่างเหลือประมาณ 47 ซม.

37

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.8 ม.

38

ฝั่งด้านนอกเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 2 บาน ที่เหลือเป็นบาน Fixed

39

หน้าต่างบานกระทุ้งเปิดได้ประมาณ 30 องศา

40

ฝั่งด้านในเป็นห้องน้ำและมีพื้นที่ Walk in closet

41

แอร์ในห้องนอนก็เป็นแบบฝังฝ้าครับ

42

หน้าห้องน้ำ Built-in ตู้เสื้อผ้าสูงถึงฝ้ามาให้ ขวามือเป็นห้องน้ำ

43

ตู้เป็นบานเปิด 3 บาน

44

มีลิ้นชัก 4 ชั้น

45

ตู้ด้านในอีก 2 บาน

46

ภายในห้องน้ำเดินเข้ามาตรงกลางจะเป็นส่วนแห้ง ชุดอ่างล้างหน้าอยู่กลางห้อง ได้กระจกเงาบานใหญ่

47

บานกระจกเปิดออกได้ 1 บานเป็นตู้เก็บของด้านใน มีไฟข้างกระจก

48

อ่างล้างหน้าของ Kohler ฝังท็อปมาให้เรียบร้อย ก๊อกน้ำแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็นของ Hansgrohe

49

ตู้ใต้อ่างล้างหน้าเป็นบานเปิด 2 บาน

50

ฝั่งด้านในมีอ่างอาบน้ำมาให้ของ Kohler

51

มีก๊อกน้ำและฝักบัว

52

อีกฝั่งวางโถสุขภัณฑ์ และเป็นพื้นที่ส่วนเปียก

53

โถสุขภัณฑ์ของ Kohler

54

พื้นที่ส่วนเปียกติดตั้งฉากกั้น ด้านในมีฝักบัวและ Rain Shower มีช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำ

55

หน้าตาฝักบัวทรงกลมขนาดพอดีมือ

56

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.1 x 1.05 ม.

57

พื้นห้องน้ำระดับต่ำกว่าพื้นห้องด้านนอก

58

กลับออกมาด้านนอกมองไปอีกฝั่ง จะมีทางเดินไปยังห้องนอนเล็กและห้องน้ำ

59

เดินเข้ามาซ้ายมือจะเป็นห้องนอนเล็ก ตรงกลางเป็นตู้วางเครื่องซักผ้า ขวามือเป็นห้องน้ำ

60

ภายในห้องนอนเล็ก ขนาดวางเตียง 5 ฟุตกำลังดี

61

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 1 ม.

62

ข้างเตียงริมหน้าต่างเหลือประมาณ 62 ซม.

63

ปลายเตียงเหลือประมาณ 95 ซม.

64

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.9 ม.

65

หน้าต่างในห้องนอนเป็นบานกระทุ้ง 2 บาน ที่เหลือเป็นบาน Fixed

66

ฝั่งด้านใน Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาด 4 บานมาให้เลย แอร์ได้แบบฝังฝ้าเช่นกันครับ

67

ออกมาด้านนอกต่อ ขวามือเป็นห้องน้ำ ซ้ายมือเป็นตู้วางเครื่องซักผ้า

68

ตู้เป็นบานเปิด 2 บาน ด้านในวางเครื่องซักผ้าได้ ทำชั้นวางของเพิ่มได้

69

ที่พื้นจะปูกระเบื้อง ทำธรนีสูงกันน้ำไหลออกมาด้านนอก

70

ภายในห้องน้ำด้านนอก จะไม่มีอ่างอาบน้ำนะครับ

71

ชุดอ่างล้างหน้าได้ตามนี้เลย

72

อ่างล้างหน้าฝังท็อป

73

โถสุขภัณฑ์วางไปอีกฝั่งด้านใน

74

พื้นที่ส่วนเปียกทำ Shower Box มาให้

75

ภายในมีฝักบัวมาให้อย่างเดียวไม่มี Rain Shower

76

พื้นห้องน้ำระดับต่ำกว่าพื้นห้อง


ราคา (มี.ค.60)

  • ราคา Resale เริ่มประมาณ 11 ล้านบาท

ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม. : ค่ากองทุน n/a บาท/ตร.ม

***รายละเอียดอื่นๆโปรดสอบถามทางโครงการครับ


สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการQuattro by sansiri ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อแท้ๆ ชึ่งเป็นย่าน Prime area ที่มีราคาที่ดินค่อนข้างสูงในอันดับต้นๆของกรุงเพทฯ ตัวโครงการตอนนี้ถ้าอยากเป็นเจ้าของจะเป็นห้อง resale โดยราคาขายตอนนี้ 1 Bedroom เริ่มประมาณ 11 ล้านบาท หรือเริ่ม 2xx,xxx บาท/ตารางเมตร ส่วนโครงการใหม่ๆที่เปิดกันตอนนี้ก็เริ่มสิบกว่าล้านขึ้นทั้งนั้นครับ ราคานี้คงใช้ความคุ้มค่ามาตัดสินอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องใช้ทั้งอารมณ์และความชอบส่วนตัวด้วยครับ ย่านนี้มีความอุดมสมบูรณ์เพียบพร้อมในทุกๆด้านตั้งแต่ปากซอยเข้าไปจนเกือบท้ายซอย ริมสองฝั่งทางถนนทองหล่อจะมีอาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน โรงแรม และอพาร์ทเม้นท์ รวมไปถึงคอนโดมิเนียมระดับ Luxury หลายโครงการ มีร้านอาหารอร่อยๆตั้งแต่แบบริมทางไปจนถึงระดับ Hi-end ให้เลือกทั้งอาหาร ไทย ฝรั่ง จีน ญี่ปุ่น เกาหลี มีคอมมูนิตี้มอลล์ใกล้อย่าง The Commons, J Avenue, 72 Courtyard, The Maze, The Taste, 9:53 Art Mall และ 49 Terrace ส่วนถ้าจะไปห้างสรรพสินค้าก็ขึ้น BTS ไปได้เลยสะดวกดีมีทั้งตรงเอกมัย พร้อมพงษ์ อโศก ยาวไปสยามเลย นอกจากนี้ยังเป็นย่านที่มีแหล่งสถานบันเทิงยามราตรีหลายร้านเลยครับ

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 4 เข้ามาประมาณ 70 ม. และอยู่ห่างจากปากซอยทองหล่อประมาณ 600 ม. การเดินทางเข้าออกสะดวกเนื่องจากซอยทองหล่อสามารถเข้าออกได้ทั้งจากฝั่งสุขุมวิท จากฝั่งถนนเพชรบุรี และจากซอยย่อยต่างๆ ถ้าจะเข้าเมืองก็ใช้ได้ทั้งเส้นสุขุมวิทและเส้นเพชรบุรี วิ่งเข้าอโศก พระรามเก้า นานา เพลินจิต ชิดลม สยามได้เลยสะดวกดี ถ้าจะไปโซนพระรามสี่ก็เข้าซอยสุขุมวิท 38 หรือ 40 มาเชื่อมออกถนนพระรามสี่วิ่งเข้าสาทร สีลม สามย่าน ยาวไปเยาวราชได้เลย ส่วนถ้าจะออกนอกเมืองก็ใช้ได้ทั้งเส้นสุขุมวิทและเส้นเพชรบุรี สุขุมวิทวิ่งไปพระโขนง อ่อนนุช บางนา สมุทรปราการ ออกบางนา-ตราดเชื่อมออกชลบุรีได้เลย ส่วนเส้นเพชรบุรีวิ่งไปแยกคลองตันเชื่อมออกพัฒนาการ และมอเตอร์เวย์ได้เลยครับ

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – จุดเด่นของโครงการอยู่ที่มีตัวเลือกในการเดินทางค่อนข้างหลากหลายเริ่มจากตัวโครงการมีบริการ Shuttle bus ฟรีในระยะทางและเวลาที่กำหนด และมีบริการ London Cab ใช้ฟรีเดือนละ 2 ครั้ง โครงการอยู่ห่างจาก BTS ทองหล่อประมาณ 600 ม. จะเดินไปหรือนั่ง Shuttle bus ไปก็ได้ครับ ปากซอยทองหล่อ 4 มีวินมอเตอร์ไซค์ ในซอยทองหล่อมี Taxi วิ่งผ่านไปมาตลอดเรียกได้สะดวก มีรถสองแถวที่วิ่งให้บริการในซอยทองหล่อ ส่วนรถเมล์ต้องไปใช้ตรงเส้นสุขุมวิทและเส้นเพชรบุรีมีวิ่งเกือบทั้งคืนครับ

การออกแบบโครงการและวัสดุ – โครงการออกแบบมา 2 อาคาร บนที่ดินขนาด 4-2-7 ไร่ แบ่งเป็นอาคาร A สูง 28 ชั้น จอดรถได้ที่ชั้น 1-4 ชั้นพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 5-28 และอาคาร B สูง 36 ชั้น จอดรถได้ที่ชั้น 1-5 ชั้นพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 6-36 อาคารรูปตัว L ทั้งสองอาคาร สีภายนอกใช้โทนเทาเข้ม เทาอ่อน และขาว

การออกแบบห้องพักอาศัยที่นี่มีให้เลือกแบบหลักๆ คือ 1 Bed ขนาด 49.50-63 ตร.ม. , 2 Bed ขนาด 78- 92 ตร.ม. , 3 Bed ขนาด 103-148.50 ตร.ม. , Penthouse ขนาด 168.50-295.50 ตร.ม. ห้องออกแบบมาดูโปร่งไม่อึดอัด ฝ้าสูง 3 ม. เก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆได้ดี มีส่วนของไฟซ่อน และทำรางม่านซ่อนไว้ให้ โครงการขายแบบ Fully Fitted ของที่ได้จะมี ชุดเคาน์เตอร์ครัวท็อปเป็นหินจริง อ่างล้างจานได้ 2 หลุมฝังท็อปได้ก๊อกน้ำแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็นของ Franke ส่วนตู้เย็น ไมโครเวฟ Hob & Hood ของ Siemens ในห้องนอนจะได้ตู้เสื้อผ้า Built-in สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Hansgrohe และ Kohler แอร์ได้แบบซ่อนใต้ฝ้าทุกส่วน พื้นห้องเป็น Engineering Wood ทุกห้องจะได้ Video Door Phone

สิ่งอำนวยความสะดวก – Facility โครงการนี้ให้มาแบบจัดเต็มมีให้ครบเลยครับ ที่อาคาร A มี Lobby ที่ชั้น 1 พื้นใช้หินอ่อนเป็นหลัก มีส่วนนั่งพักผ่อน มีห้องสมุดเล็กๆ จุดที่ชอบคือส่วน Mail Box ทำมาสวยดี ตรง Lobby ดูยังไม่สมราคาเท่าไหร่ แบรนด์ล่างกว่านี้ของแสนสิริบางโครงการดูดีกว่านี้ครับ ที่ชั้น 5 มีสระว่ายน้ำ มีส่วน Pavilion นั่งชมวิว มีฟิตเนส ห้องน้ำและ Steam ที่อาคาร B มี Lobby เช่นกัน มีส่วนนั่งพักผ่อน ที่ชั้น 6 มีสวนขึ้นไปนั่งพักผ่อนได้ มีฟิตเนส และจุดที่ผมชอบที่สุดของโครงการนี้คือส่วน Pool & Pavilion ด้านข้างของอาคาร B มีทางเดินเชื่อมถึงกัน ด้วยพื้นที่เดิมมีต้นไม้ใหญ่อายุหลายปีที่แผ่กิ่งก้านดูสวยงาม และใช้ประโยชน์จากร่มเงาได้โดยโครงการจัดสระว่ายน้ำไว้ให้พร้อมส่วนของ Pavilion ใต้ต้นไม้ใหญ่ ทำให้ลูกบ้านสามารถใช้งานได้ทั้งวัน จากที่ไปเข้าไปทำรีวิวตรงส่วนนี้ค่อนข้างร่มรื่นและเงียบสงบดีครับ เนื่องด้วยส่วนที่ติดกับพื้นที่โครงการส่วนนี้รอบๆจะเป็นบ้านพักอาศัยไม่มีตึกสูง Pool & Pavilion ถึงแม้จะจัดไว้ชั้นล่างแต่ก็มีความเป็นส่วนตัวสูงครับ

ลิฟต์โดยสารมีให้อาคารละ 3 ตัว ลิฟท์ขนของอาคารละ 1 ตัว มีจุดล้างรถและเครื่องล้างรถ 2 เครื่อง มีบริการรับจอดรถ บริการผู้ช่วยส่วนตัว บริการทำความสะอาด มีบริการ Shuttle Bus และ London Cab มีระบบ Video Door Phone ระบบรักษาความปลอดภัยมีรปภ. มี CCTV และผ่านเข้าออกด้วยระบบ Key Card Access


คะแนน

ทำเลที่ตั้งโครงการ 8.5 อยู่ในซอยทองหล่อแท้ๆ เป็นย่าน Prime area มีความอุดมสมบูรณ์ในตัว
การเดินทาง ใช้รถ 8.0 เชื่อมออกได้หลายเส้นทางทั้งเข้าและออกเมือง
การเดินทาง ไม่ใช้รถ 8.5 ห่างจาก BTS ทองหล่อ ประมาณ 600 ม. รถเมล์ วินมอเตอร์ไซค์ Taxi บริการ Shuttle Bus และ London Cab
ห้องและวัสดุ 8.0 ออกแบบมาดี วัสดุที่ใช้อยู่ในระดับมาตรฐาน ขายแบบ Fully Fitted มี ชุดเคาน์เตอร์ครัว, Hob & Hood , ตู้เสื้อผ้า , แอร์ , สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ Video Door Phone
สิ่งอำนวยความสะดวก 8.5 Facility มี Lobby , สวนหย่อม , ฟิตเนส 2 จุด , สระว่ายน้ำ 2 สระ , มีบริการรับจอดรถ , บริการผู้ช่วยส่วนตัว , บริการทำความสะอาด , Shuttle Bus , London Cab , ระบบ Video Door Phone , จุดล้างรถและเครื่องล้างรถ
ความคุ้มค่ากับราคา 8.0 รูปแบบโครงการออกแบบมาดี แต่ก็มีตัวเลือกอีกหลายที่ในทำเลเดียวกัน และราคาที่ไม่ต่างกัน
คะแนนรวมเฉลี่ย 8.25 ดี

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1685

Website : http://www.sansiri.com

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ

บี อเวนิว วัชรพล B-Avenue Watcharapol โฮมออฟฟิศจาก แสนสิริ

$
0
0

บี อเวนิว วัชรพล B-Avenue Watcharapol โฮมออฟฟิศจาก แสนสิริ

B-Avenue วัชรพล

บี อเวนิว วัชรพล…โมเดิร์นช็อปเฮาส์ – โฮม ออฟฟิศ ทำเลวัชรพล  ติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และทางด่วนกาญจนาภิเษก ดีไซน์สุดล้ำไม่ซ้ำใครกับสไตล์ Sharp Modern ที่ออกแบบแต่ละยูนิต ให้มีมิติไม่ซ้ำกัน แบบ 3D เชื่อมโยงกันด้วยเส้นสายและ เหลี่ยมมุมแตกต่างอย่างลงตัว

โดดเด่นด้วยลูกเล่นทันสมัยใช้จังหวะช่องกระจก และการดึงสีธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ อาคาร พร้อมรองรับธุรกิจเหนือระดับของคนรุ่นใหม่ ที่เต็มเปี่ยมด้วยศักยภาพและแรงบันดาลใจ  ที่ บี อเวนิว วัชรพล

ชื่อโครงการ  บี อเวนิว วัชรพล B-Avenue Watcharapol
เจ้าของโครงการ  แสนสิริ Sansiri
ลักษณะโครงการ
  • โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น หน้ากว้าง 6 เมตร
  • ช็อปเฮ้าส์ 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 4 เมตร
พื้นที่โครงการ  n/a
จำนวนบ้าน  n/a
พื้นที่ใช้สอย  เริ่มต้น 178-240 ตร.ม.
เนื้อที่บ้าน  เริ่มต้น 30.00 ตร.วา.
จำนวนห้อง  n/a
ที่จอดรถทั้งหมด  2 คัน
โซน  วัชรพล
ขนส่งสาธารณะ
  • จุดขึ้น-ลงทางด่วนสุขาภิบาล 5
รถโดยสารที่ผ่าน  n/a
ที่ตั้ง  ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม.
กำหนดการ n/a
ปีที่สร้างเสร็จ  n/a
ราคา  เริ่มต้น 5.2 ล้านบาท (ณ.วันเปิดตัว)
ค่าส่วนกลางและกองทุน  n/a
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
  • บิ๊กซี
  • ตลาดออเงิน
  • สนง.เขตสายไหม
  • รร.รัตนโกสินทร์สมโภช
  • รร.สารสาสน์
สิ่งอำนวยความสะดวก
  • สวนส่วนกลาง
  • กล้องวงจรปิด
  • รปภ. 24 ชม.
จุดเด่นของโครงการ  บี อเวนิว วัชรพล…โมเดิร์นช็อปเฮาส์ – โฮม ออฟฟิศ ทำเลวัชรพล  ติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และทางด่วนกาญจนาภิเษก..

ที่ตั้งโครงการ

ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม.

Map

:: ภาพประกอบการเดินทาง ::

1

พิกัด Google : 13.895564, 100.659941

การเดินทางเริ่มจากห้าแยกวัชรพล ⇒ ถนนสุขาภิบาล 5 ⇒3.5 กม.⇒ B-Avenue วัชรพล *ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์

the golden fuji wtDSCF4896 copy

การเดินทางเราเริ่มที่ห้าแยกวัชรพล ตรงมาตามถนนสุขาภิบาล 5 มาเรื่อย ๆ

the golden fuji wtDSCF4899 copy

ถนนสุขาภิบาล 5 เป็นถนนสี่เลน แบ่งรถวิ่งเข้าออกเมืองฝั่งละสองเลน ตรงมาจะเห็นปั๊มบางจากอยู่ทางซ้ายมือ และโชว์รูมโตโยต้าอยู่ทางขวามือค่ะ

the golden fuji wtDSCF4902 copy

ตรงไปแล้วขึ้นสะพานข้ามแยกไปค่ะ ถ้าเราไม่ขึ้นสะพานแล้วเลี้ยวซ้ายนี่จะเป็นถนนรัตนโกสินทร์สมโภช ซึ่งเป็นถนนที่วิ่งไปออกถนนใหญ่พหลโยธินได้นั่นเอง

DSCF0628_resize

ตรงไปคะ

Screenshot_00

ผ่านโครงการบ้านลัดดารมย์ วัชรพล และบ้านนันทวัน วัชรพล

Screenshot_3

ผ่านโครงการGolden Prestige วัชรพล-สุขาภิบาล 5 (Ep.300) Golden Town วัชรพล-สุขาภิบาล 5 (Ep.315)

ถึง

ถึงโครงการเศรษฐสิริ วัชรพล และ B-Avenue วัชรพล ซ้ายมือคะ ซึ่งตรงข้ามกับสำนักงานเขตสายไหมที่อยู่ขวามือ

Screenshot_6

หน้าโครงการบริเวณทางเข้าโครงการทั้งคู่คะ

:: บริเวณโดยรอบโครงการ ::

2

สถานที่สำคัญ

  • ทางด่วนยกระดับอุตราภิมุข
  • ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์
  • มอเตอร์เวย์
  • สนามบินดอนเมือง
  • ศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก
  • สำนักงานเขตสายไหม
  • โรงเรียนนายเรืออากาศ
  • เซ็นทรัลพลาซ่า รามอินทรา
  • เวนิส ดิ ไอริส
  • เพลินนารี่ มอลล์
  • บิ๊กซี มาร์เก็ต
  • บิ๊กซี สายไหม
  • บิ๊กซี รามอินทรา
  • เทสโก้ โลตัส
  • ฟู้ดแลนด์
  • ตลาดยิ่งเจริญ
  • ตลาดเอซี
  • ตลาดวงศกร
  • ตลาดออเงิน
  • มหาวิทยาลัยเกษตร บางเขน
  • มหาวิทยาลัยเกริก
  • โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเกษตร
  • โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสายไหม
  • โรงเรียนออเงิน
  • โรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัล
  • โรงพยาบาลภูมิพลฯ

:: แบบบ้าน ::

1

  • โฮมออฟฟิศ 4 ชั้น หน้ากว้าง 6 เมตร
  • พื้นที่ใช้สอย 240 ตร.ม.
  • ขนาด : พื้นที่อเนกประสงค์ทุกชั้น + 4 ห้องน้ำ
  • รองรับที่จอดรถในบ้าน 2 คัน

1.1

แปลนบ้านชั้น 1 | ชั้น 2 | ชั้น 3 | ชั้น 4

2

 

  • ช็อปเฮ้าส์ 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 4 เมตร
  • พื้นที่ใช้สอย 178 ตร.ม.
  • ขนาด : พื้นที่อเนกประสงค์ทุกชั้น + 3 ห้องน้ำ

1.2

แปลนบ้านชั้น 1 | ชั้นลอย | ชั้น 3 | ชั้น 4

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1685

Website : http://www.sansiri.com/

แสนสิริ ผ่ากลยุทธ์โซเชียล มีเดีย มาร์เก็ตติ้ง ตั้งเป้าขยายการรับรู้สู่ผู้บริโภค 1 พันล้านคนทั่วโลก

$
0
0

แสนสิริ ผ่ากลยุทธ์โซเชียล มีเดีย มาร์เก็ตติ้ง ตั้งเป้าขยายการรับรู้สู่ผู้บริโภค 1 พันล้านคนทั่วโลก ผ่านเว็บไซต์ 5 ภาษา และ Facebook Fan Page 4 เวอร์ชั่น มุ่งขยายตลาดต่างประเทศเต็มพิกัด

Sansiri

แสนสิริ เผยกลยุทธ์เบื้องหลังความสำเร็จระดับแถวหน้าของโซเชียล มีเดีย มาร์เก็ตติ้ง ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ด้วยจำนวนผู้ติดตามบน Facebook ที่เติบโตต่อเนื่องจนทะลุ 1 ล้านคน พร้อมตั้งเป้าขยายการรับรู้สู่กลุ่มผู้บริโภคทั่วโลก 1,000 ล้านคน ผ่านเว็บไซต์เต็มรูปแบบ 5 ภาษา – อังกฤษ จีนกลาง จีนกวางตุ้ง ญี่ปุ่น และรัสเซีย และ Facebook Fan Page สำหรับฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ และ International

พร้อมคอนเทนต์และกิจกรรมการตลาดที่เข้าถึงผู้บริโภคในประเทศเป้าหมายและประเทศอื่น ๆ สอดคล้องกับ  ทิศทางการก้าวสู่ความเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกในยุค Digital Transformation ผลักดัน กลยุทธ์หลักในการรุกขยายตลาดต่างประเทศที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด

11

นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แผนการขยายตลาดสู่ต่างประเทศคือกลยุทธ์การเติบโตหลักของเราในปี 2560 นี้ ซึ่งเราตั้งเป้าการเติบโตแบบก้าวกระโดดทุกปี โดยปีนี้ตั้งยอดขายไว้ที่ 8,000 ล้านบาท

ซึ่งเราได้เพิ่มเป้าจากเมื่อต้นปีที่อยู่ที่ 7,500 ล้านบาท เพราะเราเริ่มเห็นแนวโน้มดีมานด์ความต้องการที่อยู่อาศัยในเมืองไทยอยู่ในระดับสูงกว่าที่คาดการณ์ รวมทั้งลูกค้าในต่างประเทศรู้จักและเชื่อมั่นในแบรนด์แสนสิริมากขึ้นจนทำให้ตัดสินใจซื้อโครงการได้ง่ายขึ้น

ทั้งนี้ เป้ายอดขายใหม่ที่ 8,000 ล้านบาทเติบโตจากยอดขาย 5,400 ล้านบาทเมื่อปี 2559 ประมาณ 50% โดยเชื่อว่ายอดขายในตลาดต่างชาติหลัก คือ ฮ่องกง จีน สิงคโปร์ ไต้หวัน และญี่ปุ่นจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยประเทศละ 20-30%

ซึ่งช่องทางการตลาดบนสื่อดิจิทัลจะเป็นช่องทางที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายตลาดต่างประเทศได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพที่สุด เพราะพฤติกรรมการ เสพสื่อของผู้บริโภคเปลี่ยนไปสู่สื่อดิจิตอลมากขึ้น ตลอดจนช่องทางดิจิตอล และโซเชียลมีเดียยังเป็นช่องทางในการทำการตลาดได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรงได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ

เราจึงมีแผนที่จะผลักดันกลยุทธ์ด้านโซเชียล มีเดีย มาร์เก็ตติ้งอย่างเข้มข้นเพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทั่วโลก ซึ่งแนวทางการทำการตลาดในต่างประเทศนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

ทิศทางธุรกิจของบริษัทที่จะใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการดำเนินธุรกิจมากยิ่งขึ้นในยุค Digital Transformation ตลอดจนยังอาจช่วยในการดำเนินธุรกิจของบริษัทลูกของแสนสิริและธนาคารไทยพาณิชย์ที่กำลังทำ Property Technology อย่างสิริ เวนเจอร์ในอนาคตด้วย”

12

นายสมัชชา พรหมศิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กรและระบบฐานข้อมูลการตลาด บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แสนสิริให้ความสำคัญกับการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดอย่างครอบคลุมและเข้าถึงเป้าหมายมาโดยตลอด

เราเล็งเห็นว่า วันนี้โซเชียล มีเดีย คือสื่อที่จะทำให้แบรนด์ใกล้ชิดและเข้าถึงผู้บริโภคได้ดีที่สุด เราจึงสร้างและผลักดันโซเชียล มีเดีย ของตนเองในทุกช่องทางสำคัญ

ทั้ง Facebook, Instagram, Youtube ,Twitter และ Pinterest ทุกช่องทางมีการอัพเดทข้อมูลข่าวสารอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ผู้ติดตามได้รับรู้ถึงเรื่องราว ความเป็นไปของแบรนด์ได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะ Facebook ซึ่งเป็นโซเชียล มีเดีย ที่คนไทยใช้มากที่สุดและเป็นช่องทางที่แสนสิริประสบความสำเร็จมากที่สุดเช่นกัน”

“เราเป็นแบรนด์แรกๆ ที่นำกลยุทธ์ทางการตลาดแบบ Facebook Live Influencer  Marketing มาใช้ โดยการให้ Influencer ด้านอสังหาริมทรัพย์มาทำ Facebook Live นำเสนอจุดขายของโครงการเดอะไลน์ อโศก – รัชดา  ติดต่อกัน 4 วันก่อนเปิดจอง

ซึ่งนับเป็นแคมเปญที่สร้างความฮือฮาและประสบความสำเร็จ และพิสูจน์ให้ถึงความกล้าของเราในการลองเสี่ยงกับความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ จนกลายเป็นกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมได้ในที่สุด”

ความโดดเด่นและเป็นผู้นำในด้านโซเชียล มีเดีย มาร์เก็ตติ้งของแสนสิริมีบทพิสูจน์มาแล้วจากรางวัล Thailand Zocial Award 2016 ในประเภท “Top Brand Engaged on Social Media by Category “Real Estate” ที่ใช้เครื่องมือโซเชียล มีเดีย และสื่อออนไลน์ในการทำกลยุทธ์สื่อสารการตลาด

และสร้างการรับรู้แบรนด์ไปยังผู้บริโภคยุคใหม่ในวงกว้างยอดเยี่ยม และมียอดผู้ติดตามมากที่สุดรวมใน 5 ช่องทาง (Social Media Scores) คือ Facebook Instagram Youtube  Twitter และ Pinterest

แสนสิริให้ความสำคัญกับการทำการตลาดผ่าน Facebook Fan Page อย่างจริงจัง ซึ่งปัจจัยสำคัญที่มีผลอย่างมากต่อการสร้างจำนวนฐานแฟนให้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

จนมียอดกดไลค์จากผู้ใช้ที่เป็นลูกบ้านของแสนสิริเองและผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ใช่ลูกบ้านของแสนสิริด้วย ถึง 1 ล้านไลค์ คือการวางกลยุทธ์ด้านเนื้อหาใน Facebook Fan Page  แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ

1. คอนเทนต์ – ซึ่งเลือกและปรับแต่งเนื้อหาให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้  และที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์โดยตรง นวัตกรรมการตกแต่งบ้าน ดีไซน์ กิจกรรมซีเอสอาร์ รวมถึงสิทธิพิเศษต่างๆ จากแสนสิริ แฟมิลี่

2. การจัดกิจกรรมออนไลน์ – เพื่อให้ผู้ติดตามเพจได้มีส่วนร่วมกับ Fan Page อยู่เสมอ ทั้งกิจกรรมหลักที่สะท้อนเป็นแบรนด์ และกิจกรรมตามเทศกาลต่าง ๆ หรือช่วงเวลาพิเศษ  และ

3. การเลือกลงโฆษณาใน Facebook ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย – เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้รับข่าวสารจากแบรนด์อย่างรวดเร็ว

“จากความสำเร็จในการพิชิตยอด 1 ล้านไลค์บน Facebook เราได้วางเป้าหมายต่อไปที่จะเข้าถึงผู้บริโภคทั่วโลก 1,000 ล้านคน โดยเปิดตัวเว็บไซต์ International อย่างเต็มรูปแบบภายในปีนี้ใน 5 ภาษา คือ อังกฤษ จีนกลาง จีนกวางตุ้ง ญี่ปุ่น และรัสเซีย

พร้อม Facebook Fan Page 4 เวอร์ชั่น สำหรับฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ และ International รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์การตลาด Facebook  เพื่อทำให้ไปได้ไกลมากกว่าเดิมแบบก้าวกระโดดเท่าทวีคูณ ซึ่งมีแนวทางสำคัญ 3 ประการคือ

  • สร้างความสนิทและความไว้ใจระหว่างผู้ใช้ที่เป็นแฟนเพจกับแบรนด์ – การสร้างความสนิทสนมและเป็นกันเองกับ ผู้ใช้ที่เป็นแฟนเพจ ผ่านการพูดคุยและตอบคำถาม เพื่อให้เข้าถึงและสร้างความไว้วางใจในตัวแบรนด์ ให้เป็นเหมือนที่ปรึกษาที่เชื่อใจและไว้ใจได้ เมื่อมีเรื่องที่อยากได้คำแนะนำเกี่ยวกับบ้านจะนึกถึงแสนสิริเป็นแบรนด์แรก

 

  • เสริมทัพคอนเทนต์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น – โดยเสริมคอนเทนต์ในลักษณะ Real-Time Marketing ที่มีผลิตภัณฑ์เข้าไปอยู่ในคอนเทนต์ด้วย เพื่อตอกย้ำภาพของแบรนด์ให้ดูเป็นแบรนด์ที่มีความทันสมัยและทันเหตุการณ์อยู่เสมอ เช่น Facebook Live หรือภาพและวิดีโอแบบ 360 องศา โดยจะมีการปรับและเลือกรูปแบบการนำเสนอให้เหมาะกับแต่ละเนื้อหาที่ต้องการจะสื่อ ซึ่งเคยมีการลองทำแล้วและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี

 

  • มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับ Global Pages – สอดคล้องกับแผนการขยายตลาดและเติบโตในต่างประเทศซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดในปีนี้ มากขึ้น โดยจะเริ่มที่ ฮ่องกง ไต้หวัน และสิงคโปร์ โดยการผลิตคอนเทนต์ ให้ตรงกับความต้องการของตลาดต่างประเทศ เช่น เรื่องของภาษา, ความสนใจของคนในท้องถิ่นนั้น ๆ (Insight) เพื่อสร้างรากฐานความแข็งแกร่งให้ Global Pages โดยมีเป้าหมายที่จะมุ่งไปให้ถึงคือลูกค้าหลักพันล้านคนในตลาดต่างชาติ

unnamed

ทั้งนี้ แนวทางการปรับกลยุทธ์ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งของแสนสิริ จะมุ่งจับเทรนด์เทคโนโลยีที่มาแรงในปี 2560 นี้  ไม่ว่าจะเป็น เทรนด์ด้านโมบิลิตี้อย่างเทคโนโลยี AMP (Accelerated Mobile Pages) เพื่อการโหลดคอนเทนต์ที่รวดเร็วทันใจ เทคโนโลยี Geotagging ระบุพิกัดของผู้บริโภคเป้าหมายเพื่อให้สามารถนำเสนอข้อมูล สินค้าหรือบริการได้อย่างถูกที่ ถูกเวลา

เทรนด์ด้าน Data Tracking เพื่อให้เข้าใจรูปแบบเส้นทางการตัดสินใจของผู้บริโภคและสามารถนำเสนอคอนเทนต์ที่ตรงใจ โดยไม่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกถูกรบกวน หรือล่วงล้ำความเป็นส่วนตัว ตลอดจนเทรนด์นวัตกรรม อย่าง Chatbot ทำหน้าที่คอยโต้ตอบกับผู้บริโภคเหมือนเป็น Call Center และเทคโนโลยี Smart Home เป็นต้น

แสนสิริ เปิดแกรนด์โอเพนนิ่งโครงการ ‘98 WIRELESS’ บนถนนวิทยุ คอนโดระดับซูเปอร์ลักซ์ชัว

$
0
0

แสนสิริ พร้อมให้พิสูจน์ความเป็นที่หนึ่งในทุกบริบท เพื่อเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จะก้าวสู่ระดับสากล พร้อมเปิดแกรนด์โอเพนนิ่งโครงการ ‘98 WIRELESS’ (ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส) บนถนนวิทยุ คอนโดระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ที่จะกลายเป็นตำนานของประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

3

บนวิสัยทัศน์ที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับสากลในสายตานักลงทุนทั่วโลก แสนสิริใช้เวลากว่า 7 ปีเต็มในการพิสูจน์ศักยภาพนี้บนความท้า ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกับโครงการ ’98 WIRELESS’ แฟล็กชิพคอนโดมิเนียมของแสนสิริตลอดกว่า 33 ปีของการพัฒนาโครงการ และด้วยประสบการณ์กว่า 33 ปีนั้น ทำให้แสนสิริมั่นใจ และพร้อม ที่จะเทียบชั้นกับตลาดสากลว่าจะเป็นคอนโดมิเนียมระดับซูปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ที่ดีที่สุดในเมืองไทย และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กับจำนวนห้องชุดเพียง 77 ยูนิต แต่มีมูลค่าโครงการรวม สูงถึง 8,700 ล้านบาท

4

บันทึกหน้าประวัติศาสตร์ในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยเพื่อก้าวสู่ระดับสากล

ด้วยแนวคิดการตลาดแบบ ‘สร้างเสร็จก่อนขาย’ เพื่อมอบความมั่นใจแก่ลูกค้าซึ่งจะได้เห็นโครงการจริง วิวจริง และห้องจริงก่อนการตัดสินใจซื้อ รวมถึงเป็นทำให้แสนสิริมั่นใจว่าลูกค้า ทุกคนจะได้สิ่งที่ดีที่สุดอย่างแท้จริงเช่นเดียวกัน และสัมผัสได้ถึงความคุ้มค่าเพื่อเป็นหนึ่งในเจ้าของโครงการแห่งนี้

ดังนั้น จึงทำให้ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา แสนสิริจึงทำงานด้วยความละเมียดละไม และใส่ใจกับทุกรายละเอียดของการรังสรรค์คุณค่า เพื่อให้ 98 WIRELESS  สามารถมอบความเป็นที่หนึ่งในทุกมิติให้กับผู้อยู่อาศัย

ทุกความงดงามและความปราณีตบรรจงที่ได้สัมผัส คือผลงานของกระบวนการคิดอันแยบยล ด้วยการออกแบบภายใต้ปรัชญา “The Best Comes as Standard”

และวันนี้แสนสิริพร้อมแล้วที่จะเชื้อเชิญลูกค้าให้เข้ามาสัมผัส และพิสูจน์คุณค่าของงานฝีมือระดับโลกภายในพื้นที่จริง และบรรยากาศจริงบนถนนวิทยุ

เป็นที่น่าภาคภูมิใจว่าจากกระแสข่าวของการพัฒนาโครงการช่วงที่ผ่านมา แสนสิริได้รับความไว้วางใจ และความเชื่อมั่นในศักยภาพจากทั้งกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ที่ชื่นชอบในคุณภาพ และรูปแบบงานดีไซน์ที่เน้นความพิถีพิถันในทุกรายละเอียดแบบแสนสิริ

ตลอดจนแนวคิดหลักของโครงการ 98 WIRELESS จนกลายเป็นที่กล่าวถึงอยู่เสมอ จึงทำให้วันนี้ 98 WIRELESS   มียอดจองห้องชุดก่อนการเปิดตัวแล้วกว่า 50%

โดยมีระดับราคาขายเฉลี่ย ณ ปัจจุบัน ที่ 580,000 บาท/ตารางเมตร หรือระดับราคา 70-250 ล้านบาท โดยห้องที่มีราคาสูงสุด อยู่ที่ 650 ล้านบาทนั้น มีลูกค้าให้ความสนใจซื้อตั้งแต่ก่อนเปิดขายอย่างเป็นทางการ

นอกจากนั้น เมื่อเปรียบเทียบในช่วงระยะ 5 ปีที่ผ่านมา (ปี พ.ศ. 2555 – 2559) กระแสความสนใจลงทุนจากกลุ่มชาวต่างชาติ (ในโครงการของแสนสิริ) ยังขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 762%

เป็นตัวเลขที่สะท้อนชัดว่าชื่อของ ‘แสนสิริ’ นั้น ได้รับการยอมรับและเชื่อมั่นในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับสากลแล้วอย่างแท้จริง

1

โดยหนึ่งในจำนวนห้องที่ขายไปแล้วอย่างรวดเร็วก็คือ เพนท์เฮ้าส์ และซูเปอร์เพนท์เฮ้าส์ ที่ได้รับการเรียกขานว่า “The One” ซึ่งตั้งอยู่ 2 ชั้นสูงสุดของโครงการ นับเป็นซูปเปอร์เพนท์เฮ้าส์ ที่หรูหราและราคาสูงสุดที่ของประเทศไทย

แต่ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นห้องขนาด 2 -3 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ เพนท์เฮ้าส์ หรือซูเปอร์เพนท์เฮ้าส์ แสนสิริได้รังสรรค์ทุกองค์ประกอบให้ได้มาตรฐานสากลในระดับซูปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ที่มีความสมบูรณ์อย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน ตามแนวคิด The Best Comes as Standard

หลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แสนสิริจะเปิดประตู 98 WIRELESS ต้อนรับผู้ที่สนใจในแบบ ‘เอ็กซ์คลูซีฟ’ ผ่านการนัดหมายล่วงหน้า พร้อมจัดกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่องทั้งกับกลุ่มลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ

โดยได้ตั้งเป้าสัดส่วนระหว่างลูกค้าไทยต่อลูกค้าต่างชาติไว้ที่ 80:20 เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาธุรกิจในปีพ.ศ.2560 ที่บริษัทต้องการพัฒนาตลาดต่างชาติให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจีน สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน และญี่ปุ่น เป็นต้น

“ด้วยความสมบูรณ์แบบของโครงการ เรามั่นใจว่า 98 WIRELESS จะสามารถดึงดูดลูกค้าต่างชาติได้อย่างดีเยี่ยม เนื่องจากระดับราคาเฉลี่ยที่ 580,000 บาทต่อตารางเมตรนี้ ยังถือเป็นราคาที่ดึงดูดใจมากสำหรับตลาดต่างประเทศ

เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศใกล้เคียงอย่างสิงคโปร์ และฮ่องกง เป็นต้น” (ข้อมูลจาก Global Property Guide Research ระบุว่าราคาอพาร์ทเมนต์เฉลี่ยต่อตารางเมตรในพื้นที่เศรษฐกิจชั้นในของกรุงเทพฯ ยังต่ำกว่าของฮ่องกงและสิงคโปร์ถึง 546.5% และ 247.8% ตามลำดับ)

2

นอกจากนี้ แสนสิริยังมองว่าสำหรับตลาดชาวต่างชาติ ศักยภาพของทำเลที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าและแนวโน้มการลงทุนในเส้นทางรถไฟฟ้าใหม่ๆ ยังคงเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดการซื้อขายจากตลาดต่างชาติต่อเนื่องในอนาคต “จากสถิติการสำรวจชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทยนิยมซื้อคอนโดเพื่อเป็นสินทรัพย์และอยู่อาศัยเองถึง 72.32% ในขณะที่ 27.68% ซื้อเพื่อลงทุน”

ซึ่งองค์ประกอบที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ทุกแง่มุมของโครงการ 98 WIRELESS รวมถึงบริการ หลังการขายที่มีคุณภาพจากแสนสิริ ก็จะเป็นคำตอบที่ใช่ที่สุดสำหรับลูกค้าทั้งสองกลุ่ม อย่างแน่นอน

“The Best Comes as Standard” ปรัชญาการสร้างคุณค่าและความสมบูรณ์แบบระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่

แสนสิรินำประสบการณ์ที่สั่งสมมาตลอดกว่า 33 ปีในการเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะระดับบน ซึ่งเป็นหัวใจในการพัฒนาโครงการ เพื่อเข้าถึงความต้องการของลูกค้า ในบริบทต่างๆ กัน

7

ทั้งนี้ จึงคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดและตอบโจทย์ลูกค้าได้ในระดับลึกซึ้งมาผสานรวมกันไว้ภายใต้แนวคิดโครงการ 98 WIRELESS ซึ่งจนถึงนาทีนี้ แสนสิริมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการ 98 WIRELESS คือแฟล็กชิพคอนโดมิเนียมระดับซูปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ที่ดีที่สุดในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีองค์ประกอบที่โดดเด่น และเป็นเลิศในทุกมุมมอง อาทิ

– สิทธิในที่ดินแบบฟรีโฮลด์บนทำเลทองถนนวิทยุ ที่หาได้ยากมากในปัจจุบัน ถนนวิทยุหรือ ที่ชาวต่างชาติเรียกขานติดปากในชื่อ Wireless Road ไม่ได้เป็นเพียงถนนสายเศรษฐกิจสำคัญและ ที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลของนานาประเทศเท่านั้น

แต่ยังมีเสน่ห์ ในฐานะทำเลมหานครที่คงความรื่นรมย์ร่มรื่นและเป็นมิตรต่อสายตาไว้ได้ไม่เสื่อมคลาย หากจะมองในแง่ของบุคลิกก็คงเปรียบได้กับ ‘ฟิฟต์อเวนิว’ ของกรุงนิวยอร์ก ที่สามารถส่งผ่านคุณค่าเหนือกาลเวลา และทำให้ที่ดินบนถนนสายนี้นี้มีมูลค่าสูงขึ้นได้ต่อเนื่องตลอดทุกปี

โดยราคาที่ดินในย่านถนนวิทยุในปี 2010 นับตั้งแต่เริ่มพัฒนาโครงการ มีอัตราการซื้อขายที่ดินสูงจนกลายเป็น ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ อยู่ที่ 1.5 ล้านบาทต่อตารางวา ขณะที่ปัจจุบันราคาที่ดินในย่านวิทยุขยับตัวสูงขึ้นถึงกว่า 2 ล้านบาท (อย่างไม่เป็นทางการ)

สำหรับโครงการ 98 WIRELESS ที่ตั้งอยู่ถัดจากบ้านพักเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย นับว่าเป็นทำเลที่แวดล้อมไปด้วยทัศนียภาพในระดับร้อยล้าน มีจุดพักผ่อนสายตาจากทิวต้นไม้ใหญ่ และพื้นที่สีเขียวอันเป็นความหรูหราที่ประเมินค่ามิได้ในอนาคต

ทั้งยังอยู่ ไม่ใกล้ไม่ไกลจากความรุ่มรวยของวัฒนธรรมร่วมสมัย มีแหล่งช้อปปิ้งระดับลักซ์ชัวรี่ โรงแรมห้าดาว ศูนย์กลางการใช้ชีวิตสมัยใหม่ ฯลฯ ที่แวดล้อมอยู่ในระยะเดินถึง  นอกจากนั้นยังมีโครงการศูนย์สุขภาพครบวงจรระดับไฮเอนด์ที่กำลังจะถูกพัฒนาขึ้นในเร็ววันนี้ด้วย

000

– การผสมผสานผลงานของดีไซเนอร์ชั้นนำระดับโลกรวมไว้ในหนึ่งเดียว

การออกแบบโครงการ 98 WIRELESS นำแรงบันดาลใจจากศิลปะโบซาร์ (Beaux-arts) อันเรืองรองในยุโรปและอเมริกา (ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงกลางศตวรรษที่ 20) เป็นเอกลักษณ์ความตระการตาที่คงความคลาสสิกเป็นอมตะ ผสมผสานระหว่างวิจิตรศิลป์และงานฝีมือชั้นสูง ทำให้อาคารสถาปัตยกรรมหลายแห่งของโลกตะวันตกก้าวขึ้นเป็น ‘ไอคอน แห่งยุค’ และเล่าขานคุณค่าความงดงามมาได้นับศตวรรษ

สำหรับโครงการที่พักอาศัยระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ทั่วโลก สถาปัตยกรรมแบบ Beaux-arts นี้ยังคงเป็นรูปแบบที่ทรงคุณค่า และได้รับความนิยมต่อเนื่องไม่เสื่อมคลาย โดยเฉพาะในมหานครใหญ่ๆ ของโลกอย่างเช่น นิวยอร์กและลอนดอน

ที่สำคัญ ยังเป็นครั้งแรกของแสนสิริที่มีบริษัทที่ปรึกษา และบริษัทดีไซน์ชั้นนำมารวมตัวเพื่อพัฒนาโครงการมากที่สุดตั้งแต่เคยทำมา เพื่อสร้างสรรค์ผลงานอย่างเป็นเอกลักษณ์ เริ่มตั้งแต่ DWP (Design Worldwide Partnership) บริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมระดับเวิล์ดคลาสที่จดทะเบียนในประเทศไทยแต่คว้ารางวัลระดับโลกมามากมาย, Anne Carson Interiors (นิวยอร์ก) อินทีเรียร์ดีไซเนอร์ที่โดดเด่นในสไตล์คลาสสิกร่วมสมัย เคยรังสรรค์ผลงานมากมายให้แก่ Ralph Lauren Home

โดยนอกจากเธอจะดูแลการตกแต่งให้กับส่วนกลางทั้งหมดแล้ว ไฮไลท์สำคัญที่เธอทำให้กับ 98 WIRELESS คือการเลือกสรรคอลเลคชั่นต่างๆ จาก Ralph Lauren Home ที่ล้วนแต่สะท้อนความเป็นลักซ์ชัวรี่ที่มีเอกลักษณ์นำมาใช้ในห้อง

แต่งโถงทางเข้าจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคส่วนกลางของโครงการ ทั้งล็อบบี้เลานจ์ บิสซิเนสเลานจ์ ห้องทีรูม ห้องสปา จากุซซี่ และพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆ

นอกจากนั้น ยังมีบริษัท T.R.O.P Terrain + Open Space มาร่วมออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมโดยรอบโครงการ รวมถึง Inverse Lighting ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบแสง เพิ่มความชัดในการมองเห็นทั้งเวลากลางวันและกลางคืน

โดยที่แสงไฟในช่วงกลางคืนนั้นออกแบบมาให้ก่อให้เกิดมลภาวะทางแสงน้อยที่สุด ร่วมด้วยดีไซเนอร์ชั้นนำอีกมากมาย อาทิ Meinhardt / Palmer Acoustics เพื่อควบคุมเสียงเข้าสู่ภายในโครงการ เป็นต้น

และที่ขาดไม่ได้ นั่นคือ ที่ปรึกษา   ด้าน LEEDS เพื่อแนะนำแนวทางการออกแบบ เพื่อให้ได้ใบรับรอง Green Building จากอเมริกา ซึ่งเป็นใบรับรองที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคจากทั่วทุกมุมโลกว่าสามารถช่วยประหยัดพลังงานอย่างยั่งยืน

20160307-98W-Entrance-Hall

– ทุกรายละเอียดคืองานคราฟท์ที่ดีที่สุดจากวัสดุชั้นเลิศ

รายละเอียดการตกแต่งภายในโครงการ 98 WIRELESS รังสรรค์ขึ้นผ่านความประณีตบรรจงเป็นหัวใจ ตั้งแต่กรรมวิธีการเลือกวัสดุตกแต่งทั้งภายนอกและภายใน ที่นักออกแบบคัดสรรตัวเลือกดีที่สุดจากทุกมุมโลกมามอบให้  ไม่ว่าจะเป็นวัสดุปูผิวผนังหินไลม์สโตนจากโปรตุเกส  หินอ่อน Carrara ลายสวย และที่พิเศษที่สุดคือหินอ่อนสีขาว Statuario จากเหมืองในอิตาลี ที่มีลายโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และหาได้ยากที่สุดในโลก

โดยในโครงการ 98 WIRELESS นี้ มีพื้นที่ที่ใช้หินธรรมชาติทั้งหมดรวมกว่า 28,000 ตารางเมตร รวมทั้งงานตกแต่งปูนปั้นบนเพดาน คิ้วบัว และหัวเสา จากโรงช่างที่ฝีมือดีที่สุดอย่าง Hyde Park Mouldings ประตูไม้จริงลาย Mahogany Crotch ที่หาได้ยากที่สุด (นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา)การปูพื้นไม้โอ๊คลายก้างปลา หรือที่เรียกว่าลาย Herringbone

ทั้งยังคัดเลือกแบรนด์ดังระดับโลกมาผสมผสาน ในทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นมือจับประตูทองเหลืองแท้ 100%จาก Baldwin เครื่องใช้ไฟฟ้า Gaggenau และชุดครัว Siematic ตู้เย็น และตู้แช่ไวน์จาก Sub-Zero อ่างอาบน้ำ Kaldewei สุขภัณฑ์ห้องน้ำ Kallista อุปกรณ์ห้องน้ำ Lefroy Brooks ฯลฯ โดยเป็นมาตรฐานในทุกยูนิต

– บริการเหนือระดับ ตอบโจทย์วิถีชีวิตซูเปอร์ลักชัวรี่ที่แท้จริง

ไม่เพียงแต่เฉพาะความงดงามและคุณค่าของโครงการในทุกองค์ประกอบ จากการที่แสนสิริ มีปรัชญาที่ว่า CONSTRUCTING LIFE, NOT JUST BUILDINGS เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยในโครงการ 98 WIRELESS แสนสิริจึงได้เตรียมนำเสนอการบริการ สุดเอ็กซ์คลูซีฟในหลายรูปแบบ

ได้แก่ บริการรถประจำโครงการอย่าง ‘เบนท์ลี่ย์’ นวัตกรรม ยานยนต์สุดหรูซึ่งได้รับการขนานนามว่าคือ “The World’s best luxury sedan” ที่สั่งผลิตพิเศษเพื่อเป็นรถประจำโครงการฯ โดยใช้สีสั่งพิเศษ คือ British Racing Green เพื่อบ่งบอกถึงความเป็นรถยนต์อังกฤษอย่างชัดเจน

นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งเอกลักษณ์บนป้ายทะเบียน “วย 98” ที่สื่อถึงถนนวิทยุ (วย) และ 98 คือบ้านเลขที่ของโครงการ ซึ่งกำลังจะกลายเป็นเลขที่บ้านของโครงการที่พักอาศัยที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสร้างความโดดเด่นในทุกครั้งที่เบนท์ลี่ย์คันพิเศษนี้ได้ทำหน้าที่ออกไปให้บริการผู้พักอาศัยโครงการ 98 WIRELESS

นอกจากนั้น ยังมีบริการจอดรถแบบ Valet Parking และที่จอดรถใต้ดินที่สามารถรองรับได้ถึง 240% รวมถึงที่จอดพิเศษสำหรับรถซูเปอร์คาร์ที่ได้รับการออกแบบพื้นที่โดยรวม เพื่อให้เสมือนได้จอดรถในโชว์รูมชั้นนำ จากทีมงานที่เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพ และบริการสถานี EV Charger สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า

รวมทั้งบริการลิฟต์ส่วนตัวพร้อมโถงลิฟท์สำหรับทุกยูนิต อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกของประเทศไทยกับบริการผู้ช่วยส่วนตัวจาก Quintessentially (ควินเทสเซ็นเทียลลี่) ที่มีชื่อเสียงระดับโลกในจัดงานสำคัญให้กับราชวงศ์อังกฤษมากมายมาประจำที่โครงการเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ในแบบลักซ์ซัวรี่อย่างแท้จริง และเติมเต็มประสบการณ์อยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ

10

“ตลอดเวลากว่า 6 ปีที่แสนสิริทุ่มเทและพิถีพิถันในการรังสรรค์โครงการนี้

ไม่ใช่แค่การสร้างตึกอาคารที่งดงาม แต่เป็นการ ‘คราฟท์’ ความเป็นเลิศในทุกมิติ

บนโลเคชั่นที่สวยงามที่สุด และมีราคาสูงที่สุดเส้นหนึ่งของกรุงเทพฯ

และเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม

ที่สามารถถือครองกรรมสิทธิ์ได้แบบฟรีโฮลด์ (Freehold)

“การดีไซน์งานสถาปัตยกรรมที่คลาสสิกเหนือกาลเวลา

การคัดสรรวัสดุและการตกแต่งที่ดีที่สุดจากทั่วโลก

รวมถึงการให้บริการที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบของผู้พักอาศัย

แสนสิริมั่นใจว่าจากความโดดเด่นทั้งหมดนี้ โครงการ 98 WIRELESS จะเป็นที่พักอาศัยระดับมาสเตอร์พีซที่คุ้มค่าที่สุดต่อการลงทุน โดยมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นทุกปี พร้อมเป็นมรดกล้ำค่าที่ส่งต่อให้กับลูกหลานได้นานสืบไป”

โครงการ98  Wireless พร้อมเปิดการขายอย่างเป็นทางการ 15 มี.ค.นี้ เป็นต้นไป

สามารถเยี่ยมชมโครงการจริงผ่านการนัดหมายล่วงหน้าเท่านั้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 1685 หรือ 98wireless.com

บีทีเอส –แสนสิริ โชว์ยอดขาย “เดอะ เบส การ์เดน-พระราม 9” ทะลุ 90% เตรียมจัดงาน Grand Opening 25-26 มี.ค. นี้

$
0
0

บีทีเอส – แสนสิริ โชว์ยอดขาย “The Base Garden พระราม 9” ทะลุ 90%  เตรียมจัดงาน Grand Opening 25-26 มี.ค. นี้  พร้อมจ่อคิวเปิดตัวเดอะ เบส โครงการใหม่

PoolA

บีทีเอส – แสนสิริ โชว์  “เดอะ เบส การ์เดน-พระราม 9” ซึ่งเป็น 1 ใน 8 โครงการภายใต้ความร่วมมือระหว่างแสนสิริ และ บีทีเอส กรุ๊ป จำนวนทั้งสิ้น 639 ยูนิต มูลค่า 2,280 ล้านบาท โกยยอดขายทะลุ 90%

เผยลูกค้าชอบทำเลเดินทางสะดวก ใกล้แอร์พอร์ตลิงค์ สถานีรามคำแหง เพียง 700 ม. ใกล้ทางด่วนศรีรัช 800 ม. รวมทั้งวัสดุที่ยกระดับความพรีเมียม คัดสรรมาอย่างบรรจงทุกรายละเอียด

เตรียมจัดงาน Grand Opening เสาร์ – อาทิตย์ ที่ 25 – 26 มี.ค.นี้ ที่ Sales Gallery เฉพาะภายในงาน  20 ยูนิตพิเศษ รับฟรีเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าครบชุด พร้อมร่วมกิจกรรม Workshop Vertical Garden ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท

sansiri-1

นายอุทัย  อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการ “เดอะ เบส การ์เดน-พระราม 9” จำนวนทั้งสิ้น 639 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,280 ล้านบาท

ซึ่งเป็น 1 ใน 8 โครงการร่วมทุนระหว่างบีทีเอส กรุ๊ปและแสนสิริ และลูกค้าให้ความชื่นชอบในทำเลที่ตั้งโครงการที่เดินทางสะดวก ใกล้แอร์พอร์ตลิงค์ สถานีรามคำแหง เพียง 700 เมตร และใกล้ทางด่วนพิเศษศรีรัช และทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์

รวมถึงวัสดุที่นำมาใช้ในโครงการที่คัดสรรอย่างบรรจงทุกรายละเอียด ยกระดับความพรีเมียมมากขึ้น อาทิ การนำหินจากประเทศอิตาลีมาตกแต่งห้องฟิตเนส และปรับดีไซน์ ให้สะท้อนความต้องการของลูกค้า

ภายใต้คอนเซ็ปต์ “สะท้อนความเป็นคุณ” ในแนวคิด GARDEN OF CREATION ที่นำพื้นที่สีเขียวมารวมกันก่อเกิดเป็นสวนขนาดใหญ่ที่ให้มากกว่าการพักผ่อน เพื่อการอยู่อาศัยที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง

โดยสามารถสร้างยอดขายโครงการไปแล้วถึง 90% ล่าสุดบริษัทได้เตรียมจัดงาน Grand Opening โครงการ ในวันเสาร์ – อาทิตย์ ที่ 25 – 26 มีนาคมนี้ ที่ Sales Gallery  

เฉพาะภายในงาน  20 ยูนิตพิเศษ รับฟรีเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าครบชุด พร้อมร่วมกิจกรรม Workshop Vertical Garden ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท

topview

โครงการ เดอะ เบส การ์เดน-พระราม 9 ตั้งอยู่ติดถนนพระราม 9 บนเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ ออกแบบให้มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เพื่อการพักผ่อนที่เข้าถึงธรรมชาติ ออกจากความวุ่นวาย

ผ่อนคลายกับสระว่ายน้ำในสวนขนาดใหญ่ที่โอบล้อมด้วยนานาพรรณไม้ เสมือนว่ายน้ำอยู่ในรีสอร์ทส่วนตัว

และเต็มที่กับการออกกำลังกาย ด้วยห้องฟิตเนสอุปกรณ์มาตรฐาน ที่เปิดมุมมองสู่สวนขนาดใหญ่ สัมผัสวิวธรรมชาติแบบเต็มตาเต็มอารมณ์

พร้อมห้องเอนกประสงค์ที่ถูกออกแบบให้เปิดโล่ง รับสายลมธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมีห้องซักผ้า ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) อีกด้วย

ทั้งนี้เป็นอาคารพักอาศัยสูง 36 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 640 ยูนิต ซึ่งแบ่งออกเป็นเพื่อพักอาศัย 639 ยูนิต และเพื่อการพาณิชย์ 1 ยูนิต

มีแบบห้อง 3 แบบ ได้แก่ ขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ 26.50-27.00 ตารางเมตร ขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ 30.75-34.75 ตารางเมตร และขนาด 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ 49.75-55.00 ตารางเมตร

fitness-1

“เดอะ เบส การ์เดน-พระราม 9 แตกต่างจากคอนโดมิเนียมแบรนด์ เดอะ เบส โครงการอื่น โดยพัฒนาใส่ใจในรายละเอียดมากขึ้น ด้วยการนำหินจากประเทศอิตาลีมาตกแต่งห้องออกกำลังกาย รวมถึงห้องเอนกประสงค์

ส่วน Lobby ประดับด้วย chandelier ที่ให้ดีไซน์เหมือนสายฝน เพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายอย่างมีระดับ

นอกจากนี้ฟังก์ชั่นในห้องก็มีเพดานสูงเพิ่มความโปร่ง สบาย พร้อมกระจกกันเสียงในพื้นที่ห้องนอน ให้ความสงบส่วนตัวยามพักผ่อน

และครัวก็เพิ่มความทันสมัยด้วยการเลือกวัสดุที่ดีมาใช้กับท็อปเคาน์เตอร์ครัว นำ Porcelain slab ไร้รอยต่อ ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีกว่าหินแกรนิตมาใช้

โดยมีความทนทาน รองรับน้ำหนักได้ดี ดูดซึมน้ำน้อย และดูแลง่าย ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำครัว และเพิ่มความความสวยงามให้กับห้องครัวอีกด้วย

concept-1

โครงการออกแบบภายใต้แนวคิด GARDEN OF CREATION ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ นำเอาพื้นที่สีเขียวมารวมกัน ทำให้โครงการมีพื้นที่สวนขนาดใหญ่ เหมาะกับการพักผ่อน เดินเล่น และหายใจรับอากาศดีๆ ให้เต็มปอด

เชื่อมต่อการเดินทางสู่ส่วนต่างๆของกรุงเทพได้ง่ายดายด้วยถนนหลายเส้นทางไม่ว่าจะเป็นพระราม 9 รามคำแหง พัฒนาการ รัชดา

อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงแหล่งไลฟ์สไตล์อย่างทองหล่อ-เอกมัยได้ในเวลาเพียง 5 นาที เท่านั้น แวดล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์มากมาย อาทิ เดอะ ไนน์ เดอะมอลล์ รามคำแหง, ฟู้ดแลนด์ และ บิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์

รวมทั้งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยรามคำแหง และเอแบค แหล่งรวมออฟฟิศ สถานที่ทำงาน ร้านอาหารและแหล่งแฮงค์เอ้าท์ของคนรุ่นใหม่ เหมาะกับการอยู่อาศัยและปล่อยเช่า ซึ่งได้ผลตอบแทน 6-8%

โครงการได้รับการตอบรับที่ดีโดยมียอดขายแล้วถึง90% คาดว่าจะสามารถปิดโครงการได้ในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้บริษัทยังได้เตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์

เดอะ เบส โครงการใหม่เพื่อต่อยอดความสำเร็จของแบรนด์ เดอะ ไลน์ ในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้อีกด้วย ส่วนจะเป็นโครงการใดนั้นต้องรอติดตาม” นายอุทัย กล่าว

SIRI ปิดไตรมาสแรกยอดขายเกินเป้า ทะลุ 7,000 ล้านบาท

$
0
0

SIRI ปิดไตรมาสแรกยอดขายเกินเป้า ทะลุ 7,000 ล้านบาท ยอดขายต่างชาติสูงสุด พุ่งไป 1,700 ล้านบาท  ตั้งเป้าไตรมาสสอง 10,000 ล้านบาท เติบโตถึง 40% เตรียมเปิด 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 12,600 ล้านบาท โกยยอดขายจาก 98 Wireless และโครงการแนวราบปิดขายใน 2 ชม. ส่งสัญญาณไตรมาส 2 เศรษฐกิจฟื้น-ตลาดอสังหาฯ ทิศทางดี 

overall

แสนสิริ -SIRI ปิดผลงานไตรมาสแรกด้วยยอดขายเกินเป้าที่วางไว้ พุ่งทะลุไป 7,000 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 3 ปีของยอดขายไตรมาสแรก โกยยอดขายหลักจากตลาดต่างชาติพุ่งสูงสุด 1,700 ล้านบาทจากการโรดโชว์ “เดอะ ไลน์ พหลฯ-ประดิพัทธ์” ใน 4 ประเทศ ฮ่องกง – ไต้หวัน – สิงคโปร์ – จีน และสร้างยอดขายจากการเปิดตัว “98 Wireless” (ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส) โครงการแฟลกชิปคอนโดมิเนียมที่ดีที่สุดบนถ.วิทยุที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา

ขณะที่โครงการแนวราบ กวาดยอดขายจากทาวน์เฮาส์กลางสุขุมวิท 77 “การ์เด้นท์ สแควร์ สุขุมวิท 77” ราคาเฉลี่ย 15 ล้านบาท ปิดยอดขายได้ถึง 70% และ “สิริ อเวนิว สายไหม” มูลค่าโครงการ 100 ล้านบาท ปิดการขายทันทีตั้งแต่ 2 ชั่วโมงแรกในวันเปิดขาย

พร้อมส่งสัญญาณไตรมาส 2 เศรษฐกิจฟื้น – ตลาดอสังหาฯ แนวโน้มดี เผยแผนธุรกิจไตรมาส 2/60 เตรียมเปิดตัว 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 12,600 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นคอนโดมิเนียมภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส 2 โครงการ และบ้านเดี่ยว 2 โครงการ ตั้งเป้าไตรมาสสอง 10,000 ล้านบาท เติบโตถึง 40%

unnamed

นายเศรษฐา  ทวีสิน  กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI   เปิดเผยว่าบริษัทสามารถปิดยอดขายไตรมาสแรกของปี 2560 ได้สูงถึง 7,000 ล้านบาท เกินจากเป้าหมายที่วางไว้และนับว่าสูงที่สุดในรอบ 3 ปีของการสร้างยอดขายไตรมาสแรกทั้งที่ไม่ได้มีการจัดงานขายใหญ่ อาทิ การจัดงาน แสนสิริ ไลฟ์ คัมส์ โฮม ดังที่ได้รับการตอบรับที่ดีในช่วงที่ผ่านมา

โดยสร้างยอดขายหลักจากตลาดต่างชาติ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากการนำโครงการ “เดอะ ไลน์ พหลฯ – ประดิพัทธ์” คอนโดมิเนียมโครงการล่าสุด ภายใต้ความร่วมมือระหว่างแสนสิริ และ บีทีเอส กรุ๊ป จำนวนทั้งสิ้น 981 ยูนิต มูลค่า 5,800 ล้านบาท

เปิด Global Launch เต็มรูปแบบใน 4 ประเทศ ได้แก่ ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ และจีน และมีลูกค้าให้ความสนใจเข้าร่วมงานโรดโชว์ในทั้ง 4 ประเทศจำนวนมาก ส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างยอดขายรวมจากตลาดต่างชาติในช่วงไตรมาสแรกนี้สูงถึง 1,700 ล้านบาท

re4

นอกจากนี้บริษัทยังประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวโครงการ “98 Wireless” (ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส) โครงการแฟลกชิปคอนโดมิเนียมที่ดีที่สุดบนถ.วิทยุที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนมีนาคม รวมทั้งการได้รับการตอบรับที่ดีจากยอดขายโครงการแนวราบตั้งแต่ไตรมาสแรก

ทั้งการปิดการขาย โครงการ “สิริ อเวนิว สายไหม” อาคารพาณิชย์ดีไซน์โมเดิร์น สไตล์ นิวยอร์คลอฟต์ใหม่ ใจกลางย่านสายไหม มูลค่าโครงการ 100 ล้านบาทได้ทันทีตั้งแต่ 2 ชั่วโมงแรกในวันเปิดขายอย่างเป็นทางการ

รวมทั้งโครงการทาวน์เฮาส์ใจกลางสุขุมวิท 77 “การ์เด้นท์ สแควร์ สุขุมวิท 77” ราคาเฉลี่ย 15 ล้านบาท ที่สร้างยอดขายไปได้ถึง 70 % จากการเปิดบ้านตัวอย่างใหม่ดีไซน์พิเศษที่เปิดให้สัมผัสกลิ่นอายแห่งลอนดอน ส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างยอดขายรวมในช่วงไตรมาสแรกได้สูงถึง 7,000 ล้านบาทในที่สุด

location1

“ภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2560 คาดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจะหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อาทิ แรงหนุนจากการฟื้นตัวของการใช้จ่ายในประเทศและภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตต่อเนื่องรวมทั้งการผลักดันโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้เกิดขึ้น เป็นรูปธรรมมากขึ้น

ขณะที่ ในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ภาคเอกชนรายใหญ่ควรมีบทบาทในการช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรม ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่สร้างความเชื่อมั่นให้อุตสาหกรรมกลับมา โดยสำหรับกลุ่มแสนสิริมีการวางเป้าหมายโดยวางแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส 2 นี้ด้วยแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีกประมาณ 4 โครงการ มูลค่ารวม  12,600 ล้านบาท

แบ่งเป็นคอนโดมิเนียมภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส 2 โครงการ และโครงการบ้านเดี่ยว 2 โครงการ ได้แก่ โครงการบุราสิริ วัชรพล และ โครงการคณาสิริ ปิ่นเกล้า-กาญจนา โดยตั้งเป้ายอดขายไตรมาส 2 สูงถึง 10,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 40% จากยอดขายไตรมาสแรกที่ทำได้ 7,000 ล้านบาท” นายเศรษฐา กล่าว

บ้านเดี่ยว บุราสิริ วัชรพล Burasiri Watcharapol เริ่ม 8 ล้านบาท

$
0
0

บ้านเดี่ยว บุราสิริ วัชรพล Burasiri Watcharapol เริ่ม 8 ล้านบาท

บุราสิริ วัชรพล

บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เตรียมเปิดตัวโครงการบุราสิริ วัชรพล ธรรมชาตินิยามใหม่ ใจกลางวัชรพล เริ่ม 8 ล้านบาท* พบกันเร็วๆนี้

RGT

คลิกที่นี่ เพื่อลงทะเบียน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1685

Website : http://www.sansiri.com


บ้านเดี่ยว คณาสิริ ปิ่นเกล้า-กาญจนาฯ Kanasiri Pinklao-Kanchana เริ่ม 3 ล้านบาท

$
0
0

บ้านเดี่ยว คณาสิริ ปิ่นเกล้า-กาญจนาฯ Kanasiri Pinklao-Kanchana

Kanasiri Pinklao-Kanchana

บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เตรียมเปิดตัวโครงการ คณาสิริ ปิ่นเกล้า-กาญจนาฯบ้านเดี่ยวลุคใหม่ เริ่ม 3 ล้านบาท* เร็วๆ นี้

RGT

คลิกที่นี่ เพื่อลงทะเบียน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1685

Website : http://www.sansiri.com

แสนสิริ มั่นใจตลาดอสังหาฯ เมืองพัทยาฟื้นตัว อัตราการขายได้ของลูกค้าทั้งไทย และต่างชาติ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง

$
0
0

แสนสิริ มั่นใจตลาดอสังหาฯ เมืองพัทยาฟื้นตัว อัตราการขายได้ของลูกค้าทั้งไทย และต่างชาติ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง

sansiri-07-1024x1024

แสนสิริมั่นใจในดีมานด์ชาวไทย และต่างชาติยังคงมีต่อเนื่อง ด้วยความที่เมืองพัทยายังติดอันดับเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงทุกปี จึงทำให้ความสนใจในการลงทุนพื้นที่พัทยา มีอัตราการขายได้ในภาพรวมตลาดแก่กลุ่มลูกค้า ไทย และต่างชาติในการซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อบ้านพักตากอากาศ หรือลงทุนปล่อยเช่ามีตัวเลขสูงขึ้นในปี 2016 ถึง 80%

โดยเฉพาะโครงการในรูปแบบคอนโดมิเนียม ซึ่งทำเลที่ยังคงได้รับความนิยม นั่นคือ พื้นที่ติดชายหาด หรือสามารถมองเห็นวิวชายหาดได้ ไม่ว่าจะเป็น “หาดพัทยา” หาดดังระดับโลกใกล้ตัวเมืองพัทยา จากพัทยาเหนือถึงพัทยาใต้ หรือ “หาดวงศ์อมาตย์” ความยาวกว่า 1 กม. ที่เน้นความสงบเป็นส่วนตัว เป็นต้น

(ข้อมูลจากฝ่ายวิจัยและพัฒนา บริษัทพลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ระบุว่า ในปี2016 พบสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดคอนโดมิเนียมจากเดิมที่ 3% ขยับมาอยู่ที่ 80% จากยอดอุปทานรวม 56,953 ยูนิต และเมื่อพิจารณาพื้นที่ติดหาดจะเห็นว่ามีอัตราการขายได้ที่ดี เฉลี่ยอยู่ที่ 80% เช่นกัน)

0123

นาย อุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจ และพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เผยข้อมูลว่า “สำหรับภาพรวมตลาดพัทยาในปี 2017 นี้ ยังมีตัวเลขที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์

โดยได้รับแนวโน้มที่ดีมาตั้งแต่ปี 2016 จนกระทั่งต้นปี 2017 ที่ผ่านมา ยังคงมีการเติบโตในตลาดพัทยาต่อเนื่อง เพราะยังคงเป็นเมืองท่องเที่ยวตากอากาศที่มีศักยภาพและได้รับความนิยมจากทั้งชาวไทยและต่างชาติมาโดยตลอด

แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา การท่องเที่ยวเมืองพัทยาจะได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียซึ่งเป็นกลุ่มหลักลดลง แต่สังเกตได้ว่าดีมานด์บริเวณพื้นที่ชายทะเลกลับเติบโตได้ดี

ทั้งจากผู้ซื้อชาวไทย และต่างชาติอื่นๆ อาทิ ชาวจีน ที่มีแนวโน้มการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้นแทนที่ถึง 31% ซึ่งปัจจุบัน ทำเลในพื้นที่หาดวงศ์อมาตย์ยังอยู่ในความสนใจของตลาด

เนื่องจากมีความโดดเด่นในเรื่องของทำเลที่เป็นส่วนตัว โดยมีสัดส่วนยอดขายได้สูงถึง 85% ของอุปทานรวม ในระดับราคาระหว่าง 95,000 – 120,000 บาทต่อตารางเมตร

โดยส่วนใหญ่จะนิยมห้องขนาด 1 ห้องนอน ขนาด 40-55 ตารางเมตร เนื่องจากเป็นห้องขนาดกลางที่สามารถรองรับการเข้าพักได้หลายคน และตอบสนองความต้องการอยู่ของผู้เช่าได้อีกด้วย”

เดอะเบส พัทยากลาง

สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมของแสนสิริไม่ว่าเป็นโครงการเดอะเบส พัทยากลาง (THE BASE Central Pattaya) คอนโดมิเนียมแบรนด์ภายใต้ ‘เดอะ เบส’ ใจกลางเมืองพัทยาบนถนนศักยภาพพัทยาสายสอง ที่ปิดการขาย 100% อย่างรวดเร็วในปี 2556

โดยหลังจากที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ตามกำหนดในปี 2559 แล้ว ลูกค้ามีการเข้าโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนลูกค้าชาวไทย 66% และต่างชาติถึง 34% โดยแบ่งเป็นซื้อเพื่ออยู่เอง และปล่อยเช่าในสัดส่วน 30:70 ตามลำดับ

และมี Rental Yield หรืออัตราการปล่อยเช่าในเกณฑ์ที่ดีถึง 7 % รวมถึงมีราคา Resale เติบโตสูงขึ้นถึง 15-20% ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มนักลงทุน

บ้านปลายหาด พัทยา

และสำหรับโครงการบ้านปลายหาด พัทยา (BAAN PLAI HAD by Sansiri) คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์บนหาดวงศ์อมาตย์ ปัจจุบันมียอดขายอยู่ที่ 95% โดยมีสัดส่วนลูกค้าชาวไทย 80% และต่างชาติ 20% โดยแบ่งเป็นซื้อเพื่ออยู่เอง และปล่อยเช่าในสัดส่วน 60:40 ตามลำดับ

ซึ่งในช่วงต้นปี 2017 ที่ผ่านมา แสนสิริได้นำทั้งโครงการบ้านปลายหาด และเดอะเบส พัทยากลางเข้าเป็นส่วนหนึ่งในแคมเปญ Holiday Homes เพื่อรับดีมานด์ตลาดบ้านพักตากอากาศเมืองท่องเที่ยวช่วงไฮซีซัน

ที่รวบรวมโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านพักตากอากาศพร้อมอยู่เพื่อวันพักผ่อนครอบคลุมเมืองท่องเที่ยวดัง 5 จังหวัด โดยเฉพาะโปรโมชั่นพิเศษในโครงการบ้านปลายหาด ขนาด 3 ห้องนอน แต่งครบ วิวทะเล เริ่ม 14.99ล้าน* เท่านั้น

ซึ่งได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้ามากขึ้น รวมถึงความเชื่อมั่นในแบรนด์และคุณภาพในโครงการของแสนสิริด้วย

“ทั้งนี้ราคาตลาดอสังหาฯ ในเมืองพัทยา มีแนวโน้มที่ปรับตัวขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะบริเวณติดชายหาด หรือวิวทะเล จากต้นทุนการพัฒนาโครงการที่สูงขึ้น และข้อจำกัดด้านที่ดินอาจส่งผลให้การลงทุน ในคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่เป็นทางเลือกที่ยังคงความนิยมในปัจจุบัน

ซึ่งมีความคุ้มค่าด้านราคาขายที่จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย และสามารถเห็นห้องจริงก่อนการตัดสินใจซื้อได้ทันที ซึ่งต่างจากโครงการใหม่ ที่ยังมีความไม่แน่นอนด้านการก่อสร้าง จึงถือเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันในกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ ในปัจจุบัน” คุณอุทัยกล่าวเสริม

SIRI ชูแผนธุรกิจปี 60 โรดโชว์นักลงทุนต่างชาติที่นิวยอร์ค –ซานฟรานฯ ปลื้มนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจล้น

$
0
0

SIRI ชูแผนธุรกิจปี 60 โรดโชว์นักลงทุนต่างชาติที่นิวยอร์ค – ซานฟรานฯ  ปลื้มนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจล้น เผยแผนโรดโชว์ครึ่งแรกปี 60 ลุยต่อ ลอนดอน-เอดินเบอร์ก-ดับลิน

4

แสนสิริ –SIRI  โรดโชว์นิวยอร์ค – ซานฟรานฯ ปิดผลงานไตรมาสแรก เผยนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจล้นในความแข็งแกร่งของแผนการดำเนินธุรกิจปี 2560

โดยเฉพาะการเปิดตัวโครงการ 98 Wireless” (ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส) โครงการแฟลกชิปคอนโดมิเนียมที่ดีที่สุดบน ถ.วิทยุ

ความสำเร็จจากยอดขายตลาดต่างชาติที่ส่งผลให้เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไทย ที่ครองส่วนแบ่งทางการตลาดของตลาดต่างชาติสูงสุด จากการเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไทยบริษัทเดียว ที่เปิดการขายโครงการในต่างประเทศพร้อมกันในหลายประเทศ (Global Launch)

และการจัดกิจกรรมหลังการขายกับลูกค้าต่างชาติอย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้ความสนใจกับการลงทุนในธุรกิจประเภท “PropTech” ก้าวสู่การเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำด้านเทคโนโลยีที่ คลอบคลุมอสังหาริมทรัพย์และการอยู่อาศัยอย่างเต็มรูปแบบ

เผยแผนโรดโชว์เดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนต่างประเทศในช่วงครึ่งปีแรก จ่อคิวร่วมกับ บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) โรดโชว์ที่เมืองเอดินเบอร์ก สกอตแลนด์ และเมืองดับลิน ไอร์แลนด์

วันที่ 7 – 8 พ.ค. และร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ โรดโชว์ที่ลอนดอน วันที่ 9 – 10 พ.ค. ขณะที่นักลงทุนในประเทศยังแห่ให้ความสนใจหุ้น SIRI ส่งผลราคาพุ่งต่อเนื่อง

sansiri

นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI   เปิดเผยว่า บริษัทได้เดินทางไปโรดโชว์ที่สหรัฐอเมริกา (นิวยอร์ค – ซานฟรานซิสโก) ในช่วงต้นปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ซึ่งปรากฎว่าได้รับความสนใจตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี หลังจากเข้าพบนักลงทุนสถาบันเป็นจำนวนถึง 20 กองทุน ที่ต่างให้ความสนใจกับความแข็งแกร่งของแผนการดำเนินธุรกิจปี 2560

โดยเฉพาะการเปิดตัว โครงการ “98 Wireless” (ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส) โครงการแฟลกชิปคอนโดมิเนียมที่ดีที่สุดบน ถ.วิทยุที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

บนวิสัยทัศน์ที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับสากลในสายตานักลงทุนทั่วโลก ซึ่งบริษัทใช้เวลากว่า 7 ปีเต็ม ในการพิสูจน์ศักยภาพบนความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกับโครงการ ’98 WIRELESS’ ภายใต้ประสบการณ์ที่สั่งสมมาตลอดกว่า 33 ปี

ในการเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะระดับบน ซึ่งเป็นหัวใจในการพัฒนาโครงการ เพื่อเข้าถึงความต้องการของลูกค้าในบริบทต่างๆ กัน

ทำให้บริษัทมั่นใจและพร้อมที่จะเทียบชั้นกับตลาดสากลว่าจะเป็นคอนโดมิเนียมระดับซูปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ที่ดีที่สุดในเมืองไทย และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

1

นอกจากนี้นักลงทุนยังให้ความสนใจกับความสำเร็จจากยอดขายตลาดต่างชาติ ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่ซื้อโครงการของแสนสิริอย่างต่อเนื่อง จากการนำโครงการคอนโดมิเนียมไปโรดโชว์ในประเทศโซนเอเชียทั้งใน  ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ และจีน

นอกจากนี้ยังเตรียมเจาะกลู่มลูกค้าใหม่ อาทิ “ญี่ปุ่น” และ “ดูไบ” เป็นต้น เพื่อขยายฐานจากกลุ่มลูกค้าเดิม ส่งผลให้บริษัทเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไทยที่ครองส่วนแบ่งทางการตลาดของตลาดต่างชาติสูงสุด

จากการเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไทยบริษัทเดียวที่เปิดการขายโครงการในต่างประเทศพร้อมกันในหลายประเทศ (Global Launch) และจัดกิจกรรมหลังการขายกับลูกค้าต่างชาติอย่างต่อเนื่อง

โดยล่าสุดบริษัทยังสามารถสร้างยอดขายรวมจากตลาดต่างชาติในช่วงไตรมาสแรกนี้สูงถึง 1,700 ล้านบาท จากเป้าหมายยอดขายตลาดต่างชาติในปีนี้ 8,000 ล้านบาท

2

รวมทั้งนักลงทุนต่างประเทศยังให้ความสนใจกับการลงทุนของบริษัทในธุรกิจประเภท “PropTech” ซึ่งจะก้าวสู่การเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำด้านเทคโนโลยี ที่คลอบคลุมอสังหาริมทรัพย์

และการอยู่อาศัยอย่างเต็มรูปแบบผ่าน  สิริ เวนเจอร์ หรือบริษัทร่วมทุนระหว่างแสนสิริกับธนาคารไทยพาณิชย์ ในรูปแบบ Corporate Venture Capital ที่มีจุดเด่นในด้านการลงทุน

และพัฒนานวัตกรรมด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่ออนาคตที่จะเสริมความแข็งแกร่งและมีส่วนช่วยผลักดันธุรกิจหลักของแสนสิริให้มีประสิทธิภาพและมีความคล่องตัวรวมถึงเป็นช่องทางรายได้ใหม่ของแสนสิริได้ในอนาคต

3

“บริษัทยังมีแผนโรดโชว์กับนักลงทุนต่างประเทศอย่างต่อเนื่องอีกในช่วงครึ่งปีแรก โดยมีแผนร่วมกับ บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เดินทางไปโรดโชว์ที่เมืองเอดินเบอร์ก สกอตแลนด์ และเมืองดับลิน ไอร์แลนด์ ในวันที่ 7 – 8 พฤษภาคม

และมีแผนร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ เดินทางไปโรดโชว์ที่กรุงลอนดอน ในวันที่ 9 – 10 พฤษภาคม ทั้งนี้ ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนนักลงทุนต่างประเทศในปัจจุบัน ที่เข้ามาถือหุ้น SIRI อยู่ที่  33 %  จากสัดส่วนที่นักลงทุนต่างชาติสามารถถือหุ้นได้ 39 %” นายวันจักร์ กล่าว

EP.797 รีวิว คอนโด The Line สุขุมวิท 71 ใกล้รถไฟฟ้า BTS พระโขนง

$
0
0

 EP.797 รีวิว คอนโด เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71 The Line Sukhumvit 71

The Line  สุขุมวิท 71

สวัสดีผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกคนครับ วันนี้ผมจะพามาชมโครงการ The Line สุขุมวิท 71 ที่เป็นการร่วมทุนกันระหว่าง Sansiri และ BTS ตั้งอยู่ในเขตวัฒนา ติดถนนสุขุมวิท 71 ห่างจากปากซอยถนนสุขุมวิทเข้ามาประมาณ 220 ม. และเป็นเส้นที่เชื่อมออกถนนเพชรบุรี ถนนรามคำแหง และถนนพัฒนาการได้ ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และทางด่วนเฉลิมมหานคร ใกล้ BTS พระโขนงประมาณ 500 ม. รายล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และคอมมูนิตี้มอลล์

The Line สุขุมวิท 71 เป็นคอนโด High Rise สูง 28 ชั้น 1 อาคาร บนที่ดิน 1 ไร่ 3 งาน ภายใต้แนวคิด “Location Is Everything” ห้องพักอาศัยมีทั้งหมด 291 ยูนิต มีห้องให้เลือกแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 29.75 – 62.75 ตร.ม. โครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่

สิ่งอำนวยความสะดวก ในโครงการมีให้ครบครัน ทั้งที่จอดรถ, EV Station, โถงต้อนรับ, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ห้องสมุด, สวนลอยฟ้า, ลิฟท์โดยสารล็อคชั้น, Access Card Control, กล้องวงจรปิดภายในโครงการ ที่จอดรถ ประมาณ 54% รวมซ้อนคัน และ รปภ.ตลอด 24 ชั่วโมงในราคาเริ่มต้น 4.75 ล้านบาท

ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไรอ่านต่อด้านล่างได้เลยครับ

ชื่อโครงการ เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71 The Line Sukhumvit 71
เจ้าของโครงการ บจก. บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้งวัน BTS-Sansiri
ลักษณะห้องและขนาดห้อง – 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ : 29.75-44.75 ตร.ม.
– 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ : 57.25-62.75 ตร.ม.
เนื้อที่ทั้งหมด 1 ไร่ 3 งาน
จำนวนตึก 1 อาคาร
จำนวนชั้น 28 ชั้น
จำนวนห้อง 291 ยูนิต
ที่จอดรถทั้งหมด คิดเป็น 54% รวมซ้อนคัน
โซน พระโขนง
ขนส่งสาธารณะ – รถไฟฟ้า BTS พระโขนง 500 เมตร
รถโดยสารที่ผ่าน n/a
ที่ตั้ง ถนนสุขุมวิท 71 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กทม.
กำหนดการ Pre-sale สิงหาคม 2558
ปีที่สร้างเสร็จ ปลายปี 2559
ราคา เริ่ม 4.75 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม 160,000 บาท/ ตร.ม.
ค่าส่วนกลางและกองทุน – ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.ม.
– ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
  • 7-11 : 10 ม.
  • Family Mart : 35 ม.
  • W-District : 100 ม.
  • MaxValu : 400 ม.
  • Habito mall : 800 ม.
  • Summer Hill : 600 ม.
  • Big C Extra อ่อนนุช : 1.2 กม.
  • Gateway เอกมัย : 1.3 กม.
  • Century the movie plaza อ่อนนุช : 1.4 กม.
  • Major เอกมัย : 1.6 กม.
  • People Park : 2 กม.
  • The Phyll : 2.3 กม.
  • Big C เอกมัย : 2.4 กม.
  • โลตัสอ่อนนุช : 2.5 กม.
  • Emquartier : 3.6 กม.
  • Emporium : 3.6 กม.
  • Pickadaily Bangkok : 5.1 กม.
  • Bangkok Mall : 5.5 กม.
  • Central บางนา : 7.8 กม.
  • Big C บางนา : 7.8 กม.
  • ซีคอนสแควร์ : 8.6 กม.
  • Bangkok Prep : 900 ม.
  • รร.วัดธาตุทอง : 1.6 กม.
  • ม.กรุงเทพ : 1.8 กม.
  • วัดธาตุทอง : 1.6 กม.
  • โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท : 1.1 กม.
  • โรงพยาบาลสุขุมวิท : 1.7 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก – Lobby
– Mail Box
– สระว่ายน้ำ
– ฟิตเนส
– ห้องสมุด
– สวนลอยฟ้า
– Access Card Control
– CCTV
– รปภ. 24 ชม.
จุดเด่นของโครงการ “The Line สุขุมวิท 71 คอนโดใหม่ ภายใต้ Concept “Location Is Everything” ตกแต่งครบทุกฟังก์ชั่น ใจกลางสุขุมวิท 71 ใกล้รถไฟฟ้า BTS พระโขนง เพียง 500 เมตร เริ่มต้น 160,000 บาท/ ตร.ม.”

ที่ตั้งโครงการ

ถนนสุขุมวิท 71 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กทม.

150713_AW_THE LINE_Sukhumvit71_MAP_Biggest_TH

พิกัด Google โดยประมาณ : 13.715191, 100.594797

1.1

ที่ตั้งโครงการ The Line สุขุมวิท 71 ตั้งอยู่ติดถนนสุขุมวิท 71 ห่างจากปากซอยถนนสุขุมวิทประมาณ 220 ม. ตัวโครงการอยู่ระหว่างซอยปรีดีพนมยงค์ 3 และ ซอยปรีดีพนมยงค์ 5 เส้นสุขุมวิท 71 มีข้อดีตรงที่เป็นเส้นที่เชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิท ถนนเพชรบุรี ถนนพัฒนาการ และถนนรามคำแหง นอกจากนี้ซอยย่อยปรีดีพนมยงค์ยังเชื่อมไปออกได้ทั้งฝั่งเอกมัยและฝั่งสุขุมวิท 77 อีกด้วยครับ

การเดินทางเข้าเมือง หลักๆก็ใช้เส้นสุขุมวิทวิ่งมุ่งหน้าเข้าเมืองอย่างเดียวไปเอกมัย ทองหล่อ พร้อมพงษ์ อโศก สยาม หรือเข้าถนนพระรามสี่ตรงแยกพระโขนงวิ่งเข้าลุมพินี วิทยุ สาทร สีลม สามย่านได้เลย หรืออีกฝั่งจะไปใช้เส้นเพชรบุรีก็ได้ครับวิ่งไปท้ายซอยสุขุมวิท 71 ตรงแยกคลองตันไปเลี้ยวเข้าถนนเพชรบุรีได้ จากนั้นก็วิ่งเข้าเมืองได้ทั้งเอกมัย ทองหล่อ อโศก ชิดลมแต่จะเข้าทางท้ายซอยครับ หรือถ้าจะไปโซนพระรามเก้าก็ข้ามแยกคลองตันไปเข้าถนนรามคำแหง วิ่งไปแยกรามคำแหงเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระรามเก้าได้เลย ส่วนถ้าใครจะใช้ทางด่วนก็ไม่ยากครับ มาเข้าเส้นพระรามสี่วิ่งมาจะเจอป้ายบอกทางขึ้นทางด่วนตรงท่าเรือ

การเดินทางออกนออกเมือง ถ้าเส้นสุขุมวิทวิ่งตามแนว BST ไปแยกบางนาตัดกับถนนบางนาตราดวิ่งออกพัทยา ชลบุรี ระยองได้เลย มีทางด่วนบูรพาวิถีให้ขึ้นอีกด้วย ถ้าข้ามแยกบางนาไปจะไปแบริ่ง สำโรงยาวไปสมุทรปราการได้เลย ถ้าไปทางแยกคลองตันไปเข้าเส้นพัฒนาการวิ่งออกลาดกระบัง ศรีนครินทร์ได้ หรือไปเข้าถนนรามคำแหงวิ่งออกมีนบุรี ลาดพร้าว ตรงแยกรามคำแหงตัดเข้าถนนพระรามเก้าเชื่อมออกมอเตอร์เวย์ได้เลย ถ้าไปโซนรามอินทรามีทางด่วนให้ขึ้นโดยเข้าไปทางซอยปรีดีพนมยงค์ 2 จะเจอทางขึ้นทางด่วน ระยะจากโครงการประมาณ 850 ม. ไปได้ทั้งลาดพร้าว เกษตรนวมินทร์ รามอินทรา มีทางเชื่อมเข้าทางด่วนศรีรัชได้

การเดินทางโดยสาธารณะ ตัวโครงการอยู่ห่างจาก BTS พระโขนงประมาณ 500 ม. มีทางเท้าเดินไปได้สะดวก หรือเดินผ่าน W-District ก็ได้ครับ หน้าโครงการมีป้ายรถเมล์ มีรถเมล์วิ่งผ่านทั้งเข้าและออกเมือง หรือเดินไปขึ้นตรงเส้นสุขุมวิทก็ได้มีวิ่งผ่านหลายสายเลย นอกจากนี้ยังมีรถแถววิ่งตั้งแต่ BTS พระโขนงไปจนถึงแยกคลองตัน หน้าโครงการโบก Taxi ขึ้นได้เลยสะดวกดี มีวินมอเตอร์ไซค์ตรงปากซอยปรีดีพนมยงค์ 3 นั่งไป BTS พระโขนง 10 บาทครับ

3-01

จากภาพถ่ายดาวเทียมจะเห็นว่าพื้นที่รอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ หอพัก ส่วนคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่จะเกาะแนวเส้นสุขุมวิท นอกจากนี้ยังมีโรงแรมและคอมมูนิตี้มอลล์ใกล้ ย่านนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆครับ ส่วนราคาคอนโดมิเนียมย่านนี้ก็มีตั้งแต่ตารางเมตรละ 100,000 – 16x,xxx บาท ซึ่งก็มีรูปแบบโครงการที่แตกต่างกันออกไปครับ

The Line สุขุมวิท 71 เป็นโครงการแบรนด์ The Line ตัวที่ 2 ของ “แสนสิริ” แต่เป็น The Line ตัวแรกที่สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ก่อน จริงๆโครงการนี้เป็นอีกชื่อนึงมาก่อนครับจะเป็น Segment เดียวกับ WYNE , NYE , TEAL แต่มาเปลี่ยนชื่อโครงการใหม่เป็นแบรนด์ The Line โครงการนี้ประสบความสำเร็จ Sold Out ในวัน Pre-sale โดยแบ่งเป็นยอดขายต่างชาติเมื่อวันที่ 1-2 สิงหาคม 2558 ไปเปิดขายในฮ่องกง สิงคโปร์ และไต้หวัน ขายหมดโควต้าภายใน 2 วัน และยอดขายในไทย เมื่อวันที่ 8-9 สิงหาคม 2558 ก็ปิดการขายใน 2 วันเช่นกันครับ แต่ยอดโอนกลับไม่ประสบความสำเร็จเหมือนวัน Pre-sale ราคาเปิดขายช่วง Pre-sale เริ่มที่ 4 ล้านบาท ปัจจุบันราคาเริ่มที่ 4.75 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ที่ประมาณ 160,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งถือว่าสูงพอสมควรครับ ใครสนใจหาที่อยู่อาศัยแถวเส้นสุขุมวิทใกล้ BTS ก็ลองแวะเข้าไปชมที่โครงการได้ครับยังมีห้องตำแหน่งสวยๆให้เลือกอยู่

6-01

จุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 850 ม. โดยมาเข้าซอยปรีดีพนมยงค์ 2 ตรงมาสุดซอยเลี้ยวซ้ายวิ่งเลียบใต้ทางด่วนไปจะเจอจุดขึ้นทางด่วนพอดี

7-01

ทางด่วนที่ใกล้โครงการอีกเส้นคือทางด่วนเฉลิมมหานครโดยไปขึ้นแถวท่าเรือ จากโครงการวิ่งมาเข้าถนนพระราม 4 มาตัดเข้าถนนกล้วยน้ำไทและมาเข้าถนนอาจณรงค์จะเจอจุดขึ้นทางด่วน ระยะจากโครงการมาประมาณ 2.6 กม.

1.2

การเดินทางวันนี้เริ่มจากถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าพระโขนง ขับตามแนว BTS มาจนถึงแยกพระโขนง และไปเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิท 71 ตรงไปอีกประมาณ 220 ม. โครงการจะอยู่ทางซ้ายมือครับ

สรุปการเดินทาง ถนนสุขุมวิท >ถนนสุขุมวิท 71 > The Line สุขุมวิท 71

1-01

เริ่มจากถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าพระโขนง ข้างหน้าเป็น BTS พร้อมพงษ์

2-01

ซ้ายมือเป็น Emquartier ขวามือเป็น Emporium

4-01

จากนั้นจะเจอมิราเคิลมอลล์ซ้ายมือ

5-01

เลยมาอีกจะเป็น Rain Hill

6-01

จากนั้นขวามือจะเจอโครงการ Noble Remix

7-01

และจะเจอ BTS ทองหล่อ

8-01

ผ่านมาจะเจอแยกทองหล่อ ซ้ายมือเป็นซอยสุขุมวิท 55

9-01

เลยมาจะเจอโรงแรม Marriott ซ้ายมือ

11-01

จากนั้นจะเจอ Major เอกมัย

12-01

และจะเจอแยกเอกมัย ตรงหน้าเป็น BTS เอกมัย

13-01

จากนั้นซ้ายมือเป็นโรงพยาบาลสุขุมวิท

14-01

เลยมาอีกจะเจอ BTS พระโขนง

2-013-1

ติดกับ BTS พระโขนง ขวามือจะเป็น Summer Hill อยู่ในช่วงก่อสร้างครับ เป็นเจ้าของเดียวกับ Rain Hill

sum

หน้าตาโครงการ Summer Hill จะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ กำหนดการจะเสร็จช่วง Q2 2017 อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 600 ม.

16-01

เลยมาเป็นแยกพระโขนง ขวามือเป็น W-District เตรียมชิดซ้ายได้เลย

2-0112

ผ่านแยกมาซ้ายมือเป็น W District

42-01

ติดกันเป็นธนาคารกสิกร เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิท 71 ได้เลย

43-01

จากนั้นจะเจอสามแยก ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิท 71

44-01

เลี้ยวซ้ายมาจะเป็นถนนสุขุมวิท 71 เส้นนี้ไปเชื่อมออกถนนเพชรบุรี ถนนพัฒนาการ ถนนพระรามเก้า และรามคำแหงได้ รวมไปถึงซอยย่อยปรีดีพนมยงค์ที่สามารถเชื่อมไปออกฝั่งเอกมัย และสุขุมวิท 77 ได้ครับ

45-01

ถัดเข้ามาซ้ายมือเป็นร้าน Pizzahut

46-01

ถัดมาซ้ายมือเป็นซอยปรีดีพนมยงค์ 1 ไปเชื่อมออกตรงซอยสุขุมวิท 69/1 ได้

47-01

ถัดมาขวามือเป็นพระโขนงพลาซ่า มีร้านค้าหลายร้าน

48-01

ถัดมาจะเจอซอยปรีดีพนมยงค์ 3 ซ้ายมือ

49-01

และจะเจอ 7-11 ข้างหน้าก็ถึงโครงการแล้วครับ

50-01

เลย 7-11 มานิดเดียวก็เลี้ยวซ้ายเข้าโครงการได้เลยครับ

51-01

ขอบเขตด้านหน้าทางเข้าโครงการครับ

8-01

พื้นที่โครงการทางทิศเหนือติดกับอาคารพาณิชย์ 5-6 ชั้น และมีหอพักสูง 8 ชั้น ทิศใต้ติดกับอาคารพาณิชย์ 5-6 ชั้นตลอดแนวรั้วโครงการเลย ถัดออกมาจะเป็น W-District ตรงทิศตะวันตกเฉียงใต้มีโครงการ Sky Walk สูง 50 ชั้นและ Le Luk สูง 27 ชั้นทิศตะวันออกเป็นฝั่งด้านหน้าโครงการติดกับถนนสุขุมวิท 77 ยูนิตฝั่งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นห้อง 2 Bed ทั้งหมด ฝั่งทิศตะวันตกติดกับหอพัก 5 ชั้น ไม่มีผลกับวิวห้องพักครับ

5-01

มองจากมุมบนฝั่งด้านหน้าโครงการติดถนนสุขุมวิท 71 ขอบเขตด้านหน้าทางเข้าโครงการเส้นสีแดง และมีแนวรั้วโครงการที่อยู่ระหว่างอาคารพาณิชย์

12

ตัวโครงการตั้งอยู่ในย่านที่รายล้อมไปด้วยอาคารพาณิชย์ ตึกแถว หอพัก และคอนโดมิเนียม

52-01

ด้านหน้าทางเข้าออกโครงการอยู่ติดกับถนนสุขุมวิท 71 ฝั่งซอยเลขคี่ อยู่ช่วงระหว่างซอยปรีดีพนมยงค์ 3 และ 5

53

มองไปฝั่งขวาจะเป็นแนวอาคารพาณิชย์ มีเป็นร้านค้า ร้านขายยา และเป็นป้ายรถเมล์อยู่ด้านหน้า

54

มองไปอีกฝั่งก็เป็นอาคารพาณิชย์เช่นกันครับฝังนี้ก็มีร้านค้าร้านอาหาร

55-01

ฝั่งตรงข้ามด้านหน้าโครงการเป็นแนวอาคารพาณิชย์เช่นกัน ชั้นล่างส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้า

56

มองไปฝั่งซ้าย

57-01

มองไปฝั่งขวา ด้านหน้าโครงการจะมีทางม้าลาย ฝั่งตรงข้ามเป็นซอยปรีดีพนมยงค์ 2 ในซอยนี้มีของกินเพียบเลยครับ

4-01

เดี๋ยวผมพาเดินจากโครงการไป BTS พระโขนงในระยะทางประมาณ 500 ม. โดยเดินผ่าน W-District และไปออกตรงเส้นสุขุมวิทและเดินไปจนถึง BTS สถานีพระโขนง

1-01

ออกมาหน้าโครงการและเดินย้อนขึ้นไปทางปากซอยถนนสุขุมวิท 71

2

ติดกับโครงการจะเจอ 7-11 ขวามือ ทางเท้าเดินสะดวกดี

3

ถัดมามีร้านน้ำปั่น และอาคารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน

4-01

จากนั้นจะเจอซอยปรีดีพนมยงค์ 3 ขวามือ

6

ปากซอยมีวินมอเตอร์ไซค์นั่งไป BTS พระโขนง 10 บาทครับ

5

ซอยปรีดีพนมยงค์ 3 เป็นซอยที่ไปเชื่อมออกซอยสุขุมวิท 69 ได้ครับ ในซอยนี้ก็มีร้านค้าร้านอาหารให้เลือก

7

กลับมาทางเดินเท้า ผ่านซอยปรีดีพนมยงค์ 3 มาขวามือเป็นร้านอาหารเกาหลี

8

ถัดมามีร้านรถเข็นแต่จะเปิดช่วงเย็นๆครับ

9

มองไปฝั่งตรงข้ามเป็นพระโขนงพลาซ่า

10-01

เดินมาอีกขวามือจะเจอทางเข้า W-District เดี๋ยวผมพาเดินเข้าไปในนี้นะครับ ใครจะเดินตรงไปก็ได้แล้วค่อยไปเลี้ยวขวาตรงแยกและเดินเลียบถนนสุขุมวิทไปจนถึง BTS ระยะทางเท่ากันครับ

11

ผมพาเดินเข้า W-District

12

เดินเข้ามาส่วนแรกที่เจอฝั่งนี้จะเป็น W-Market

13

มีร้านอาคารหลายร้านและหลายแนว แต่จะเปิดตอนเย็นมากกว่าครับ

14

ร้านค้าจะอยู่รอบๆ และเว้นที่ตรงกลางเป็นโต๊ะนั่ง

15

เดินออกมาแล้วมองกลับไปจะเห็นแบบนี้ครับ

16

ออกจาก W-Market มา ฝั่งตรงข้ามก็มีร้านบาร์เครื่องดื่มต่างๆ

18

ร้านก็น่านั่งดีครับชิวๆ เปิดตอนเย็นครับ

17

มองไปฝั่งโครงการ จะเป็นตัวอาคาร The Line 71 ฝั่งทิศใต้ครับ

19

หันกลับเข้ามาด้านใน เดินเข้าไปใน W-District ต่อ

20

เดินเข้ามาจะเห็นอาคารสูง 2 อาคาร ซ้ายมือเป็นโครงการ Sky Walk สูง 50 ชั้น ขวามือเป็นโครงการ Le Luk สูง 27 ชั้น

22

เข้ามาจะเจอวงเวียน เดินตรงไปครับ

23

ในนี้มี Hof Art Space ใครที่ชอบเสพงานศิลป์ก็มาที่นี่ได้ครับ

24

ถัดเข้ามาอีกจะเจอวงเวียนอีกจุดตรงไปครับ

25

ฝั่งด้านขวามือคือ E88 ในนี้มีร้านอาหาร มี Co-Working Space , สถานที่ให้เช่าจัดประชุม และงานต่างๆ ซ้ายมือมีร้านทำฟัน

28

ด้านหน้า E88 มีร้าน TOM N TOM เปิด 24 ชม.

26

เดินมาด้านหน้ามี 7-11 ซ้ายมือ

27

และจะเจอทางออกด้านหน้าที่เป็นถนนสุขุมวิท

29-01

เดินออกมาจะเจอถนนสุขุมวิทตรงหน้า มีสะพานลอยซ้ายมือข้ามไปอีกฝั่งได้ เราจะเลี้ยวขวาไป BTS พระโขนงครับ

30

เลี้ยวมาจะเจอป้าย W-District ด้านหน้า

31

ผ่านมาขวามือเป็นโครงการ The Room 69

32-01

และจะเจอแยกพระโขนง ที่เป็นจุดตัดระหว่างถนนสุขุมวิทและถนนพระรามสี่ ที่เห็นกำลังก่อสร้างคือ Summer Hill ครับ

33

เดินต่อมาอีกจะเจอไปรษณีย์พระโขนงขวามือ

34

และจะเจอซอยสุขุมวิท 69

36

ซอยสุขุมวิท 69 เป็นซอยที่เชื่อมกับซอยปรีดีพนมยงค์ 3 ได้ มีวินมอเตอร์ไซต์ขวามือนั่งไปโครงการ 10 บาท ซ้ายมือมีร้านก๋วยเตี๋ยว ใครจะเดินซอยนี้ไปกลับโครงการก็ได้ครับ

35-01

จากซอยสุขุมวิท 69 มองไปจะเห็น BTS พระโขนงตรงหน้าพอดีครับ

38

และจะเจอป้ายรถเมล์

39

ติดกันก็เป็นบันไดเลื่อนขึ้นสถานี BTS พระโขนงครับ มีป้าย Shuttle Bus Stop ของ T77 ที่รวมโครงการของแสนสิริ และคอมมูนิตี้มอลล์ในนี้ครับ

40

ป้ายมีเวลา และเส้นทางการเดินรถบอกไว้ชัดเจน

41

หน้าตาของ Shuttle Bus ครับ ตอนนี้ยังเปิดให้ใช้บริการฟรีอยู่

5-01

เดี๋ยวผมพาเดินจากโครงการไป Habito Mall ที่ตั้งอยู่ใน T77 โดยผ่านซอยปรีดีพนมยงค์ 2 และผ่านใต้ทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ ระยะทางประมาณ 800 ม.

57-01

ออกมาหน้าโครงการจะมีทางม้าลาย เดินข้ามฝั่งไปซอยปรีดีพนมยงค์ 2 ครับ

58-01

ปากซอยปรีดีพนมยงค์ 2 ซ้ายมือมี Family Mart และร้านค้าร้านอาหารต่างๆ ริมสองฝั่งทาง ในซอยส่วนใหญ่จะเป็นตึกแถวอาคารพาณิชย์ และหอพัก

59

ร้านข้าวเหนียวมะม่วง ร้านขายยา

60

ร้านผมไม้ เกาเหลาเลือดหมู

61

ตรงนี้มีไก่ทอด ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่

62

อาหารอีสานก็มีครับ

63

ร้านโจ๊กหมูระเบิด

65-01

มองกลับไปที่โครงการ จะเห็นตัวอาคารแบบนี้เลยครับ

66

กลับมาทางเดิม เดินตรงเข้าไปอีกครับ

67

เข้ามาซ้ายมือมี 7-11 ติดกันเป็น Lotus Express

68

มี 7-11 อีกร้านขวามือ ด้านหน้ามีร้านอาหารหลายร้านเลย

69

ร้านขายกับข้าว

70

ขวามือเป็นร้านอาหารตามสั่ง

71

ตรงมาเกือบสุดซอย จะเป็นพื้นที่วางเปล่า

72

และจะเจอร้านริมทางขวามือ

73-01

จากนั้นจะเจอแยก เลี้ยวซ้ายไปขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เลี้ยวขวาไป T77 และออกถนนสุขุมวิท 77 ได้

74-01

ถ้าเลี้ยวซ้ายไปจะไปขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ได้ครับ ตรงไปอีกหน่อยก็จะเจอด่านเก็บเงิน ซ้ายมือเป็นโครงการ Vista Garden ขวามือมีร้านขายน้ำ

75

ถ้าใครเดินมา เราสามารถเดินข้ามใต้ทางด่วนไปเข้า T77 ได้ครับ

76

ใต้ทางด่วนตรงนี้เป็นสนามกีฬามีสนามฟุตซอล สนามบาส ถ้าเดินข้ามไปอีกฝั่งมีประตูออกไปเข้า T77 ได้ครับ

77-01

ผมพาเดินไปทางรถวิ่งให้ดูครับ จากซอยปรีดีพนมยงค์ 2 เลี้ยวขวาไป T77

78

มีร้านค้าขวามือ

79

โค้งตามทางไปครับ

80-01

และจะเจอแยกให้เลี้ยวซ้ายครับ

81

จะมีป้ายบอกไป Habito Mall

82

จากนั้นตรงไปอีกครับ

83-01

และจะเจอทางแยกเลี้ยวขวาเข้าซอยได้เลยครับ มีวินมอเตอร์ไซค์ซ้ายมือ ประตูคนเดินที่บอกอยู่ใกล้วินมอเตอร์ไซค์เลย

84

เลี้ยวเข้าซอยไปครับ ในนี้จะเรียกว่า T77 โดย T77 ถือเป็นเมืองเล็กๆ ที่ได้รับการจัดสรรพื้นที่เพื่อตอบสนองทุกไลฟสไตล์ชีวิตเมืองบนสุขุมวิท ออกแบบความพร้อม ในการอยู่อาศัยครบวงจร บนเนื้อที่มากกว่า 50 ไร่ กลางสุขุมวิท 77 ที่รวมไลฟไสตล์การอยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ที่พร้อมสรรพไปด้วยโครงการคอนโดมิเนียม 6 โครงการ และทาวน์โฮม 1 โครงการ นอกจากนี้ยังมีอพาร์ทเม้นท์ระดับพรีเมี่ยมจากมั่นคงเคหะการ และโรงเรียนนานาชาติบางกอกเพรพ รวมไปถึง Habito คอมมูนิตี้มอลล์แห่งแรกของแสนสิริอีกด้วยครับ

85

ซอยนี้สำหรับคนภายนอกจะเก็บค่าผ่านทางเพื่อเป็นการดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ส่วนลูกบ้านของ THE BASE Prak East, THE BASE Park West, Garden Square, hasu HAUS, mori HAUS และผู้ที่มาใช้บริการ Habito ไม่ต้องเสียครับ นอกนั้นต้องเสียค่าผ่านทางครับ

อัตราค่าผ่านทางใน 30 นาทีแรก รถยนต์ 20 บาท/เที่ยว จักรยานยนต์ 10 บาท/เที่ยว ถ้าเกิน 30 นาทีคิดค่าจอดรถชั่วโมงละ 100 บาท เศษของชั่วโมงคิดเป็น 1 ชั่วโมง โดยขาเข้าจะต้องรับบัตร จ่ายเงินตอนขาออกครับ ส่วนลูกบ้านที่อยู่พื้นที่ด้านใน T77 Community จะใช้ Key Card สแกนเข้าออกได้เลย

86

ผ่านป้อมยามเข้ามาซ้ายมือเป็นโครงการ The Base Park East เลยไปอีกหน่อยฝั่งตรงข้ามโครงการจะมีป้ายขึ้น Shuttle Bus ที่จะไปจอด BTS อ่อนนุช และ BTS พระโขนง ถ้าตรงเข้าไปอีกจะมีอีก 4 โครงการ และมีโรงเรียนนานาชาติ Bangkok Prep ที่กำลังก่อสร้างอยู่ เลี้ยวขวาไปจะเจอทางเข้า Habito Mall และไปออกถนนสุขุมวิท 77 ได้ครับ

87

โครงการ The Base Park East

88-01

เลี้ยวไป ตรงไปตามทางขึ้นสะพานแสนสำราญจะไปทะลุออกสุขุมวิท 77 ได้เลย ขวามือเป็นโครงการ The Base Park West ซ้ายมือเป็น Habito mall

89

โครงการ The Base Park West

91

Habito ซึ่งเป็น Community Mall แห่งแรกของแสนสิริ ภายในมี 3 ชั้น มีร้านค้า ร้านอาหารหลากหลาย มี 7-11 พรีเมี่ยม และ HABBA-TO ซึ่งเป็น Co-Working Space

92

Habito Mall

2.2

ย่านนี้มีความอุดมสมบูรณ์ในตัวอยู่แล้ว ติดกับโครงการมี 7-11 มีร้านอาหาร ร้านขายน้ำปั่น ร้านขายยา ร้านอาหารเกาหลี ฝั่งตรงข้ามมี Family Mart ในซอยปรีดีพนมยงค์ 2 มีร้านค้า ร้านอาหารตั้งแต่ปากซอยเข้าไปเกือบท้ายซอยเลย เปิดเกือบทั้งวัน แต่ช่วงเย็นจะคึกคักกว่า หรือเดินมาแถว W-District ก็มีร้านอาหาร ร้านนั่งชิวแต่ส่วนใหญ่เปิดตอนเย็นครับ หรือตรง E88 ที่อยู่ใน W-District ก็มีร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกครับ นอกจากนี้ยังมีตลาดพระโขนงที่มีทั้งของสด ของใช้ ผลไม้หลากชนิด ให้เลือกซื้อหลายร้าน หรือจะมา Habito Mall ก็สะดวก และตรง BTS พระโขนงมีคอมมูนิตี้มอลล์อีกแห่งชื่อว่า Summer Hill ที่จะเปิดให้บริการเร็วๆนี้ครับ ส่วนห้างสรรพสินค้าใกล้ๆมี Gateway เอกมัย , Major เอกมัย , Big C เอกมัย , Big C อ่อนนุช , Lotus อ่อนนุช ,​ Century อ่อนนุช หรือนั่ง BTS เข้าเมืองไปเลยก็สะดวกดีครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียง

  • 7-11 : 10 ม.
  • Family Mart : 35 ม.
  • W-District : 100 ม.
  • MaxValu : 400 ม.
  • Habito mall : 800 ม.
  • Summer Hill : 600 ม.
  • Big C Extra อ่อนนุช : 1.2 กม.
  • Gateway เอกมัย : 1.3 กม.
  • Century the movie plaza อ่อนนุช : 1.4 กม.
  • Major เอกมัย : 1.6 กม.
  • People Park : 2 กม.
  • The Phyll : 2.3 กม.
  • Big C เอกมัย : 2.4 กม.
  • โลตัสอ่อนนุช : 2.5 กม.
  • Emquartier : 3.6 กม.
  • Emporium : 3.6 กม.
  • Pickadaily Bangkok : 5.1 กม.
  • Bangkok Mall : 5.5 กม.
  • Central บางนา : 7.8 กม.
  • Big C บางนา : 7.8 กม.
  • ซีคอนสแควร์ : 8.6 กม.
  • Bangkok Prep : 900 ม.
  • รร.วัดธาตุทอง : 1.6 กม.
  • ม.กรุงเทพ : 1.8 กม.
  • วัดธาตุทอง : 1.6 กม.
  • โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท : 1.1 กม.
  • โรงพยาบาลสุขุมวิท : 1.7 กม.

แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง

1.1

  • ถนนสุขุมวิท : 220 ม.
  • ถนนพระรามสี่ : 450 ม.
  • ถนนอ่อนนุช : 1 กม.
  • ถนนเอกมัย : 1.6 กม.
  • ถนนทองหล่อ : 2.2 กม.
  • ถนนเพชรบุรี : 3 กม.
  • ถนนรามคำแหง : 3 กม.
  • ถนนพัฒนาการ : 3 กม.
  • ถนนพระรามเก้า : 3.9 กม.
  • ถนนบางนาตราด : 5.2 กม.
  • ถนนสรรพาวุธ : 5.2 กม.
  • ถนนศรีนครินทร์ : 6 กม.
  • แยกพระโขนง : 450 ม.
  • แยกอ่อนนุช : 1 กม.
  • แยกเอกมัย : 1.6 กม.
  • แยกทองหล่อ : 2.2 กม.
  • แยกคลองตัน : 3 กม.
  • แยกรามคำแหง : 3.9 กม.

โครงการ

ms-01

Master Plan โครงการจากด้านหน้าทางเข้าออก จะเจอป้อมยามมีไม้กระดกแบ่งฝั่ง เข้ามาจะเจอ Drop Off ถนนในโครงการจะวนไปทางขวาเป็นแบบ One way ตรงเข้าไปจะเจอทางเข้าที่จอดรถในอาคาร มี EV Station จุดชาร์ตรถยนต์ไฟฟ้า จาก Drop Off จะมีทางเข้า Lobby ถัดเข้ามาจะเป็น Mail Box ห้องนิติบุคคล และโถงลิฟท์ มีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว ลิฟท์ขนของ 1 ตัว

2

ตัวอาคารออกแบบมี 1 อาคาร สูง 28 ชั้น บนที่ดินขนาด 1 ไร่ 3 งาน รูปทรงสี่เหลี่ยมตรงๆ แต่เล่นลวดลายที่เปลือกอาคาร ยูนิตฝั่งด้านหน้าโครงการจะเป็นแบบ 2 Bedroom กระจกฝั่งนี้จะได้แบบ Full Height สีภายนอกอาคารเป็นสีน้ำตาลเข้ม เฟรมกระจกเป็นสีดำ ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 6 – 28 ส่วนกลางจัดไว้ที่ชั้น 1 , 6 และ Rooftop

11

ฝั่งด้านหน้าโครงการ ยูนิตฝั่งนี้เป็นแบบ 2 Bedroom ทั้งหมด

13

ฝั่งด้านข้างทิศใต้ติดกับแนวอาคารพาณิชย์

14

ด้านข้างอีกฝั่งทิศเหนือ Facility ที่ชั้น 6 จัดไว้ฝั่งนี้ รั้วโครงการจะติดกับหอพัก และอาคารพาณิชย์

16

ด้านหลังโครงการเป็นทิศตะวันตกติดกับหอพัก

15

ด้านหลังอีกมุม แปลนอาคารออกแบบเป็น Double corridor วิวหลักๆที่ได้คือฝั่งทิศเหนือและใต้

1

เริ่มกันตรงด้านหน้าทางเข้าออก ริมทางสองฝั่งตกแต่งด้วยต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่ม

2

เงยหน้ามองด้านบนจะเห็นตัวอาคารแบบนี้

4

ตรงเข้ามาจะเจอไม้กระดกแบ่งทางเข้าออก ลูกบ้านต้องใช้ Access Card

3

ฝั่งนี้จะทำทางเดินเท้าไว้ให้ มีป้ายโครงการติดไว้ชัดเจน

5

สองฝั่งทางเดินเป็นแนวพุ่มไม้

6

เดินเข้ามาผ่านป้อมยามขวามือ

7

ผ่านป้อมยามจะมีประตูรั้วที่ต้องใช้ Key Card แตะเข้าออก

8

เปิดเข้ามาจะเห็นแบบนี้

9

ผ่านไม้กระดกเข้ามาจะเจอจุด Drop Off ตรงหน้าจะเป็นทางเข้า Lobby ถนนในโครงการวนรอบอาคารเลี้ยวไปทางขวา เป็นแบบ One way

10

มองกลับไปที่ทางเข้าจะเห็นแบบนี้

11

มองไปทางขวา โครงการแก้ปัญหาอาคารที่ติดรั้วโครงการโดยการทาสีน้ำตาลเข้มสีเดียวกับตัวอาคาร เพื่อให้ดูกลมกลืนเป็นสีเดียวกัน

12

ฝั่งซ้ายก็เช่นกัน

13

วนตามทางรถวิ่งไปครับ

14

เดินตรงไปครับ ซ้ายมือมีสวนหย่อม ปลูกต้นสนมาให้

15

เงยหน้ามองด้านบนหน่อย

17

ตรงเข้าไปด้านในอีกครับ จะเจอทางลาด

18

ขึ้นมาซ้ายมือจะเป็นทางเข้าที่จอดรถในอาคาร

19

ทางเข้าที่จอดรถจำกัดความสูงที่ 2.1 ม.

20

เข้าส่วนแรกที่เจอเป็น EV Station จุดชาร์ตรถยนต์ไฟฟ้า

21

EV Station ต้องใช้ Key Card แตะ

22

ตรงขึ้นไปอีกครับ

23

และจะเจอ EV Station ซ้ายมืออีกจุด มีทางเดินเข้า Lobby จากชั้นนี้ได้

24

อีกฝั่งก็เป็นที่จอดรถ

25

ตรงมาสุดก็วนขึ้นไปอีกครับ

26

ที่จอดรถจะแบ่ง 2 ฝั่ง วนขึ้นไปจอดได้ถึงชั้น 5 ทั้งโครงการจอดได้ประมาณ 49% รวมซ้อนคันประมาณ 54%

27

แต่ละชั้นจะมีทางเชื่อมเข้าโถงลิฟท์โดยสาร และลิฟท์ขนของ

28

ทางเข้าโถงลิฟท์ ประตูต้องใช้ Key Card

29

ภายในโถงลิฟท์ชั้นจอดรถ

30

กลับลงมาที่ถนนด้านล่าง ขวามือมีศาล

31

และจะเจอที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ใต้อาคาร

32

ตรงมาสุดขวามือมีที่จอดรถกลางแจ้ง

33

เลี้ยวมาด้านหลังโครงการ

34

เลี้ยวมาด้านข้างโครงการอีกฝั่ง แนวอาคารที่ติดรั้วโครงการขวามือ ทาสีน้ำตาลเข้มหมดครับ

35

มีที่จอดรถใต้อาคารซ้ายมือ

36

ตรงมาสุดจะเจอที่จอดรถกลางแจ้ง มุมขวามือมีสวนหย่อม

37

สวนหย่อมตรงนี้จัดเป็นที่สูบบุรี

38

มีต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่ม

39

เงยหน้ามองตัวอาคาร

40

ออกมาก็เจอ Drop off ด้านหน้าพอดีครับ

42

ด้านหน้าทางเข้าอาคาร ขวามือมีสวนหย่อม

43

ภายในสวนมีต้นสน และพุ่มไม้

45

ด้านในทำเป็นที่นั่งพักผ่อน วางโต๊ะนั่งไว้ให้

46

Art object ลูกสน 3 ลูก มุมนี้มองเข้าไปเห็นส่วน Lobby

47

ประตูทางเข้า Lobby เป็นกระจกบานเปิด 1 บาน น่าจะทำบานคู่มาให้ดูสมราคาหน่อย

48

ลูกบ้านต้องใช้ Key Card แตะ

49

เดินเข้ามาจะเจอโถง Lobby ในสไตล์ของแสนสิริ ที่ชอบใช้หินอ่อนมาเป็นส่วนตกแต่ง แบ่งโซฟาเป็นสองฝั่ง

50

ฝ้าฝั่งนี้เป็นแบบ Double Volume ติด Chandelier ตกแต่งมาได้สวยดี ผนังกระจกสูงจากพื้นถึงฝ้า มองวิวต้นสนด้านนอก มุมนี้ออกแบบมาดีครับ

51

อีกฝั่งฝ้าสูงปกติ วางโซฟาไว้ 2 ชุด

53

ถัดเข้ามาซ้ายมือเป็น Mail Box ขวามือเป็นห้องนิติบุคคล

54

ภายในห้อง Mail Box

56

หน้าห้องนิติบุคคล

57

ตรงเข้ามาด้านในจะมีที่นั่งรอ ติดภาพวาดไว้ที่ผนัง ซ้ายมือเป็นทางเข้าโถงลิฟท์

58

อีกฝั่งเป็นทางเข้าห้องน้ำ และทางเดินเชื่อมกับที่จอดรถ

59

ภายในห้องน้ำ ถึงแม้จะเล็กแต่ทำออกมาไม่อึดอัดครับ

60

ออกมาตรงทางเข้าโถงลิฟท์ มีประตูกระจกบานเปิด 1 บาน ต้องใช้ Key Card

61

ผ่าเข้ามาจะเจอโถงลิฟท์ตกแต่งมาแบบนี้ครับ

62

มีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว

63

เดินเข้ามาแล้วมองกลับไปที่ประตูทางเข้า

64

ภายในลิฟท์

65.1

แผงกดลิฟท์ด้านใน

65.2

มีแผงกดลิฟท์สำหรับผู้ใช้รถเข็น

66

ขึ้นมาทีชั้น 6 จะเป็นชั้น Facility

67

โถงลิฟท์แต่ละชั้นจะมีช่องแสง และหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน

68

มองเข้าไปด้านใน

69

เดินออกมาจากโถงลิฟท์ซ้ายมือไปสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส และห้องสมุด ตรงไปเป็นห้องน้ำ และห้อง Laundry

70

เดินมาจะเจอเก้าอี้นั่ง 2 ตัว ฝั่งซ้ายเป็นห้องน้ำ ฝั่งขวาเป็นทางเข้าส่วนพักอาศัยมีประตูกั้นแยกต้องใช้ Key Card

71

ห้อง Laundry ซ้ายมือ ขวามือเป็นห้องน้ำ

72

ภายในห้อง Laundry

73

มีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ 3 เครื่อง ห้องนี้ติดแอร์มาให้ด้วยนะครับ

74

อีกฝั่งวางเครื่องอบผ้า และเครื่องกดน้ำหยอดเหรียญ

75

ออกมาดูห้องน้ำกันต่อ ซ้ายมือห้องน้ำหญิง ขวามือห้องน้ำชาย

76

ภายในห้องน้ำชาย

77

เข้ามาจะเจอตู้ Locker หน้าบานกระจก

78

อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม

79

ด้านในเป็นโถปัสสาวะ

80

อีกฝั่งเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำอย่างละ 1 ห้อง

81

ภายในห้องน้ำ

82

ภายในห้องอาบน้ำ

83

ไปดูอีกฝั่งกันต่อครับ ซ้ายมือเป็นประตูแยกส่วนพักอาศัย ขวามือเป็นทางเข้า Facility

84

เดินออกมาจะเจอสระว่ายน้ำตรงหน้าเลย ในสุดเป็นห้องฟิตเนส

IMG_8093

มองกลับไปจะเห็นห้องสมุด เป็นห้องกระจก

85

ภายในห้องสมุด วางโต๊ะนั่ง และชั้นวางหนังสือด้านใน

86

มีโต๊ะแบบเคาน์เตอร์ตั้งไว้ริมหน้าต่าง

87

วางอุปกรณ์ตกแต่งไว้บนโต๊ะ

88

อีกฝั่งเป็นโต๊ะไม้วางเก้าอี้ 6 ตัว ห้องนี้จะเปิดแอร์ หรือเปิดหน้าต่างรับลมด้านนอกก็ได้ครับ

89

มองออกไปที่ประตูทางเข้า

90

ออกมาดูด้านนอกกันต่อครับ

91

มีทางเดินออกมาสระว่ายน้ำและสวนเล็กๆ

92

สวนหย่อมอยู่มุมฝั่งนี้ มีโต๊ะนั่ง 1 ชุด

93

มองออกไปที่สระว่ายน้ำ สระขนาด 25 x 6 ม. ระบบเกลือ ขวามือมีแนวพุ่มไม้กั้น เนื่องจากฝั่งนี้ความสูงยังไม่พ้นอาคารที่ติดรั้วโครงการครับ โครงการเลยทำแนวพุ่มไม้บังสายตามาให้ วิวจากสระว่ายน้ำเลยได้แค่ปลายสระฝั่งเดียวน่าเสียดายครับ ถ้าขึ้นไปอีก 1-2 ชั้น ก็ไม่ต้องทำแนวพุ่มไม้กั้นแล้ว หรือยกไปไว้ Rooftop ก็จะดูดีกว่าเยอะครับ

94

มีเตียงนอนริมสระแช่น้ำอยู่

95

วิวจากปลายสระว่ายน้ำมองเข้าไปฝั่งในเมือง แต่ด้วยความสูงชั้น 6 วิวเลยได้ประมาณนี้ครับ

96

จากปลายสระมองเข้าไปที่ตัวอาคาร จะเห็นห้องฟิตเนสที่มีผนังกระจก

6

มองจากมุมบนจะเห็นสระว่ายน้ำแบบนี้ครับ วิวจากสระว่ายน้ำจะได้แค่ฝั่งขวาครับ

97

กลับเข้ามาด้านในมีทางเดินยาวเข้าไปที่ห้องฟิตเนส

98

มองออกไปที่สระว่ายน้ำ

99

ฝั่งด้านในมีชุดเก้าอี้และโต๊ะนั่ง ผนังกระจกมองเห็นทางเดินส่วนพักอาศัยด้านใน

100

ตรงเข้ามาสุดจะเจอห้องฟิตเนสตรงหน้า

101

จุดล้างตัวอยู่มุมนี้ครับ

102

ห้องฟิตเนสเป็นประตูกระจกบานเปิดต้องใช้ Key Card

103

ภายในห้องฟิตเนสวางเครื่องออกกำลังกายมาสองฝั่ง

104

ลู่วิ่ง 2 เครื่อง

105

ดัมเบล 1 ชุด

106

ม้านั่งออกกำลังกาย 1 ตัว

107

เครื่องเดินล้อหลัง 1 เครื่อง

108

เครื่องปั่นจักรยานแบบเอนปั่น 1 เครื่อง

109

เครื่องปั่นจักรยานนั่งปั่น 2 เครื่อง

110

เครื่องบริหารกล้ามเนื้อ

111

ลูกบอลออกกำลังกาย แผ่นยาง

112

วิวฝั่งนี้มองออกไปที่สระว่ายน้ำ ผนังเป็นกระจกบานเลื่อนเปิดรับลมได้

114

มองออกมาเห็นสระว่ายน้ำ

115

ขึ้นลิฟท์มาที่ชั้น Rooftop จะมีสวนลอยฟ้า

116

เดินออกมา มีป้ายบอกซ้ายมือเป็น Sunset Deck ฝั่งขวาเป็น Sunrise Deck

117

ไปดู Sunrise Deck กันก่อน

118

เดินมาฝั่งนี้จะมีลานโล่งๆ แนวพุ่มไม้จะอยู่รอบๆ ผนังตรงหน้าเป็นกระจก ด้านบนทำเป็นโครงเหล็ก

119

มองไปฝั่งนี้ มีเตียงนอนอาบแดดได้

120

เตียงนอนชมวิว

121

มองไปอีกฝั่ง

4

มองจากมุมด้านบนจะเห็นแบบนี้ครับ ฝั่งนี้จะโดนแดดช่วงเช้าครับ

122

เดินไปดูฝั่ง Sunset Deck กันต่อครับ

123

เดินมาจะเจอสนามหญ้าสองฝั่ง

124

มีแนวพุ่มไม้บังราวกันตก

125

อีกฝั่งทำบันได ไว้นั่งได้

126

มองไปตรงๆจะเห็นแบบนี้ครับ

127

เดินไปตรงปลายสุดกันต่อ

128

จัดเป็นโซฟาชุดใหญ่ ไว้นั่งชมพระอาทิตย์ตกดิน

129

ราวกันตกฝั่งนี้จะเป็นกระจกทั้งหมด ไม่บังวิวด้านนอก

130

มุมด้านนี้ก็จัดโซฟามาอีกชุดครับ

135

มองกลับไปทางที่เดินเข้ามา

7

วิวฝั่งทิศตะวันออกหรือด้านหน้าโครงการมองไปทางสุขุมวิท 77 เห็นแนวทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์

134

มองลงมาด้านล่างจะเห็นถนนสุขุมวิท 71 ด้านหน้าโครงการครับ

9

ทิศตะวันตกด้านหลังโครงการวิวมองเข้าไปในเมือง จะเห็นแนวอาคารสูง

133

มองลงมาด้านล่างจะเห็นหอพักและอาคารพาณิชย์

8

ฝั่งทิศใต้ด้านข้างโครงการ วิวฝั่งนี้จะโดนโครงการ Sky Walk สูง 50 ชั้น บังวิวหน่อย วิวไกลออกไปเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยครับ

131

มองลงมาด้านล่าง แนวรั้วโครงการจะเป็นอาคารพาณิชย์ทั้งหมด

10

วิวทิศเหนือด้านข้างโครงการอีกฝั่ง น่าจะเป็นวิวที่โล่งสุดครับ มองไปทางแยกคลองตัน อาคารสูงฝั่งนี้ยังมีน้อยอยู่เลย

132

มองลงมาด้านล่างจะเป็นอาคารหอพักและอาคารพาณิชย์

Units Type

โครงการนี้มีห้องให้เลือกแบบ 1 Bedroom กับ 2 Bedroom

  • 1 Bedroom 1 Bath ขนาดเริ่ม 29.75 – 34.00 ตร.ม.
  • 1 Bedroom 1 Bath ขนาดเริ่ม 40.00 – 44.75 ตร.ม.
  • 2 Bedroom 2 Bath ขนาดเริ่ม 57.25 – 62.75 ตร.ม.

001

1 Bedroom ขนาด 29.75 – 30.25 ตร.ม.

002

1 Bedroom ขนาด 31.00 ตร.ม.

003

1 Bedroom ขนาด 34.00 ตร.ม.

004

1 Bedroom ขนาด 30.75 ตร.ม.

005

1 Bedroom ขนาด 40.00 ตร.ม.

006

1 Bedroom ขนาด 42.75 ตร.ม.

007

1 Bedroom ขนาด 43.00 ตร.ม.

008

1 Bedroom ขนาด 44.75 ตร.ม.

009

2 Bedroom ขนาด 62.00 ตร.ม.

0010

2 Bedroom ขนาด 62.25 – 62.75 ตร.ม.

0011

2 Bedroom ขนาด 57.25 ตร.ม.

0012

2 Bedroom ขนาด 61.00 ตร.ม.

ห้องตัวอย่าง

ห้องตัวอย่างที่จะพามาชมวันนี้มี 2 แบบ

  • 1 Bedroom ขนาด 40.00 ตร.ม.
  • 2 Bedroom ขนาด 62.00 ตร.ม.

005

แบบแรกที่จะพามาชมเป็น 1 Bedroom ขนาด 40 ตร.ม. เดินเข้าห้องมาเจอส่วนรับประทานอาหารยาวเชื่อมกับห้องนั่งเล่นด้านใน ห้องนี้ตำแหน่งเป็นห้องมุมผนังส่วนห้องนั่งเล่นจะเป็นกระจก ระเบียงห้องอยู่ถัดจากห้องนั่งเล่น ฝั่งขวาเป็นห้องครัวได้เป็นครัวปิด ตรงข้ามห้องครัวเป็นห้องนอน ส่วนห้องน้ำอยู่มุมขวาในสุด

1

ประตูห้องนอนบานสีเข้มสูงเกือบถึงฝ้า ซ้ายมือมีป้ายบ้านเลขที่และกริ่ง

2

ประตูจะได้ Digital Door Lock ของ Samsung มือจับเป็นแบบผลักและดึง

3

เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนรับประทานอาหาร เชื่อมกับส่วนห้องนั่งเล่น ด้านในสุดเป็นระเบียง ผนังซ้ายมือจะเป็นกระจก ฝั่งขวามีทางเดินไปเข้าห้องครัว ห้องนอน และห้องน้ำ พื้นห้องเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ฝ้าสูง 2.7 ม. ผนังได้แบบฉาบเรียบทาสี ไฟได้แบบดาวน์ไลท์ทั้งหมด

โครงการนี้ขายแบบ Fully Furnished คือจะได้เฟอร์นิเจอร์ครบทุกชิ้น แม้กระทั้งแก้วน้ำ จาน ช้อนซ่อม ก็ได้ครับ เรียกว่าหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้ามาอย่างเดียวก็เข้าอยู่ได้เลย

4

เดินเข้าห้องมาแล้วมองกลับไปที่ประตูทางเข้าจะเห็นแบบนี้ ซ้ายมือเป็นห้องครัว

5

ติดประตูทางเข้าจะมีตู้เก็บของได้แบบนี้เลย

6

เป็นบานเปิด 3 บาน และลิ้นชัก 2 ชั้น

7

ถัดเข้ามาจะเป็นส่วนรับประทานอาหาร และส่วนห้องนั่งเล่น ผนังฝั่งนี้เป็นกระจก มีหน้าต่างบานกระทุ้ง 3 บาน ผ้าม่านก็แถมให้ตามนี้เลยครับพร้อมซ่อนรางม่านมาให้ด้วยเลย

8

โต๊ะรับประทานอาหารได้ขนาด 2 ที่นั่ง สเปคตามนี้เลยครับ

9

ถัดไปเป็นส่วนห้องนั่งเล่น แอร์ติดตรงผนังเหนือโซฟา 1 ตัว

10

ได้โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง

11

โต๊ะกลางเปิดฝาด้านบนเก็บของจุกจิกได้

12

ระยะดูทีวีประมาณ 3.2 ม. ทีวีที่ได้ของ Samsung พร้อมชั้นวางทีวี

13

ชั้นวางทีวีเป็นตู้บานเปิด 3 บาน

15

ถัดมาเป็นประตูออกไปยังระเบียง เป็นกระจกบานเลื่อน 2 บาน ผ้าม่านแถมมาให้ด้วย

16

เปิดประตูออกมาจะเจอระเบียงขนาด 1.61 x 0.88 ม.

17

คอมเพลสเซอร์แอร์แขวน 2 ตัวเป่าลมออกด้านนอกมีระแนงบังสายตาเรียบร้อย ได้เครื่องซักผ้าของ Samsung ขนาด 8 kg วางไว้ใต้คอมเพลสเซอร์แอร์

18

ปลั๊กไฟมาพร้อมฝาครอบ

19

วิวจากระเบียงห้องตัวอย่างชั้น 14

20

มองลงมาเห็นสระว่ายน้ำ

21

กลับเข้ามาด้านในกันต่อครับ

22

จากส่วนห้องนั่งเล่นจะมีทางเดินเข้าไปยังส่วนครัว ห้องนอน และห้องนำ้

23

ห้องครัวจะได้เป็นครัวปิด ประตูทางเข้าเป็นกระจกบานเลื่อน ห้องครัวมีส่วนที่เป็นกระจกเข้ามุมให้แสงส่องเข้าไปในห้องได้

24

เหนือประตูครัวจะเห็นเป็นช่องเหมือนแอร์ฝังฝ้าทั้งด้านในและด้านนอก แต่มันคือตัวดูดอากาศจากด้านนอกเข้าไปในห้องครัวครับ ไว้ใช้งานเวลาประกอบอาหารตอนปิดห้องครัวจะได้มีอากาศหายใจ สังเกตตรงฝ้าด้านในห้องครัวจะมีพัดลมดูดอากาศอีกตัวออกด้านนอกตรงระเบียง

25

ภายในห้องครัวจัดวางเคาน์เตอร์เป็นตัว U ชุดครัวได้ตามนี้เลย เครื่องใช้ไฟฟ้าได้ Hob & Hood ไมโครเวฟ และตู้เย็น

26

พื้นที่ยืนตรงกลางประมาณ 1.1 x 1.28 ม. พื้นปูกระเบื้องแกรนิตโต้

27

ตู้ครัวด้านบนเป็นบานเปิด 8 บาน ทุกบานมี Soft Close

28

ด้านล่างมีเป็นบานเปิด และลิ้นชัก

29

ลิ้นชักแบ่งช่องเก็บช้อนซ่อม ช้อนซ่อมที่อยู่ในตู้นี้ก็ได้นะครับ

30

อีกฝั่งเป็นบานเปิด 3 บาน

31

อ่างล้างจานได้แบบหลุมเดียวไม่มีที่พักจานของ Mex มีแผ่นไม้ทำเป็นเขียงวางบนอ่างได้

32

ยกออกมาก็จะเป็นแบบนี้ครับ

33

เตาไฟฟ้าหน้าเซรามิก 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันของ Smeg ท็อปเคาน์เตอร์เป็นหินแกรนิต ผนังด้านในกรุกระจกทำความสะอาดง่าย

34

ได้ไมโครเวฟของ Samsung

35

ตู้เย็นที่ได้ของ Samsung

36

ออกจากห้องครัวมา ซ้ายมือเป็นห้องนอน ขวาเป็นห้องน้ำ บานประตูเป็นสีน้ำตาลอ่อน

37

มือจับประตูเป็นแบบคันโยก

38

ภายในห้องนอนตกแต่งมาให้ดูแบบนี้ครับ

39

ได้เตียง King Size พร้อมเครื่องนอนครบเซ็ททั้งหมอน ผ้านวม และผ้าปูที่นอน

40

ข้างเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 85 ซม. ได้โต๊ะเครื่องแป้ง

41

โต๊ะเครื่องแป้งเปิดออกได้แบบนี้

42

ข้างเตียงอีกฝั่งเหลือพื้นที่ประมาณ 59 ซม.

43

ได้โต๊ะข้างเตียงเป็นลิ้นชัก

44

ปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 67 ซม.

45

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.6 ม. ปลายเตียงวางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะวางทีวี

46

โต๊ะวางทีวีมีลิ้นชักเก็บของ 3 ช่อง

47

ตู้เสื้อผ้าที่ได้เป็นบานเลื่อน 2 บาน และบานเปิด 1 บาน

48

หน้าต่างในห้องนอนเป็นบานกระทุ้ง 2 บาน ที่เหลือเป็นบาน Fixed

49

บานกระทุ้งเปิดได้ประมาณ 40 องศา

50

ผนังฝั่งด้านในติดแอร์ 1 ตัว

51

มาต่อกันที่ห้องน้ำ แบ่งสว่นเปียกส่วนแห้ง ตู้กระจกตรงอ่างล้างหน้า 2 บาน

52

เป็นบานเปิด เก็บของด้านในได้

53

อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม ก๊อกน้ำเป็นแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็น

54

ตู้ใต้อ่างล้างหน้าเป็นบานเปิด 2 บาน ด้านในติดเครื่องทำน้ำร้อนมาให้ของ Stiebel Eltron

55

ติดกันวางโถสุขภัณฑ์ของ Cotto

56

ด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้ กระจกเป็นสีชาดูสวยไปอีกแบบ

57

ด้านในติดฝักบัวแบบปรับระดับได้ และ Rain Shower

58

Rain Shower ทรงสี่เหลี่ยม

59

หน้าตาฝักบัวที่ได้ขนาดพอดีมือของ Cotto ก๊อกน้ำเป็นแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็น

60

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.25 x 0.88 ม.

61

ธรณีประตูทำมาสูงพอประมาณ

009

อีกแบบที่จะพามาชมเป็น 2 Bedroom ขนาด 62 ตร.ม. เดินเข้าห้องมาเจอส่วนรับประทานอาหารก่อนเลยเเชื่อมกับส่วนห้องนั่งเล่น ฝั่งด้านในเป็นห้องครัวได้เป็นครัวปิด ระเบียงเชื่อมจากห้องครัว ติดกับครัวเป็น Master Bedroom มีห้องน้ำในห้องนอน หน้าห้องน้ำมีพื้นที่ Walk in closet อีกฝั่งเป็นห้องนอนเล็ก และห้องน้ำ

1

เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนรับประทานอาหารก่อนครับ พื้นที่ยาวไปเชื่อมกับห้องนั่งเล่น ด้านในขวามือเป็นห้องครัว ซ้ายมือเป็นห้อง Master Bedroom ฝั่งเดียวกับประตูห้องจะเป็นห้องนอนเล็กและห้องน้ำ

2

เดินเข้าห้องมาแล้วมองกลับไปที่ประตูทางเข้า ขวามือเป็นห้องน้ำ ซ้ายมือมีตู้เก็บของมาให้

3

ตู้เก็บของเป็นบานเปิดทั้งหมด 5 บาน สูงถึงฝ้า ด้านในแบ่งเป็นชั้นวางรองเท้าได้ และเก็บของต่างๆ ซ้ายมือเป็นห้องครัว

4

ประตูส่วนครัวเป็นกระจกบานเลื่อน 3 ตอน

5

เปิดเข้ามาด้านในจะแบ่งเคาน์เตอร์ครัวเป็น 2 ฝั่ง ตรงกลางเป็นทางเดินระยะพื้นที่เดินกว้างประมาณ 93 ซม. พื้นปูกระเบื้องแกรนิตโต้

6

ชุดตู้ฝั่งขวาได้ตามนี้เลย

7

ด้านบนเป็นบานเปิด 7 บาน

8

ด้านล่างบานเปิด 3 บาน

9

มีลิ้นชัก และช่องเก็บของ

10

อ่างล้างจานทรงสี่เหลี่ยมของ Mex พร้อมแผ่นไม้ที่ใช้เป็นเขียงวางบนอ่างล้างจานได้

11

เตาไฟฟ้าห้องนี้ได้แบบสี่หัวพร้อมเครื่องดูดควันของ Smeg

12

อีกฝั่งมีช่องวางตู้เย็น และเครื่องซักผ้า ได้ของ Samsung ทั้งหมด

13

ตู้ด้านบนเป็นบานเปิด 5 บาน

14

ด้านล่างอีก 2 บาน

15

จากส่วนครัวมีประตูออกระเบียง เป็นบานเลื่อน 3 บาน

16

พื้นที่ระเบียงขนาด 1.38 x 1.15 ม.

17

ตรงระเบียงมีระแนงบังสายตา พร้อมผลักลมร้อนของคอมแอร์ออกนอกระเบียง

18

เปิดออกมาด้านในแขวนคอมเพลสเซอร์แอร์ 2 ตัว ตั้งที่พื้น 1 ตัว

19

กลับเข้ามาด้านในกันต่อ

20

ออกจากครัวมามองไปฝั่งด้านใน จะเจอส่วนรับประทานอาหารก่อน ซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ

22

ประตูห้องน้ำอยู่ติดประตูห้อง

23

ภายในห้องน้ำมีแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง

24

ตู้กระจกตรงอ่างล้างหน้าเป็นบานเปิด 2 บาน

25

อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม ก๊อกน้ำแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็น

27

ติดกันวางโถสุขภัณฑ์ของ Cotto

28

ด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ติดฉากกั้นอาบน้ำกระจกสีชา ซ้ายมือมีช่องไว้วางของได้

29

ด้านในติดฝักบัวพร้อม Rain Shower ของ Cotto ติดเครื่องทำน้ำร้อนมาให้เรียบร้อยใต้อ่างล้างหน้า

24

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.26 x 0.93 ม.

26

ธรณีประตูทำมาสูงพอประมาณ

30

ออกจากห้องน้ำมาจะเจอส่วนรับประทานอาหาร

21

ได้โต๊ะพร้อมเก้าอี้ 4 ตัวตามนี้เลยครับ

31

ถัดเข้าไปด้านในเป็นส่วนห้องนั่งเล่น ซ้ายมือเป็นห้องนอนเล็ก ขวามือเป็น Master Bedroom

32

ได้โซฟาขนาด 3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลาง

33

ระยะดูทีวีประมาณ 2.75 ม. ได้ชั้นวางทีวีและตู้เก็บของด้านบน

34

ตู้เป็นบานเปิดทั้งหมด

35

ตรงห้องนั่งเล่นมีหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน ที่เหลือเป็นบาน Fixed สูงจากพื้นถึงฝ้า

36

บานกระทุ้งเปิดได้ประมาณ 40 องศา

37

วิวส่วนห้องนั่งเล่นจะได้ฝั่งทิศตะวันออกครับ มองไปทางสุขุมวิท 77

38

มองกลับเข้ามาด้านใน แอร์ตรงส่วนห้องนั่งเล่นจะได้แบบฝังฝ้า

39

ห้อง Master Bedroom อยู่ฝั่งนี้ครับ

40

ภายในห้องนอน ตำแหน่งห้องจะอยู่มุมอาคารพอดีจะได้วิวสองฝั่งครับ หัวเตียงอยู่ฝั่งตะวันออก

41

ได้เตียง King size พร้อมชุดเครื่องนอน พื้นที่ข้างเตียงเหลือพื้นที่ฝั่งละประมาณ 90 ซม. ได้โต๊ะหัวเตียงทั้งสองฝั่ง

42

ปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 70 ซม.

43

ฝั่งหัวเตียงได้กระจกสูงจากพื้นถึงฝ้าเลย

44

ฝั่งด้านข้างเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 2 บาน ที่เหลือเป็นบาน Fixed มีส่วนที่เป็น Bay Windows ผ้าม่านแถมให้ทั้งหมดครับพร้อมซ่อนรางม่านมาให้ด้วยเลย

45

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.7 ม.

46

ได้โต๊ะวางทีวี แบ่งเป็นลิ้นชักเก็บของ 3 ช่อง

47

ปลายเตียงมีส่วน Walk in closet มีประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน

48

ด้านในทำเป็นตู้เสื้อผ้า และได้โต๊ะเครื่องแป้งด้านในสุด

49

อีกฝั่งเป็นห้องน้ำ

50

ชุดเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าที่ได้

51

ตู้กระจกบานเปิดด้านบาน และตู้เก็บของใต้อ่างล้างหน้า

52

ฝั่งตรงข้ามอ่างล้างหน้าเป็นโถสุขภัณฑ์ของ Cotto

53

ด้านในสุดเป็นพื้นที่ส่วนเปียกติดฉากกั้นมาให้

54

ด้านในติดฝักบัวพร้อม Rain Shower ของ Cotto

55

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.5 x 0.89 ม.

56

กลับออกมาตรงห้องนั่งเล่น อีกฝั่งเป็นห้องนอนเล็ก

57

ภายในห้องนอน ขนาดไม่เล็กจนเกินไป

58

ห้องนี้จะได้เตียงเดี่ยว พื้นที่เหลือวางเตียง 5 ฟุตได้ครับ

59

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 1.1 ม.

60

ปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 40 ซม.

61

พื้นที่ข้างเตียงริมหน้าต่างเหลือประมาณ 98 ซม. ได้โต๊ะหัวเตียง 1 ตัว

62

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.4 ม.

63

หน้าต่างในห้องนอนเป็นบานกระทุ้ง 1 บาน ที่เหลือเป็นบาน Fixed สูงจากพื้นถึงฝ้า

64

ฝั่งด้านในได้ตู้เสื้อผ้าขนาด 2 บาน แอร์ติดผนัง 1 ตัว

ราคา (เม.ย.60)

  • 1 Bedroom 29.75 – 44.75 ตร.ม. ราคาเริ่ม 4.75 ล้านบาท
  • 2 Bedroom 57.25-62.75 ตร.ม. ราคาเริ่ม 8.9 ล้านบาท

ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.ม. : ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม

เงินจอง 1 Bed 50,000 บาท , 2 Bed 100,000 บาท

***รายละเอียดอื่นๆโปรดสอบถามทางโครงการครับ


สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ – The Line สุขุมวิท 71 ตั้งอยู่ติดถนนสุขุมวิท 71 รอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยมีทั้งอาคารพาณิชย์ บ้านพักอาศัย และคอนโดมิเนียม มีคอมมูนิตี้มอลล์ใกล้ๆ ย่านนี้มีความอุดมสมบูรณ์ในตัวพอสมควรตั้งแต่ปากซอยสุขุมวิท 71 เข้ามาเลย มีตลาดพระโขนงมีทั้งของสด ของใช้ ผลไม้ ร้านค้าต่างๆให้เลือกหลายร้าน ตามริมทางจะมีร้านอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน มีร้านอาหารเกาหลีใกล้ๆโครงการ เดินมา W-District ก็มีร้านอาหารหลายร้านเลย แต่ส่วนใหญ่เปิดช่วงเย็น ตรงซอยปรีดีพนมยงค์ 2 ก็มีร้านอาหารขายเพียบเลยตั้งแต่ปากซอยเข้าไปทางริมสองฝั่งทาง หรือเลยเข้าไปด้านในไปเชื่อมเข้า T77 มีคอมมูนิตี้มอลล์ Habito ตรง BTS พระโขนงมี Summer Hill ที่อยู่ในช่วงก่อสร้างอยู่ ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆมี Gateway เอกมัย , Major เอกมัย , Big C เอกมัย , Big C อ่อนนุช , Lotus อ่อนนุช ,​ Century อ่อนนุช หรือนั่ง BTS เข้าเมืองไปเลยก็สะดวกดีครับ

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนสุขุมวิท 71 เส้นนี้มีข้อดีตรงที่เป็นเส้นที่เชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิท ถนนเพชรบุรี ถนนพัฒนาการ และถนนรามคำแหง และมีซอยย่อยอย่างถนนปรีดีพนมยงค์ไปเชื่อมออกได้ทั้งฝั่งเอกมัยและสุขุมวิท 77 การเดินทางเข้าออกเมืองถือว่าทำได้สะดวก ห่างจากถนนสุขุมวิท ประมาณ 220 ม. เส้นนี้ได้ทั้งวิ่งเข้าออกเมืองไปได้ทั้งเอกมัย ทองหล่อ พร้อมพงษ์ อโศก ชิดลม สยาม ฝั่งขาออกก็ไปสุขุมวิท 77 บางนา เชื่อมออกบางนาตราดได้ หรือเลยไปสำโรง สมุทรปราการ เส้นเพชรบุรีจะวิ่งขนาดกับเส้นสุขุวิทเข้าทางท้ายซอยเอกมัย ทองหล่อ อโศกได้เลย เส้นพระรามสี่ไปลุมพินี วิทยุ สาทร สีลม สามย่านได้เลย เส้นพัฒนาการ รามคำแหง เน้นออกนอกเมือง พระรามเก้าวิ่งออกมอเตอร์เวย์ได้ ส่วนทางด่วนใกล้ๆมีทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และทางด่วนเฉลิมมหานคร

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – โครงการอยู่ห่างจาก BTS พระโขนงประมาณ 500 ม. ระยะก็พอเดินได้ครับมีทางเดินเท้าสะดวกที่บันไดทางขึ้นเลย หน้าโครงการมีป้ายรถเมล์ หรือมาขึ้นตรงเส้นสุขุมวิทก็ได้จะเยอะหน่อยทั้งเข้าและออกเมือง มีรถสองแถววิ่งผ่านตั้งแต่ BTS พระโขนงจนถึงแยกคลองตัน วินมอเตอร์ไซค์อยู่ตรงปากซอยปรีดีพนมยงค์ 3 ส่วน Taxi ก็โบกขึ้นหน้าโครงการได้เลยครับสะดวกดี ไม่ต้องมีรถส่วนตัวก็อยู่ที่นี่ได้สบายๆครับ

การออกแบบโครงการและวัสดุ – โครงการออกแบบมา 1 อาคาร สูง 28 ชั้น และชั้นดาดฟ้า บนพื้นที่ดินขนาด 1 ไร่ 3 งาน อาคารรูปทรงสี่เหลี่ยมใช้สีโทนน้ำตาลเข้ม ออกแบบมาเต็มพื้นที่ มีถนนรอบอาคารรถวิ่งแบบ One way ชั้นจอดรถจอดได้ที่ชั้น 1-5 ทั้งโครงการจอดได้ประมาณ 54% รวมซ้อนคัน ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 6 – 28 ส่วนกลางหลักๆอยู่ที่ชั้น 1 , 6 และดาดฟ้าครับ

การออกแบบห้องพักอาศัยที่นี่มีให้เลือก 2 แบบหลักๆ คือ 1 Bed ขนาดเริ่ม 29.75 – 44.75 ตร.ม. และ 2 Bed ขนาดเริ่ม 57.25-62.75 ตร.ม. ห้องออกแบบมาดูโปร่งไม่อึดอัด ฝ้าสูง 2.7 ม. โครงการขายแบบ Fully Furnished หิ้วกระเป๋าเสื้อผ้ามาอย่างเดียวก็เข้าอยู่ได้เลยครับ ของที่ได้จะมี ชุดเคาน์เตอร์ครัว อ่างล้างจานของ Mex ส่วน Hob & Hood ของ Smeg ท็อปเคาน์เตอร์ครัวเป็นหินแกรนิต ได้ชั้นวางจานชาม รวมไปถึงช้อนซ่อม จาน ถ้วย ชาม ครบเซ็ท เครื่องใช้ไฟฟ้ามีไมโครเวฟ ตู้เย็น ทีวี เครื่องซักผ้า ของ Samsung ได้โต๊ะรับประทานอาหาร ตู้เก็บของ ตู้วางทีวี โซฟาพร้อมโต๊ะกลาง ในห้องนอนได้เตียงนอน 6 ฟุตพร้อมชุดเครื่องนอน มีตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะหัวเตียงและ ตู้วางทีวี สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Cotto มีเครื่องทำน้ำร้อนติดมาให้เลยของ Stiebel Eltron ก๊อกน้ำในห้องน้ำจะเป็นแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็นทั้งหมด ได้ฝักบัวพร้อม Rain Shower มีฉากกั้นส่วนเปียกให้สีชา แอร์ได้แบบติดผนังตรงห้องนั่งเล่นและทุกห้องนอน ห้อง 2 Bed ตรงห้องนั่งเล่นจะได้แอร์แบบฝังฝ้า โครงการแถมฝ้าม่านพร้อมซ่อนรางมาให้เรียบร้อยเลยครับ

สิ่งอำนวยความสะดวก – Facility หลักๆของโครงการอยู่ที่ชั้น 1 , 6 และดาดฟ้า ที่ชั้น 1 มี Lobby ที่จัดตกแต่งมาสวยดีครับ แต่ขนาดกระทัดรัดไปหน่อย ผนังเป็นกระจกสูงถึงฝ้ามองวิวสวนสนด้านข้าง Lobby ที่ชั้น 6 มีห้องฟิตเนส ห้องสมุด สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 25 x 6 ม. มีเตียงนอนริมสระ และที่นั่งพักผ่อน เสียดายวิวสระว่ายน้ำที่ความสูงของชั้น 6 ที่ยังไปพ้นความสูงอาคารที่ติดรั้วโครงการครับ ทำให้ต้องทำแนวพุ่มไม้มาบังสายตาไว้ วิวสระว่ายน้ำเลยมองได้แค่ฝั่งทิศตะวันตกอย่างเดียว ถ้ายกขึ้นไปชั้นดาดฟ้าจะดีกว่านี้ครับดูสมราคากว่าด้วย ส่วนที่ชั้นดาดฟ้ามีสวนหย่อมแบ่งเป็นสองฝั่งคือฝั่งที่โดนแดดช่วงเช้า และฝั่งที่โดนแดดช่วงบ่าย มีที่นั่งพักผ่อนมาให้พร้อมจัดตกแต่งสวนมาให้ด้วย ลิฟต์โดยสารมีให้ 3 ตัว ที่จอดรถจอดได้ 54% รวมซ้อนคัน มี EV Station เป็นจุดชาร์ตรถยนต์ไฟฟ้า ระบบรักษาความปลอดภัยมีรปภ. มี CCTV และผ่านเข้าออกด้วยระบบ Key Card Access


คะแนน

ทำเลที่ตั้งโครงการ 7.5 อยู่ในย่านชุมชน มีความอุดมสมบูรณ์ในตัว
การเดินทาง ใช้รถ 8.0 เชื่อมออกได้หลายเส้นทาง ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน
การเดินทาง ไม่ใช้รถ 7.5 ห่างจาก BTS พระโขนง ประมาณ 500 ม. รถเมล์ สองแถว วินมอเตอร์ไซค์ Taxi
ห้องและวัสดุ 8.0 ออกแบบมาดี วัสดุที่ใช้อยู่ในระดับมาตรฐาน ขายแบบ Fully Furnished ได้ครบทุกอย่างหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย
สิ่งอำนวยความสะดวก 7.5 Facility ทำมาสวยตามสไตล์แสนสิริ แต่ให้มาแบบนิดหน่อยมี Lobby , สวนลอยฟ้า , ฟิตเนส , สระว่ายน้ำ , ห้องสมุด
ความคุ้มค่ากับราคา 7.5 รูปแบบโครงการออกแบบมาดี แต่ก็มีตัวเลือกอีกหลายที่ในทำเลที่ใกล้เคียงกัน และราคาที่ไม่ต่างกัน
คะแนนรวมเฉลี่ย 7.66 ดี

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1685

Website : http://www.sansiri.com/

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ

แสนสิริ รุกคืบ PropTech ลุยนวัตกรรมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ที่อยู่อาศัย

$
0
0

แสนสิริ รุกคืบ  PropTech ลุยนวัตกรรมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ที่อยู่อาศัย ล่าสุดชูเทคโนโลยีสร้างประสบการณ์ซื้อที่อยู่อาศัยผ่าน “SAMSUNG pay” รายแรกของวงการอสังหาฯ !!

พร้อมเปิดจองผ่าน “SANSIRI ONLINE BOOKING” ใช้ในโครงการ “THE BASE เพชรเกษม” คอนโดภายใต้ความร่วมมือกับบีทีเอส เป็นโครงการแรก

00

ครั้งแรกของอสังหา! แสนสิริชูเทคโนโลยีสร้างประสบการณ์การซื้อที่อยู่อาศัยที่ง่ายขึ้นด้วย Paperless and formless payment  รับยุคดิจิตอล ด้วยการจ่ายเงินจองผ่านสมาร์ทโฟนรูปแบบใหม่ กับ “SAMSUNG pay” พร้อมเปิดให้จองคอนโดฯ ออนไลน์ใน “SANSIRI ONLINE  BOOKING” ลูกค้าแสนสิริเป็นเจ้าของยูนิตคัดพิเศษผ่านระบบออนไลน์ก่อนใคร นําร่องโครงการเดอะ เบส เพชรเกษม คอนโดมิเนียมโครงการล่าสุดที่เตรียมเปิดตัวในเดือนพ.ค.นี้ เป็นโครงการแรกและจะขยายสู่ทุกโครงการ ตอบรับการเป็น Property Technology อย่างเต็มรูปแบบเป็นรายแรกของไทย

1

นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม เปิดเผยว่า แสนสิริคือผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่บุกเบิกและเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีมานาน

โดยเริ่มนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการทำ Marketing ตั้งแต่ปี 2552 ด้วยการทำ Digital Sales Kit บนหน้าจอ Multitouch เป็นรายแรกของไทย ช่วยให้การขายโครงการสะดวกรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

รวมทั้งพัฒนา Home Service โมบายแอพพลิเคชั่นสำหรับให้บริการลูกบ้านแสนสิริ ตั้งแต่ปี 2555 ในปีนี้ แสนสิริได้ก้าวสู่อีกระดับด้วยการก่อตั้ง สิริ เวนเจอร์ เพื่อมุ่งพัฒนาและลงทุนใน Property Technology

ซึ่งเป็นนวัตกรรมเพื่ออนาคตของการใช้ชีวิต ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น เร็วขึ้น และประหยัดยิ่งขึ้น เพื่อพัฒนาวงการอสังหาริมทรัพย์ให้เกิดความยั่งยืนในอนาคต

ทั้งเพื่อการดำเนินธุรกิจ การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ สำหรับลูกค้า หรือสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ จากนวัตกรรมบริการที่สามารถนำไปขายให้กับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่น

หรือแม้แต่กับธุรกิจอื่น ๆ เกิดเป็นช่องทางรายได้ใหม่ที่จะผลักดันวงจรการเติบโตแบบก้าวกระโดด

ซึ่งจะส่งผลประโยชน์สูงสุดคืนให้แก่ลูกค้าจากการที่ แสนสิริจะมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ ทั้งเพื่อการดำเนินธุรกิจ พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ สำหรับลูกค้าตลอดเวลา

01

ในวันนี้แสนสิริได้สร้างอีกหนึ่งประสบการณ์การซื้อที่อยู่อาศัยที่ง่ายขึ้นด้วย Paperless and formless payment  รับยุคดิจิตอล การจ่ายเงินจองผ่านสมาร์ทโฟนรูปแบบใหม่ กับ “SAMSUNG pay” พร้อมเปิดให้จองคอนโดฯ ออนไลน์ใน “SANSIRI ONLINE  BOOKING”

ลูกค้าแสนสิริเป็นเจ้าของยูนิตคัดพิเศษผ่านระบบออนไลน์ก่อนใครนําร่องโครงการเดอะ เบส เพชรเกษม คอนโดมิเนียมโครงการล่าสุดที่เตรียมเปิดตัวในเดือนพฤษภาคมนี้

เป็นโครงการแรกและจะขยายสู่ทุกโครงการ รับการเป็น Property Technology อย่างเต็มรูปแบบเป็นรายแรกของไทย

02

“แสนสิรินับเป็นผู้นำรายแรกในวงการอสังหาริมทรัพย์ สำหรับการให้บริการ “SAMSUNG pay” ชำระเงินจองผ่านสมาร์ทโฟนรูปแบบใหม่ ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถชำระเงินจอง หรือค่าบริการต่างๆ ได้อย่างสะดวก และง่ายดายโดยการเพิ่มบัตรเครดิตที่มีอยู่ลงไปในสมาร์ทโฟน

โดยบัตรเครดิตธนาคารที่สามารถใช้ SAMSUNG pay ในขณะนี้ได้แล้วใน 6 ธนาคาร ได้แก่ KTC, SCB, KBANK, Krungsri, Bangkok Bank และ citi และแบงก์อื่นๆ เพิ่มขึ้นในอนาคต

เพื่อตอบรับการใช้ชีวิตในยุคดิจิตัลให้การซื้ออยู่อาศัยเป็นเรื่องง่าย สร้างความสะดวกสบายตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านแสนสิริอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ แสนสิริยังได้เปิดจองที่อยู่อาศัยผ่านทาง “SANSIRI ONLINE BOOKING” โดยจะเปิดให้ลูกค้าเป็นเจ้าของยูนิตคัดพิเศษผ่านระบบออนไลน์ในโครงการ เดอะ เบส เพชรเกษม ในวันที่ 13-19 พฤษภาคมนี้เท่านั้น

พร้อมรับข้อเสนอพิเศษที่มากกว่าการจองแบบปกติด้วยส่วนลดสูงสุดและสิทธิพิเศษเพิ่มสูงสุดกว่า 100,000 บาท*” นายอุทัยกล่าว

03

ด้วยแนวคิด Digital Transformation ของแสนสิริ ที่ต้องการจะตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคที่โลกออนไลน์มีบทบาทอย่างมากในชีวิตประจำวัน ทุกธุรกรรมต่างเกิดขึ้นบนหน้าจอสี่เหลี่ยม

ทั้ง smart device หรือ desktop ไม่เว้นแม้กระทั่งธุรกรรมด้านอสังหาริมทรัพย์ จึงเป็นที่มาของ SANSIRI ONLINE BOOKING ที่มุ่งพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าให้สะดวกสบายแบบครบวงจร

โดยจะเปิดให้ลูกค้าใช้บริการเป็นครั้งแรกที่โครงการ เดอะ เบส เพชรเกษม คอนโดมิเนียมโครงการล่าสุดที่เตรียมเปิดตัวในเดือนพฤษภาคมนี้ ทั้งนี้สำหรับทำเล “เพชรเกษม” นับเป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีศักยภาพ

แม้จะไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองแต่จากจุดเด่นเรื่องความสะดวกและความเชื่อมต่อการคมนาคมที่หลากหลาย และราคาของคอนโดมิเนียมมีระดับราคาที่ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับราคาคอนโดมิเนียมที่ติดรถไฟฟ้าบริเวณในเมือง ทำให้นับเป็นอีกหนึ่งทำเลที่น่าสนใจ

โดยก่อนหน้านี้แสนสิริได้มีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมในทำเลสาทร ตากสิน เพชรเกษม นับตั้งแต่เริ่มมีการขยายตัวของเส้นทางรถไฟฟ้าจากเขตเมืองชั้นในสู่ชั้นนอกโดยเฉพาะทำเลย่านธนบุรี ได้แก่

คอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ Hive (ไฮว์)  โครงการแรก ชื่อว่า Hive Sathorn จำนวน 363 ยูนิต มูลค่ากว่า 1,600 ล้านบาท ปิดการขายภายใน 2 สัปดาห์ที่เปิดตัว

นอกจากนี้โครงการที่เปิดตัวต่อเนื่องคือ Hive Taksin จำนวน 365 ยูนิต มูลค่าโครงการขาย 1,510 ล้านบาท ก็ได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน

รวมถึงโครงการ TEAL Sathorn-Taksin (ทีล สาทร-ตากสิน) ทำเลถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ใกล้ BTS วงเวียนใหญ่เพียง 150 เมตร จำนวนทั้งสิ้น 409 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ปิดการขายในปี 2556

และ Nye by Sansiri (นายน์ บาย แสนสิริ) ซึ่งปิดการขายไปเมื่อปีที่ผ่านมา โดยในด้านการซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อลงทุน ตลาดเช่าในทำเลเพชรเกษมยังมีโอกาสที่น่าสนใจ โดยเฉพาะที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยหรือรถไฟฟ้า ที่มีอัตราค่าเช่า 10,000-12,000 บาทต่อเดือน

สำหรับโครงการเดอะ เบส เพชรเกษม ที่เตรียมเปิดพรีเซลล์ในเดือนพฤษภาคมนี้ จะมีรายละเอียดที่น่าสนใจต่อไปต้องรอติดตาม เร็วๆ นี้

EP.801 รีวิว คอนโด THE BASE Phetkasem เดอะ เบส เพชรเกษม

$
0
0

EP.801 รีวิว คอนโด เดอะ เบส เพชรเกษม THE BASE Phetkasem

THE BASE เพชรเกษม 29

สวัสดีผู้อ่าน Homenayoo ทุกคนครับ วันนี้ผมจะพามาชมโครงการ เดอะ เบส เพชรเกษม ที่เป็นการร่วมทุนกันระหว่าง Sansiri และ BTS เป็นคอนโดมิเนียมย่านเพชรเกษม ติดถนนเพชรเกษม แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม.ใกล้ถนนราชพฤกษ์ แยกท่าพระและวงเวียนใหญ่ อยู่ในย่านชุมชน รายล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร, ตลาดสด และห้างสรรพสินค้า ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย สถานีเพชรเกษม 48 ในระยะ 120 ม. และเพียง 1 สถานีถึงจุดเชื่อมต่อ BTS บางหว้า ใกล้ท่าเรือเพชรเกษม 31 ในระยะประมาณ 300 ม.

เดอะ เบส เพชรเกษม คอนโด High Rise สูง 30 ชั้น 1 อาคาร ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ มีทั้งหมด 640 ยูนิต ออกแบบภายใต้แนวคิด “ทุกโหมดของชีวิต” โดยจะมีห้องพักแบบ 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้นที่ 23.00 – 52.25 ตร.ม คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณต้นปี 2563

สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการมีให้ครบครัน ทั้งที่จอดรถ, EV Station,โถงต้อนรับ, สนามเด็กเล่น, Co-working space, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ห้องออกกำลังกาย 2 ชั้น, สวนพักผ่อน, กล้องวงจรปิดภายในโครงการ ที่จอดรถ 37% ไม่รวมซ้อนคัน และ รปภ.ตลอด 24 ชั่วโมง ในราคาเร่ิมต้น 1.99 ล้านบาท

ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไรอ่านต่อด้านล่างได้เลยครับ

ชื่อโครงการ เดอะ เบส เพชรเกษม THE BASE Phetkasem
เจ้าของโครงการ บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง โฟร์ทีน จำกัด
เนื้อที่ทั้งหมด ประมาณ 3 ไร่
จำนวนตึก 1 อาคาร
จำนวนชั้น 30 ชั้น
จำนวนห้อง 640 ยูนิต
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
  • 1 Bedroom (S) : 23.00-24.50 ตร.ม.
  • 1 Bedroom (M) : 31.00-32.50 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms : 44.00-52.75 ตร.ม.
ที่จอดรถทั้งหมด ประมาณ 37% ไม่รวมซ้อนคัน
โซน เพชรเกษม-บางแค
ขนส่งสาธารณะ – รถไฟฟ้า BTS บางหว้า
– รถไฟฟ้า MRT เพชรเกษม 48 (ส่วนต่อขยาย)
รถโดยสารที่ผ่าน n/a
ที่ตั้ง ถนนเพชรเกษม แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม.
กำหนดการ – เริ่มก่อสร้าง มิ.ย. 2560
ปีที่สร้างเสร็จ – คาดว่าแล้วเสร็จ ต้นปี 2563
ราคา เริ่ม 1.99 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม 90,000-120,000 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลางและกองทุน – ค่าส่วนกลาง 57 บาท/ตร.ม.
– ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
  • ร้าน 7-11 : 170 ม.
  • U Center : 800 ม.
  • Lotus Express : 1.1 กม.
  • ซีคอน บางแค : 1.5 กม.
  • ตลาดสดบางแค : 2.6 กม.
  • Lotus บางแค : 3.1 กม.
  • ตลาดพลู : 3.7 กม.
  • The Mall บางแค : 4.2 กม.
  • ขุนด่านเจ้าพ่อเสือ : 210 ม.
  • วัดอ่างแก้ว : 900 ม.
  • วัดพิกุล : 4.5 กม.
  • วัดกระโจมทอง : 5.4 กม.
  • วัดสะพาน : 5.9 กม.
  • ม.สยาม : 700 ม.
  • รร.ตรีมิตรวิทยา : 4.8 กม.
  • รร.บางแค : 5.4 กม.
  • สถานีตำรวจ ภาษีเจริญ : 2.9 กม.
  • สนง.เขตภาษีเจริญ : 2.1 กม.
  • รพ.เพชรเกษม 2 : 1.7 กม.
  • รพ.อินเตอร์เมด : 4.0 กม.
  • รพ.เกษมราษฎร์ บางแค : 5.3 กม.
  • MRT สถานีเพชรเกษม 48 (สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย) : 120 ม.
  • BTS สถานีบางหว้า : 1.2 ม.
  • ท่าเรือเพชรเกษม 31 : 300 ม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
  • Lobby
  • Mailbox
  • Welcome Pavilion
  • Kids Play Ground
  • Co-working space
  • สระว่ายน้ำระบบเกลือ
  • ห้องออกกำลังกาย
  • สวนพักผ่อน
  • ห้องซักผ้า
  • Wi-Fi Internet
  • จุดบริการชาร์ตแบตเตอรี่ สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
  • Access Card Control
  • กล้องวงจรปิด
  • รปภ. 24 ชม.
จุดเด่นของโครงการ The Base คอนโดใหม่จาก แสนสิริ “ทุกโหมดของชีวิต” 120 เมตรจาก MRT เพชรเกษม 48

 


ที่ตั้งโครงการ
ถนนเพชรเกษม แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม.

MAP-THE-BASE-Full
พิกัด google map: 13°42’57.1″N 100°26’50.5″E

Base-01

THE BASE เป็นแบรนด์คอนโดมิเนียม High Rise ของแสนสิริโดยเน้นจับตลาดกลาง ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 70,000 – 100,000 บาท/ตารางเมตร ภาพด้านบนผมได้รวมโครงการ THE BASE ในเขตกรุงเทพฯมาให้ชมครับ โดยตัวแรกสุดคือ THE BASE สุขุมวิท 77 ตามมาด้วย THE BASE แจ้งวัฒนะ , THE BASE พระราม 9-รามคำแหง , THE BASE Park West , THE BASE Park East 2 ตัวหลังนี้มีความเปลี่ยนแปลงขึ้นมาหน่อย ด้วยส่วนกลางที่ทำออกมาได้น่าใช้งานเรียกว่าดูหรูกว่าโครงการ BLOCS 77 ที่อยู่น่าปากซอยเสียอีกครับ จากนั้นก็เว้นว่างกับแบรนด์นี้ไปสักพักด้วยข่าวจาก THE BASE ตัวแรก และกลับมาเปิดตัวอีกครั้งในปี 2559 กับ THE BASE Garden-Rama9 ที่เปลี่ยนความเป็น THE BASE เก่าทั้งหมดทิ้งไป ทั้งรูปแบบโครงการ ส่วนกลาง และสเปควัสดุที่ให้มาค่อนข้างดีครับ และก็มาถึงตัวปัจจุบันที่ผมจะพามาชมวันนี้กับ เดอะ เบส เพชรเกษม

Screen Shot 2017-05-08 at 4.39.24 PM

ที่ตั้งโครงการ โครงการ เดอะ เบส เพชรเกษม ตั้งอยู่ติดบนถนนเพชรเกษมฝั่งขาออก อยู่ระหว่างซอยเพชรเกษม 29 กับซอยเพชรเกษม 29/1 ถนนเพชรเกษมเป็นเส้นที่ตัดมาจากวงเวียนใหญ่ สามารถวิ่งเข้าและออกเมืองยาวไปจนถึงต่างจังหวัดได้เลย และยังมีถนนสายสำคัญต่างๆที่ตัดผ่านเช่น ถนนรัชดาภิเษก ถนนจรัญสนิทวงศ์ ราชพฤกษ์ ถนนกาญจนาภิเษก ถนนพุทธมณฑลสาย 1 , 2 , 3 , 4 , 5 นอกจากนี้ยังมีซอยย่อมเพชรเกษมที่เชื่อมไปออกเส้นอื่นๆได้อีก

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ถือว่าสะดวกพอสมควร เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนเพชรเกษมเลย ถ้าจะเข้าเมืองเส้นเพชรเกษมวิ่งไปเข้าวงเวียนใหญ่ หรือวงเวียนอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสิน ไปตัดเข้าได้ทั้งเส้นประชาธิปกข้ามสะพานพระปกเกล้าไปก็เข้าเขตพระนครแล้วครับ เข้าเยาวราชได้เลย จากวงเวียนมาเข้าถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินตัดเข้าถนนกรุงธนบุรี ข้ามสะพานตากสิน ก่อนถึงแยกสาทรมีทางด่วนศรีรัชให้ขึ้น หรือตรงไปก็เข้าสาทรแล้วครับจากนั้นก็ไปแยกเข้าสีลมได้ ไปราชดำริ สามย่าน สยามได้สบายๆ หรือตรงตามถนนสาทรไปออกสวนลุมพินีเข้าพระรามสี่ได้ ไปเชื่อมออกสุขุมวิทได้ มีทางด่วนให้ขึ้นแถวนี้ หรือจากเส้นเพชรเกษมตัดเข้าถนนราชพฤกษ์วิ่งตามแนว BTS เข้าเมืองได้เช่นกัน

ถ้าจะออกนอกเมืองเส้นเพชรเกษมวิ่งออกไปได้ทั้งหนองแขม อ้อมน้อยออกต่างจังหวัดไปนครปฐม เพชรบุรี หรือยาวลงภาคใต้ไปได้เลยครับ หรือเชื่อมออกไปถนนบรมราชชนนีโดยใช้เส้นพุทธมณฑลสาย 1-5 ได้เลย เส้นราชพฤกษ์วิ่งไป เชื่อมบรมราชชนนี นครอินทร์ รัตนาธิเบศร์ ชัยพฤกษ์ และสิ้นสุดที่ถนนสะพานนนทบุรี-บางบัวทอง ถนนกาญจนาภิเษกไปได้ทั้งฝั่งโซนบางใหญ่ บางบัวทอง นนทบุรี ปทุมธานี พระราม 2 บางขุนเทียน ข้ามฝั่งมาสมุทรปราการได้

Screen Shot 2017-05-08 at 4.37.23 PM

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ มีหลากหลายให้เลือกครับ หน้าโครงการไม่ไกลจากป้ายรถเมล์ สำหรับรถโดยสารประจำทาง เส้นเพชรเกษมเป็นเส้นที่มีรถโดยสารวิ่งผ่านหลายสาย โดยจะมีสาย 7, 7ก, 80, 80ก, 84, 84ก, 91, 157, 163, 165, 547 อีกทั้งยังเลือกเดินทางด้วยรถสองแถวได้ เป็นรถสองแถวที่วิ่งจาก BTS บางหว้า ไปสุดสายที่พุทธมณฑลสาย 4 หรือเรียก Taxi วินมอเตอร์ไซค์ได้ไม่ยาก เรียกหน้าโครงการได้เลย

และถนนเพชรเกษมจะเป็นเส้นทางที่มีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายวิ่งผ่าน ซึ่งอยู่ในช่วงก่อสร้างคาดว่าจะเปิดใช้ในปี 2562 โดยสถานีที่ใกล้โครงการมากที่สุดนั่นคือสถานีเพชรเกษม 48 ห่างจากโครงการเพียง 120 ม.เท่านั้น และห่างจาก MRT สถานีบางหว้าประมาณ 1.2 กม. ซึ่งเป็นจุด Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเขียว BTS บางหว้าที่ตรงไปยัง สยาม และสนามกีฬาแห่งชาติ และเชื่อมไปยังเส้นหมอชิต-แบริ่งได้ และมีจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สีลม โดยลง BTS ที่สถานีศาลาแดงครับ

สายสีน้ำเงิน

  • สายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ) จะไปเชื่อมกับ MRT สถานีบางซื่อ
  • สีน้ำเงินส่วนต่อขยายที่ผ่านหน้าโครงการ (หัวลำโพง-หลักสอง) จะเชื่อมกับ MRT ใต้ดินที่สถานีหัวลำโพง มีจุด Interchange กับสายสีเขียวที่สถานีบางหว้า

คาดว่าแล้วเสร็จประมาณปี 2562 ถ้าสร้างเสร็จจะเดินทางได้สะดวก และหลากหลายเส้นทาง เชื่อมต่อเข้าทั้งในตัวเมืองกรุงเทพและเขตปริมณฑล

map6

นอกจากนี้ BTS สายสีเขียวยังมีส่วนต่อขยายจากสถานีบางหว้า จะมุ่งตรงไปยังตลิ่งชันเชื่อมกับสายสีแดงและสายสีส้มในอนาคตครับ

ship3-2

นอกจากนี้ตรงสถานี BTS บางหว้ายังมีจุดเชื่อมต่อเรือโดยสารคลองภาษีเจริญ โดยมีทางเดินเชื่อมมาที่ท่าเรือสะพานตากสิน-เพชรเกษม โดยโครงการเดินเรือในคลองภาษีเจริญของกรุงเทพมหานคร มีจุดเริ่มต้นเส้นทางจากท่าเทียบเรือประตูน้ำภาษีเจริญถึงท่าเทียบเรือเพชรเกษม 69 รวมระยะทาง 11.5 กม. พร้อมด้วยท่าเทียบเรือจำนวน 15 ท่า ซึ่งประชาชนสามารถเชื่อมต่อการเดินทางจากรถไฟฟ้าบีทีเอสได้ที่สถานีบางหว้า โดยเปิดให้บริการ 2 ช่วงเวลา คือ ระหว่างเวลา 06.00-09.00 น. และระหว่างเวลา 16.00-19.30 น. ของทุกวัน ถ้าจะนั่งมาโครงการก็ก็มาลงที่ท่าเรือเพชรเกษม 31 ครับ ห่างจากโครงการประมาณ 300 ม.

3-01

พื้นที่โดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นที่พักอาศัย โดยตามสองฝั่งทางถนนเพชรเกษมจะเป็นตึกแถวอาคารพาณิชย์ ชั้นล่างส่วนใหญ่เปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านโชห่วย อู่ซ่อมรถ และมีอาคารสำนักงาน โกดังเก็บของ ส่วนในซอยย่อยจะเป็นชุมชนบ้านพัหอาศัยครับ ตัวที่ดินโครงการแต่เดิมเป็นสวน ที่ดินมองจากภาพจะเห็นว่าแบ่งเป็น 2 ส่วน เนื่องจากมีแนวรถไฟฟ้าตัดผ่านที่ดินพอดี ส่วนที่เป็นสามเหลี่ยมพื้นที่เล็กตอนนี้เป็นสำนักงานขายอยู่อนาคตจะเป็นร้านค้าครับ ส่วนที่ดินแปลงใหญ่จะเป็นที่ตั้งของอาคาร ทางเข้าออกโครงการจะลอดใต้รางรถไฟ้ฟ้าพอดี โดยได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์จาก รฟม. ความกว้างประมาณ 13 ม.

การเดินทาง

Screen Shot 2017-05-08 at 4.52.09 PM

การเดินทางวันนี้เริ่มจากถนนราชพฤกษ์ตรง BTS วุฒากาศ ขับตรงตามป้ายถนนเพชรเกษม และมาเลี้ยวเข้าถนนเพชรเกษมตรง BTS บางหว้า จากนั้นขับตรงไปอีกประมาณ 1.2 กม. พื้นที่โครงการและสำนักงานขายจะอยู่ทางซ้ายมือครับ

สรุปการเดินทาง ถนนราชพฤกษ์ > ถนนเพชรเกษม > THE BASE เพชรเกษม

2-01

วันนี้ผมเริ่มจากบนถนนราชพฤกษ์ ซ้ายมือเป็น BTS วุฒากาศ ขับตรงมุ่งหน้าไปทางถนนเพชรเกษมครับ

3-01

ตามป้ายถนนเพชรเกษมไปครับ

4-01

จากนั้นจะเจอป้ายพุทธมณฑลสาย 1 เตรียมเบี่ยงซ้ายออกครับ

5-01

เบี่ยงซ้ายออกลงไปตามทาง

6-01

ลงมาจะเจอ BTS บางหว้าตรงหน้า

7-01

จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปตามทางครับ จาก BTS บางหว้าห่างจากโครงการประมาณ 1.2 กม.

8-01

เลี้ยวซ้ายมาจะเป็นถนนเพชรเกษม ข้างบนเป็นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-บางแค ตรงนี้คือ MRT บางหว้าซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับ BTS บางหว้า ซ้ายมือมีจุดจอดรถรับ-ส่งไปซีคอนบางแคฟรีครับ

9-01

จากนั้นก็ขับตรงตามแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินไปครับ ริมสองฝั่งทางก็จะมีร้านค้า ร้านอาหารเป็นระยะๆ

10-01

จากนั้นซ้ายมือจะเจอธนาคารกรุงไทย ขวามือเป็นศาลขุนด่านเจ้าพ่อเสือ

11-01

จากนั้นด้านบนจะเห็นรางรถไฟฟ้าแยกออกจากกัน ซ้ายมือเป็นรางที่ไปสถานีซ่อมบำรุง ขวามือเป็นรางเดินรถปกติครับ และจะถึงพื้นที่โครงการข้างหน้าครับ

12-01

พื้นที่โครงการอยู่ติดถนนเพชรเกษมเลย พื้นที่ด้านหน้าโครงการจะมีส่วนที่เป็นพื้นที่ของใต้รางรถไฟฟ้า MRT ด้วยครับ

3-01

พื้นที่โดยรอบโครงการฝั่งทิศเหนือด้านหน้าโครงการติดกับ ถนนเพชรเกษมและแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์ และบ้านพักอาศัย มีศาลขุนด่านเจ้าพ่อเสือ ฝั่งทิศใต้ด้านหลังโครงการติดกับคลองภาษีเจริญไม่มีอาคารสูง ฝั่งทิศตะวันออกด้านหน้าติดกับอาคารพาณิชย์ 4-5 ชั้น ด้านในติดกับบ้านพักอาศัย และทิศตะวันตกติดกับแนวรางรถไฟฟ้าที่ไปสถานีซ่อมบำรุง

13-01

มองเข้าไปด้านในพื้นที่โครงการ

14-01

มองไปฝั่งซ้ายพื้นที่โครงการติดกับอาคารพาณิชย์ 4-5 ชั้น

15-01

มองไปฝั่งขวาพื้นที่โครงการด้านหน้าที่โดนแบ่งด้วยแนวรถไฟ้ฟา ตอนนี้เป็นสำนักงานขายอยู่ อนาคตพื้นที่ส่วนนี้จะทำเป็นร้านค้าครับ พื้นที่ติดกับซอยเพชรเกษม 29/1 ถัดไปเป็นอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น

16-01

ฝั่งตรงข้ามด้านหน้าโครงการจะเป็นแนวอาคารพาณิชย์

17-01

มองไปทางซ้ายเป็นสถานี MRT เพชรเกษม 48 ในระยะ 120 ม. ด้านหน้าโครงการจะเห็นว่างเยื้องๆกับจุดกลับรถ

18-01

มองไปฝั่งขวาจะเห็นศาลขุนด่านเจ้าพ่อเสือ

IMG_8837_resize

ถัดจากศาลขุนด่านเจ้าพ่อเสือ มีสะพานลอยเดินข้ามไป มีร้านค้าและร้านอาหารเยอะกว่าฝั่งเดียวกับโครงการ ข้ามไปได้ง่ายด้วยสะพานลอยที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการมากนัก

IMG_8838_resize

ในซอยตรงข้ามคือเพชรเกษม 46 อยู่ใกล้ศาลขุนด่านเจ้าพ่อเสือ มีร้านค้าและร้านอาหารในซอยให้เลือกฝากท้องกันได้ และบริเวณซอยข้างๆ คือ ซอยเพชรเกษม 48 เป็นซอยที่สามารถทะลุลัดไป จากถนนบางแวก เพื่อออกถนนราชพฤกษ์ หรือ พุทธมณฑลสาย 1

IMG_8839_resize

ตรงมาจะเป็นอาคารพาณิชย์ ในระยะใกล้โครงการด้านนี้จะไม่ค่อยมีร้านค้าหรือร้านอาหารเท่าไหร่ แต่ถ้าเดินไปประมาณ 700 ม. ใกล้ๆกับ ม.สยาม จะมีร้านค้าร้านอาหารมากกว่าครับ

19-01

ผมพาเดินไป MRT เพชรเกษม 48 ในระยะเดินประมาณ 120 ม.

20-01

ถัดมาจะเจอซอยเพชรเกษม 29/1

21-01

ซอยเพชรเกษม 29/1 เป็นซอยตันครับ

22-01

หันกลับมาทางเดิมต่อครับ จากโครงการมีทางเท้าเดินสะดวกถึงบันไดขึ้นสถานีเลย ซ้ายมือเป็นร้านซ่อมรถ

3

ถัดมามีร้านอาหารเป็นร้านเพิงเล็กๆมีที่นั่ง เป็นพวกอาหารตามสั่งและข้าวแกงราด มีต้นไม้ให้หลบร้อนสามารถมานั่งทานที่ร้านได้

24-01

เลยมาจะเจอ MRT เพชรเกษม 48 จากโครงการมา 120 ม. ก็จะถึงทางขึ้นสถานีพอดีครับ

5

เลยไปอีกหน่อยเป็นเพชรเกษมซอย 31 ในซอยนี้เดินเข้าไปจะเจอท่าเรือเพชรเกษม 31 ส่วนร้านข้างทางก็จะมีร้านโชห่วย และคลินิกหมอฟันข้างหน้า

25-01

พื้นที่โครงการตอนนี้อยู่ในช่วงปรับหน้าดิน

26-01

ที่ดินฝั่งด้านข้างทิศตะวันตก ขอบที่ดินจะสุดที่แนวรถไฟฟ้าพอดีครับ เฉพาะพื้นที่ด้านหน้าที่ถูกแบ่งเป็นสองส่วน

27

ด้านข้างอีกฝั่งจะติดบ้านพักอาศัย

1

วิวทิศเหนือชั้น 30 มองไปฝั่งตรงข้ามหน้าโครงการ ส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์ ตึกแถว อาคารสูงยังไม่ค่อยมีครับ

2

วิวทิศเหนือชั้น 30 เวลากลางคืน

3

วิวทิศใต้ชั้น 30 ด้านหลังโครงการพื้นที่ติดกับคลองภาษีเจริญ ฝั่งนี้ยังมีพื้นที่ว่างเปล่าอีกพอสมควร มองตามรางรถไฟฟ้าไปจะเห็นสถานีซ่อมบำรุง

4

วิวทิศใต้ชั้น 30 เวลากลางคืน

5

วิวทิศตะวันออกชั้น 30 มองไปฝั่งสถานีบางหว้าเข้าไปในเมือง ฝั่งนี้ก็ยังโล่งอยู่ จะเห็นแนวอาคารสูงในเมืองเป็นแนวขอบฟ้าสวยไปอีกแบบ

6

วิวทิศตะวันออกชั้น 30 เวลากลางคืน

7

วิวทิศตะวันตกชั้น 30 ฝั่งนี้จะออกนอกเมืองตามเส้นเพชรเกษม จะเห็นอาคารสูงบ้างตามริมถนนเพชรเกษม มองเห็นสถานี MRT เพชรเกษม 48

8

วิวทิศตะวันตกชั้น 30 เวลากลางคืน

29

เราออกมาดูสำนักงานขายด้านหน้ากันต่อครับ ตอนนี้สำนักงานขายเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค. 2560 ที่ผ่านมา ใครที่สนใจก็แวะเข้ามาชมกันได้ครับ และจะเปิด Pre-sale ในวันที่ 20-21 พ.ค. 2560

30

ด้านหน้าทางเข้าจัดเป็นสวนหย่อม ทั้งไม้พุ่มและไม้ใหญ่

31

อีกฝั่งเป็นป้ายชื่อโครงการทำไว้ชัดเจน

32

ทางเดินเข้าสำนักงานขายจำลองส่วนที่เป็น Green Tunnel ที่เป็นทางเดินจากประตูด้านหน้าเข้าไปโครงการ

33

Green Tunnel เป็นโครงเหล็ก และใช้ไม้เรื้อยไปตามโครงเหล็กเพิ่มบรรยากาศความร่มรื่น

34

ด้านบนก็เป็นโครงเหล็กที่ให้ไม้เลื้อยขึ้นไปได้ ถ้าต้นไม้เริ่มโตและเลื้อยมากกว่านี้จะปกคลุมเป็นหลังคาบังแดดได้เลย

35

ซูมตรงโครงเหล็กให้ดู

36

ตรงตามทางเข้าไปจะเจอทางเข้าสำนักงานขายพอดี

38

มองกลับไปจะเห็นแบบนี้ครับ ดูแล้วร่มรื่นดีครับ

37

ประตูทางเข้าสำนักงานขาย

39

ด้านในสำนักงานขายแบ่งมาเป็น 2 ชั้นครับ ชั้นล่างจะเป็นเคาน์เตอร์ต้อนรับ และโมเดล ชั้น 2 จะเป็นห้องตัวอย่าง

41

ด้านในจัดโซฟาไว้ 1 ชุด ผนังรอบๆเป็นกระจก

42

มองกลับเข้าไปด้านใน

43

มีทางเดินไปขึ้นบันได

44

มุมนี้จัดโต๊ะไว้ 1 ชุด

45

มองไปอีกฝั่งจะเห็นบันไดทางขึ้นชั้น 2

46

บันไดไม้ ราวจับบันไดเป็นกระจก

47

มองขึ้นไปที่ชั้น 2

48

ชั้น 2 จะแบ่งเป็นห้องตัวอย่าง 2 ห้องครับ

map4

ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ ที่ตั้งโครงการอยู่ในย่านพักอาศัย บนถนนเพชรเกษมหน้าโครงการและด้านข้างก็จะมีอาคารพาณิชย์ เป็นร้านค้า และสำนักงาน ร้านอาหารก็พอมีในระยะที่เดินไปได้ ถ้าข้ามสะพานลอยไปฝั่งศาลขุนด่านเจ้าพ่อเสือ จะมี 7-11, Lotus Express ร้านอาหารก็มี หรือถ้าเดินไปประมาณ 700 ม.จะเจอกับ ม.สยาม ซึ่งรอบๆนั้นมีร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกอีกเช่นกัน ตามสองฝั่งทางเส้นเพชรเกษมก็มีให้เลือกเป็นระยะๆครับ หรือไปซีคอนบางแค, Lotus บางแค , The Mall บางแค , Big C ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยในย่านนี้ วันหยุดหรือช่วงเย็นก็มาเดินเล่น และทานอาหารได้ หรือถ้าตลาดสดใหญ่ๆก็จะมีตลาดสดบางแค หรือเข้ามาโซนตลาดพลู วงเวียนใหญ่ แถวนี้ของกินอร่อยๆเพียบครับ ส่วนเส้นราชพฤกษ์จะเป็นเส้นที่มีร้านอาหารหลายร้านครับ มีทุกประเภทตั้งแต่อาหารไทย อาหารต่างชาติ มีให้เลือกหลายแบบ จะมานั่งชิวตอนเย็นหรือทานอาหารกลางวันก็ได้

สถานที่สำคัญ

  • ร้าน 7-11 : 170 ม.
  • U Center : 800 ม.
  • Lotus Express : 1.1 กม.
  • ซีคอน บางแค : 1.5 กม.
  • ตลาดสดบางแค : 2.6 กม.
  • Lotus บางแค : 3.1 กม.
  • ตลาดพลู : 3.7 กม.
  • The Mall บางแค : 4.2 กม.
  • ขุนด่านเจ้าพ่อเสือ : 210 ม.
  • วัดอ่างแก้ว : 900 ม.
  • วัดพิกุล : 4.5 กม.
  • วัดกระโจมทอง : 5.4 กม.
  • วัดสะพาน : 5.9 กม.
  • ม.สยาม : 700 ม.
  • รร.ตรีมิตรวิทยา : 4.8 กม.
  • รร.บางแค : 5.4 กม.
  • สถานีตำรวจ ภาษีเจริญ : 2.9 กม.
  • สนง.เขตภาษีเจริญ : 2.1 กม.
  • รพ.เพชรเกษม 2 : 1.7 กม.
  • รพ.อินเตอร์เมด : 4.0 กม.
  • รพ.เกษมราษฎร์ บางแค : 5.3 กม.
  • MRT สถานีเพชรเกษม 48 (สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย) : 120 ม.
  • BTS สถานีบางหว้า : 1.2 ม.
  • ท่าเรือเพชรเกษม 31 : 300 ม.

Screen Shot 2017-05-08 at 4.39.24 PM

แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง

  • แยกท่าพระ : 3.2 กม.
  • แยกต่างระดับเพชรเกษม : 5.8 กม.
  • แยกไฟฉาย : 7.3 กม.
  • ถนนราชพฤกษ์ : 1.2 กม.
  • ถนนกัลปพฤกษ์ : 1.9 กม.
  • ถนนพุทธมณฑลสาย 1 : 2.1 กม.
  • ถนนเทอดไท : 2.1 กม.
  • ถนนบางแค : 2.9 กม.
  • ถนนวุฒากาศ : 3.1 กม.
  • ถนนจรัญสนิทวงศ์ : 3.2 กม.
  • ถนนพานิชการธนบุรี : 3.5 กม.
  • ถนนบางแวก : 3.5 กม.
  • ถนนรัชดาภิเษก : 3.9 กม.
  • ถนนกาญจนาภิเษก : 4.4 กม.
  • ถนนกาญจนาภิเษกโรจน์ : 5.2 กม.
  • ถนนพุทธมณฑลสาย 2 : 5.7 กม.
  • ถนนพรานนก : 9.4 กม.

Model

1-01

ตัวโครงการออกแบบมาภายใต้แนวคิดโครงการ “Living with nature” ตัวอาคารออกแบบมา 1 อาคาร บนที่ดินขนาดประมาณ 3 ไร่ รูปทรงอาคารคล้ายตัว L แต่ตรงมุมตัว L องศาจะกว้างกว่า 90 องศา ส่วนนี้ช่วยให้เห็นวิวได้มากขึ้นครับแต่ก็ยังมองเห็นเพื่อนบ้านด้วยกันถ้าอยู่ฝั่งทิศตะวันตก สีของอาคารเลือกใช้สีเขียวเทอร์คอยซ์ เล่นสีเข้มจากชั้นล่างและสีจะอ่อนลงในชั้นสูง ออกแบบมาสวยดีครับ มีสีตัดด้วยสีน้ำตาลเข้ม น้ำตาลอ่อน ส่วนกลางหลักของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 1 , 5 , 28 – 30 ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 5 – 30 ถนนในโครงการวิ่งรอบได้ทั้งหมด

1

ภาพจำลองโครงการ เดอะ เบส เพชรเกษม จากภาพจะเห็นว่าอยู่ติดกับแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินทั้งรางรถปกติ และรางที่ไปสถานีซ่อมบำรุง ตัวสีอาคารค่อนข้างโดดเด่นเป็นสีเขียวเทอร์คอยซ์ ไล่ระดับเข้มไปอ่อน ตัดด้วยสีน้ำตาล

2-01

ฝั่งด้านหน้าโครงการเป็นทิศเหนือ ทางเข้าโครงการอยู่ติดกับถนนเพชรเกษม และติดแนวรางรถไฟฟ้าที่เข้าไปสถานีซ่อมบำรุง ซึ่งรางนี้รถไฟฟ้าจะไม่ได้วิ่งตลอดเหมือนรางปกตินะครับจะเดินเป็นเวลา เรื่องเสียงก็อาจจะมีบ้าง

3-01

ด้านหน้าโครงการอยู่ห่างจากทางขึ้น MRT เพชรเกษม 48 ประมาณ 120 ม. พื้นที่โครงการด้านหน้าแบ่งเป็น 2 ส่วนเนื่องจากโดนแนวรางรถไฟฟ้าตัดผ่าน ส่วนแรกคือส่วนที่เป็นอาคารพักอาศัย อีกส่วนที่ทำเป็นสำนักงานขายอยู่ตอนนี้อนาคตจะเป็นร้านค้าครับ แต่ยังไม่แน่ว่าจะเป็นร้านอะไร

4-01

ซูมทางเข้าใกล้ๆ มีทางเดิน Green Tunnel ยาวเชื่อมเข้าไปถึง Lobby ตัว Green Tunnel เป็นอุโมงค์ทางเดินออกแบบเป็นโครงหลังคา สลับกับลวดสลิงขึงให้มีไม้เลื้อย เพื่อปรับเปลี่ยนอารมณ์เมื่อเดินเข้าโครงการมา ขวามือที่เห็นเป็นกล่องขาว ตอนนี้เป็นสำนักงานขายอยู่ อนาคตจะเป็นร้านค้าครับ

5-01

มองจากด้านบนลงมาจะเห็นพื้นที่ด้านหน้าโครงการที่ถูกแบ่งจากแนวรางรถไฟฟ้าเป็น 2 ส่วน โดยตรงทางเข้าออกที่เป็นใต้รางโครงการได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์จาก รฟม. ความกว้างประมาณ 13 ม. จาก Green Tunnel เข้าไปจะมีพื้นที่สวนหย่อมไว้นั่งพักผ่อนได้อยู่ติดกับที่จอดรถกลางแจ้ง

4

ภาพจำลองส่วน Green Tunnel มีส่วนที่เป็นหลังคาทึบ และหลังคาลวดสลิงไม้เลื้อย ตรงนี้ออกแบบได้ดูน่าใช้งานดีนะครับ ช่วยปรับเปลี่ยนอารมณ์ตอนเดินเข้าออกโครงการได้เลย ขวามือมีทางเดินเชื่อมเข้าไปที่สวนพักผ่อน

6-01

ด้านข้างฝั่งทิศตะวันตกพื้นที่ติดกับแนวรางรถไฟฟ้า รั้วโครงการจะโค้งตามแนวรางเลย ถัดออกมาจะเป็นบ้านพักอาศัยวิวมองออกนอกเมือง

7-01

ที่ชั้นล่างจากทางเข้ามา จะเจอ Drop Off และ Lobby อีกฝั่งเป็นสนามเด็กเล่น แนวรั้วฝั่งนี้จะจัดต้นไม้มาให้เยอะหน่อย ช่วยกรองเสียงได้บ้างครับ

8

ซูมตรงส่วน Green Tunnel จากด้านหน้าโครงการเข้ามาตัวอาคาร มีทางเชื่อมเข้าสวนหย่อม

9

ตรงส่วนสนามเด็กเล่นอยู่ใกล้กับจุด Drop Off และ Lobby

6

ภาพจำลองสนามเด็กเล่น

7

ภาพจำลองส่วน Lobby ฝ้าสูงโปร่ง ผนังฝั่งขวาเป็นกระจกมองวิวสวนด้านนอกได้ จัดชุดโซฟาไว้ให้

11

สวนหย่อมส่วนกลางที่ชั้น 5 ลูกบ้านขึ้นมาชมวิวกันได้

12

ส่วนยอดของอาคารที่ชั้น 28 – 30 จะเป็นชั้น Facility หลักครับ ตรงยอดอาคารมีชื่อ THE BASE ติดไว้ชัดเจน

13

มองจากมุมด้านบนจะเห็นแบบนี้ครับ ชั้น 30 จะเป็นพื้นที่สีเขียวตามกฎหมาย

14

ส่วนชั้น 28 – 29 เป็นฟิตเนสและสระว่ายน้ำ

15-01

ด้านหลังโครงการฝั่งทิศใต้ติดกับคลองภาษีเจริญ โดยด้านหลังโครงการจัดเป็นพื้นที่พักผ่อนริมน้ำมาให้ด้วย และมีสวนที่ชั้น 5

2

ภาพจำลองด้านหลังโครงการติดกับคลองภาษีเจริญ แนวคลองจัดตกแต่งเป็นสวนหย่อมสวยงาม ต้องรอชมตอนสร้างเสร็จครับว่าจะทำได้สวยเหมือนในภาพรึเปล่า

16-01

พื้นที่พักผ่อนริมน้ำแบ่งเป็น 2 จุด ใต้อาคารเป็น Co-working Space

17

พื้นที่พักผ่อนริมน้ำจัดเตียงนอนและจัดสวนมาให้ รั้วจะเป็นระแนงชมวิวคลองได้ พื้นที่จะสูงกว่าคลองเพื่อการมองลงมาจะเห็นวิวได้ง่ายขึ้น

3

ภาพจำลองสวนพักผ่อนริมน้ำ ไว้นอนชมวิวคลอง

18

อีกจุดเป็นพื้นที่นั่งจัดเป็น Terrace

19

ซูมส่วนที่เป็น Co-working Space ทำเป็นผนังกระจกเปิดรับวิวด้านนอก มีทางเดินเชื่อมเข้าตัวอาคาร

8

ภาพจำลอง Co-Working Space มุมด้านหลังโครงการมองออกไปเห็นวิวคลองภาษีเจริญ ตรงฝ้าออกแบบไล่ระดับเหมือนขั้นบันได จัดโซฟารอบๆ ตรงกลางวางโต๊ะกลาง

Brain Stroming Night

Co-Working Space สามารถปรับเปลี่ยนเป็น Theater Room ได้มีจอโปรเจคเตอร์เลื่อนลงมาไว้ดูหนังได้ครับ

20

ที่ชั้น 5 ฝั่งนี้จัดเป็นสวนหย่อมไว้ให้เดินชมวิวได้ ระดับจะต่ำกว่าพื้นชั้น 5 ประมาณ 1.6 ม. ยูนิตที่ชั้นนี้จะได้วิวมุมที่มองลงมาจากห้องตัวเองและเห็นสวนครับ ได้ความร่มรื่นไปในตัว

21-01

ด้านข้างอีกฝั่งทิศตะวันออก ติดกับบ้านพักอาศัย และแนวอาคารพาณิชย์ ตัวโครงการรอบด้านตอนนี้ในระยะประชิดไม่มีอาคารสูงเลย ดังนั้นทุกห้องวิวก็จะโล่งพอสมควรครับ

22-01

ฝั่งนี้ชั้น 5 มีสวนหย่อมไว้ให้เดินเล่นได้ ระดับจะต่ำกว่าพื้นชั้น 5 ประมาณ 1.6 ม. ยูนิตที่ชั้นนี้จะได้วิวมุมที่มองลงมาจากห้องตัวเองและเห็นสวนครับ ได้ความร่มรื่นไปในตัว

24

ประตูทางเดินเข้าออกมาสวนจากชั้น 5 ครับ

5

ภาพจำลองสวนที่ชั้น 5 ฝั่งทิศตะวันออกและทิศใต้

25-01

ที่ชั้น 28 จะเป็นสระว่ายน้ำความยาว 40 ม. ระบบเกลือ ซึ่งมีไม่กี่โครงการของแสนสิรินะครับที่ยก Facility ไว้ชั้นบนสุดของอาคาร ชั้น 28 – 30 เป็นฟิตเนส

9

ภาพจำลองส่วนยอดของอาคารที่ชั้น 28-30 จะเป็น Facility

26

ริมสระว่ายน้ำทำเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อน ราวกันตกรอบด้านจะเป็นกระจกทั้งหมดไม่บดบังวิว

11

ภาพจำลองสระว่ายน้ำที่ชั้น 28 ความยาวกว่า 40 ม. แบ่งสระเด็ก วิวมองไปทางทิศตะวันออก

27

ห้องฟิตเนสแบ่งเป็น 2 ชั้น จะเป็นเครื่องออกกำลังกายแบบ Cardio ชั้นบนจะออกแนวแบบ Active เช่น โยคะ ชกมวย ทั้ง 2 ชั้นรับวิวได้รอบด้านผนังเป็นกระจก

10

ภาพจำลองสระว่ายน้ำและฟิตเนส ตัวฟิตเนสแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างจะเน้นแบบออกกำลังกายเบาๆใช้แสงไฟโทนอ่อนๆ ส่วนชั้นบนจะเน้นใช้กำลังหนักๆ ใช้แสงไฟแรงๆเพิ่มความสนุกในการออกกำลังกาย

28

ที่ชั้น 30 เป็นพื้นที่สีเขียวตามกฎหมาย

29

ที่ชั้น 30 อีกฝั่งก็เป็นพื้นที่สีเขียวตามกฎหมายครับ

Floor Plan

ms-01

Master Plan โครงการ ตัวพื้นที่โครงการคือขอบเขตเส้นสีแดงครับ จะเห็นเป็น 2 ส่วน เนื่องจากโดนแนวรางรถไฟฟ้าตัดผ่าน แบ่งเป็นส่วนที่เป็นอาคารพักอาศัย อีกส่วนจะเป็นร้านค้า โดยตรงทางเข้าออกที่เป็นใต้รางรถไฟ โครงการได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์จาก รฟม. ความกว้างประมาณ 13 ม. จากทางเข้ามี Green Tunnel ทางเดินเชื่อมเข้ามาในอาคาร ถนนรถวิ่งได้รอบอาคาร ผ่านเข้ามาจะเจอจุด Drop Off มีพื้นที่จอดรถกลางแจ้ง และจอดใต้อาคารได้ หรือวนไปที่จอดรถในอาคารที่ชั้น 2-4 พื้นที่ด้านหลังโครงการติดคลองภาษีเจริญ มีพื้นที่นั่งพักผ่อนริมน้ำ ที่ชั้น 1 ในอาคารจะมี Lobby และ Co-working Space ลิฟท์โดยสารมี 3 ตัว ลิฟท์ขนของ 1 ตัว

111

แปลนชั้น 5 จะเริ่มเป็นส่วนพักอาศัยครับ และมีสวนส่วนกลางที่ลูกบ้านเข้ามาเดินเล่นกันได้ โดยระดับสวนจะต่ำกว่าพื้นชั้น 5 ประมาณ 1.6 ม. เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านและวิวที่มองจากห้องพักจะเห็นสวนได้แบบเต็มๆ ส่วนพักอาศัยจะมีประตูแยกไว้เข้าได้เฉพาะลูกบ้านที่พักชั้นนี้ ยูนิตพักอาศัยชั้นนี้มีทั้งหมด 26 ยูนิต แบ่งเป็นห้อง 2 ห้องนอน 3 ยูนิต ที่เหลือเป็นขนาด 1 ห้องนอน บันไดหนีไฟมี 2 ฝั่ง

112

แปลนชั้น 6 เป็นยูนิตพักอาศัยทั้งหมดมี 27 ห้อง เป็นห้อง 2 ห้องนอน 2 ห้อง ที่เหลือเป็น 1 ห้องนอนทั้งหมดครับ

113

แปลนชั้น 7 เหมือนชั้น 6 จะต่างตรงฝั่งทิศตะวันตก ยูนิตห้อง 1 ห้องนอน จะเป็นขนาด 23.00 – 24.00 ที่ชั้น 5-6 จะเป็นห้องขนาด 31.25 – 32.25

114

แปลนชั้น 8-26 จะเหมือนกันครับ ยูนิตพักอาศัยมีทั้งหมด 27 ยูนิต แบ่งเป็นแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้อง ที่เหลือเป็น 1 ห้องนอนขนาดต่างๆ

115

แปลนชั้น 27 ยูนิตพักอาศัยจะเหลือเพียง 15 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัวหน่อย เนื่องจากอีกฝั่งเป็นส่วนของระบบสระว่ายน้ำครับ

116

แปลนชั้น 28 ส่วนพักอาศัยจะอยู่โซนด้านหลังครับมี 10 ยูนิต โซนด้านหน้าจะเป็น Facility มีสระว่ายน้ำยาว 40 ม. มีฟิตเนส 2 ชั้น และห้องน้ำแบ่งชายหญิง

117

แปลนชั้น 29 จะเป็นยูนิตพักอาศัย 11 ยูนิต

118

แปลนชั้น 30 มียูนิตพักอาศัย 11 ห้อง หลังคาของห้องฟิตเนสจะเป็นสวนหย่อม

Units Type

โครงการมีห้องให้เลือกดังนี้

  • 1 Bed 1 Bath ขนาด 23.00-24.50 ตร.ม.
  • 1 Bed 1 Bath ขนาด 31.00-32.50 ตร.ม.
  • 2 Bed 1 Bath ขนาด 44.00-52.25 ตร.ม.

Screen Shot 2017-05-08 at 1.21.42 PM

1 Bedroom ขนาด 23.00 ตร.ม.

Screen Shot 2017-05-08 at 1.22.05 PM

1 Bedroom ขนาด 24.25 ตร.ม.

Screen Shot 2017-05-08 at 1.22.22 PM

1 Bedroom ขนาด 24.50 ตร.ม.

Screen Shot 2017-05-08 at 1.22.49 PM

1 Bedroom ขนาด 24.50 ตร.ม.

Screen Shot 2017-05-08 at 1.23.16 PM

1 Bedroom ขนาด 31.25 ตร.ม.

Screen Shot 2017-05-08 at 1.23.28 PM

1 Bedroom ขนาด 31.50-31.75 ตร.ม.

Screen Shot 2017-05-08 at 1.23.48 PM

1 Bedroom ขนาด 31.75-32.00 ตร.ม.

Screen Shot 2017-05-08 at 1.24.23 PM

1 Bedroom ขนาด 32.00 ตร.ม.

Screen Shot 2017-05-08 at 1.24.41 PM

1 Bedroom ขนาด 31.50 – 31.75 ตร.ม.

Screen Shot 2017-05-08 at 1.25.09 PM

1 Bedroom ขนาด 31.75 ตร.ม.

Screen Shot 2017-05-08 at 1.25.35 PM

2 Bedroom ขนาด 44.00 ตร.ม.

Screen Shot 2017-05-08 at 1.25.44 PM

2 Bedroom ขนาด 49.75 ตร.ม.

Screen Shot 2017-05-08 at 1.26.04 PM

2 Bedroom ขนาด 51.00 ตร.ม.

Screen Shot 2017-05-08 at 1.26.30 PM

2 Bedroom ขนาด 52.25 ตร.ม.

Screen Shot 2017-05-08 at 1.27.00 PM

2 Bedroom ขนาด 52.25 ตร.ม.

ห้องตัวอย่าง

ห้องตัวอย่างที่จะพามาชมวันนี้มี 2 แบบ

  • 1 Bedroom ขนาด 24.50 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด 31.75 ตร.ม.

Screen Shot 2017-05-08 at 1.22.49 PM

แบบแรกที่จะพามาชมเป็น 1 Bedroom ขนาด 24.50 ตร.ม. เดินเข้าห้องมาเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ใช้งานร่วมกับพื้นที่รับประทานอาหาร ด้านในสุดเป็นห้องนอน โดยผนังได้เป็นฉากกั้นบานเลื่อน 3 ตอน เปิดปิดแยกส่วนจากห้องนั่งเล่นได้ ภายในห้องนอนมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะได้ ทางเข้าห้องครัวอยู่ถัดเข้ามาจากห้องนั่งเล่น ครัวได้เป็นครัวปิดมีประตูบานเลื่อนให้ 1 บาน ภายในห้องครัวได้ชุดเคาน์เตอร์ครัว ห้องน้ำเข้าจากส่วนครัว มีพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้ง อีกฝั่งเป็นระเบียงห้อง

1

เริ่มจากประตูทางเข้าห้องเป็นบานสีขาว ขนาดประมาณ 2.2 x 0.9 ม.

2

ประตูได้ Digital Door Lock พร้อมมือจับแบบคันโยกของ Yale ใช้งานได้ทั้ง Key Card ใส่รหัส และสแกนนิ้วมือและกุญแจ

3

เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ด้านในเป็นห้องนอนมีฉากกั้นบานเลื่อนกระจก 3 บาน ขวามือมีทางเดินเข้าห้องครัว ห้องน้ำ และระเบียง พื้นห้องเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ฝ้าสูง 2.55 ม. ผนังได้ฉากเรียบทาสีทั้งห้อง ไฟได้แบบดาวน์ไลท์

4

เดินเข้ามาแล้วมองกลับไปที่ประตูทางเข้าจะเห็นแบบนี้ครับ

5

ฝั่งนี้ไว้วางโซฟา

6

วางโซฟาตัวยาวให้ดู พร้อมวางโต๊ะ ใช้พื้นที่ส่วนนี้รับประทานอาหารไปในตัวได้เลย

7

ระยะดูทีวีประมาณ 2.45 ม. แขวนทีวีติดที่ผนังเพื่อประหยัดพื้นที่ได้ครับ ซ้ายมือมีทางเดินเข้าห้องครัว

8.1

ถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นห้องนอน ขวามือมีทางเดินไปห้องครัว

8

ส่วนห้องนอนได้เป็นฉากกั้นกระจกบานเลื่อน 3 ตอน สูงถึงฝ้า สามารถเลื่อนเปิดปิดแยกส่วนจากห้องนั่งเล่นได้

9

ภายในห้องนอนตกแต่งมาให้ดูแบบนี้ครับ

10

วางเตียง 5 ฟุตมาให้ดูครับ

11

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 33 ซม.

12

ปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 1.24 ม.

13

พื้นที่ข้างเตียงริมหน้าต่างเหลือประมาณ 53 ซม.

14

ปลายเตียงมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งได้ หรือใครจะติดทีวีที่ผนังปลายเตียงก็ได้ครับ ระยะดูทีวีประมาณ 3.2 ม. ในห้องนอนจะได้แอร์ติดผนังปลายเตียง 1 ตัว

15

หน้าต่างภายในห้องนอนเป็นบานกระทุ้ง 1 บาน ที่เหลือเป็นบาน Fixed มีส่วนที่เป็นกระจกเข้ามุมฝั่งซ้ายมือ

16

บานกระทุ้งเปิดออกได้ประมาณ 40 องศา

17

กระจกในห้องนอนจะได้แบบ Bay Windows

18

มองกลับเข้ามาด้านใน

19

ห้องครัวได้เป็นครัวปิด มีประตูบานเลื่อน 1 บาน

20

ภายในห้องครัวจะได้ชุดเคาน์เตอร์ครัว เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ได้ให้นะครับ พื้นครัวปูกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม.

21

ตู้ด้านบนเป็นบานเปิด 1 บาน

22

ตู้ด้านล่างได้แบบบานเปิด 1 บาน และลิ้นชัก 2 ชั้น

23

ท็อปเคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์สีขาว ผนังด้านในมีช่องวางของได้ และกรุกระเบื้องมาให้เรียบร้อย

24

อ่างล้างจานที่ได้แบบหลุมเดียวแบบไม่มีที่พักจานของ Hafele

25

ได้เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันของ Hafele

42

มองกลับเข้ามาด้านในเป็นห้องน้ำ

27

ภายในห้องน้ำ เข้ามาจะเจอส่วนแห้งก่อน

28

กระจกเงาได้บานเล็กไปหน่อย ขวามือมีช่องไว้วางของได้

29

อ่างล้างหน้าที่ได้ทรงสี่เหลี่ยมของ American Standard ผนังด้านในไว้วางของได้

30

ติดกับอ่างล้างหน้าเป็นโถสุขภัณฑ์ของ American Standard

31

อีกฝั่งเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ได้ฉากกั้นบานเลื่อน 3 ตอน เฟรมกระจกสีดำ

32

ด้านในติดฝักบัว ผนังสองฝั่งกรุกระเบื้องลายโมเสค

33

หน้าตาฝักบัวที่ได้ขนาดพอดีมือของ American Standard

34

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.43 x 0.79 ม.

35

ธรณีประตูทำมาสูงพอประมาณ

36

ออกจากห้องน้ำมา มองออกไปอีกฝั่งจะเป็นระเบียง มีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน

37

มือจับประตูบานเลื่อน

38

เปิดออกมาจะเจอระเบียงขนาด 1.55 x 1.08 ม.

39

มีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าได้

40

เดินระบบน้ำ และปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบมาเรียบร้อย

41

ด้านบนแขวนคอมเพลสเซอร์แอร์ 1 ตัว ติดกริลเป่าลมออกด้านนอก

Screen Shot 2017-05-08 at 1.23.28 PM

อีกแบบที่พามาชมเป็น 1 Bedroom ขนาด 31.75 ตร.ม. เดินเข้าห้องมาเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน เชื่อมกับพื้นที่ส่วนรับประทานอาหาร พื้นที่ส่วนนี้ขนาดค่อนข้างกว้างครับ ฝั่งซ้ายเป็นห้องครัวได้เป็นครัวปิด ห้องน้ำจะอยู่ถัดจากห้องครัว ด้านในสุดเป็นห้องนอนผนังห้องเป็นฉากกั้นบานเลื่อน 3 ตอน ฝั่งปลายเตียงมีห้อง Multipurpose Area จะทำเป็นห้องแต่งตัว ห้องทำงาน หรือห้องเก็บของก็ได้ครับ ติดกันจะเป็นระเบียง

1

เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ใช้งานร่วมกับส่วนรับประทานอาหาร ซ้ายมือเป็นห้องครัว และห้องน้ำ ด้านในเป็นห้องนอน และมีห้องอเนกประสงค์อีกห้อง พื้นห้องได้เป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ผนังได้แบบฉาบเรียบทาสี ฝ้าสูง 2.55 ม.

2

เดินเข้าห้องมาแล้วมองกลับไปที่ประตูทางเข้า แอร์ห้องนี้จะได้ 2 ตัวครับ ตรงส่วนห้องนั่งเล่นแอร์ติดผนังฝั่งเดียวกับประตูห้อง

3

ห้องตัวอย่างตกแต่งมาให้ดูแบบนี้ครับ ใครชอบก็ทำตามกันได้

4

วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งให้ดูพร้อมโต๊ะกลาง

5

ติดกับโซฟาวางโต๊ะทำงานให้ดู หรือใครจะวางโต๊ะรับประทานอาคารก็ได้ครับ

6

ระยะดูทีวีประมาณ 2.55 ม. ขวามือเป็นห้องครัว

7

ส่วนครัวได้เป็นครัวปิดมีประตูบานเลื่อน 3 ตอน

8

ภายในห้องครัวมีพื้นที่เดินได้กว้างประมาณ 90 ซม. ยาวเข้าไปด้านในประมาณ 2.23 ม. ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ พื้นครัวปูกระเบื้องเซรามิก

9

ชุดเคาน์เตอร์ครัวได้เหมือนห้องแรกเลยครับ

10

อ่างล้างจาน และเตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันของ Hafele

11

ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวเป็นห้องน้ำ

12

ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง

13

ชุดอ่างล้างหน้าติดไว้ฝั่งนี้ครับ

14

อ่างล้างหน้าของ American Standard

15

ฝั่งตรงข้ามเป็นโถสุขภัณฑ์ของ American Standard

16

ด้านในสุดเป็นพื้นที่ส่วนเปียกมีฉากกั้นบานเลื่อนให้

17

ด้านในติดฝักบัวของ American Standard มีช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำให้

18

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.79 x 0.80 ม.

19

ธรณีประตูทำมาสูงพอประมาณ

20

ออกจากส่วนครัวมา ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นห้องนอน ได้ฉากกั้นบานเลื่อน 3 ตอน

21

ภายในห้องนอนตกแต่งมาให้ดูแบบนี้ครับ ด้านในมีหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน

22

วางเตียง 5 ฟุตมาให้ดู

23

พื้นที่ข้างเตียงริมหน้าต่างเหลือประมาณ 52 ซม.

24

พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งเหลือประมาณ 58 ซม.

25

ปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 53 ซม.

26

ผนังปลายเตียงติดแอร์ 1 ตัว ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.5 ม. ตรงปลายเตียงมีห้องอเนกประสงค์มาให้

27

ตรงห้องอเนกประสงค์จะมีประตูบานเลื่อน 3 ตอน

29

พื้นที่ในห้องประมาณ 1.52 x 2.1 ม. ใครจะทำเป็นห้องทำงาน ห้องเก็บของ ห้องแต่งตัว หรือไว้เป็นห้องนอนเล็กอีกห้องก็ได้ครับ

28

ห้องตัวอย่างทำเป็นห้องแต่งตัวให้ดูครับ ทำตู้เสื้อผ้า และชั้นวางของให้ดูแบบนี้ ใครชอบก็ทำตามได้ครับ

30

ตรงห้องอเนกประสงค์ มีประตูบานเลื่อนอีก 3 บาน ออกไปตรงระเบียงได้

31

เปิดประตูออกมาเจอระเบียงขนาด 2.1 x 0.90 ม.

32

ฝั่งด้านข้างมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้า และด้านบนแขวนคอมเพลสเซอร์แอร์ 2 ตัวเป่าลมออกด้านนอก

33

มองกลับเข้ามาด้านในจะเห็นแบบนี้ครับ


ราคา (พ.ค.60)

  • 1 Bedroom 23.00 – 24.50 ตร.ม. ราคาเริ่ม 1.99 ล้านบาท (จอง 20,000 บาท ทำสัญญา 30,000 บาท)
  • 1 Bedroom 31.00 – 32.50 ตร.ม. ราคาเริ่ม 2.44 ล้านบาท (จอง 20,000 บาท ทำสัญญา 40,000 บาท)
  • 2 Bedroom 44.00 – 52.25 ตร.ม. ราคาเริ่ม 4.3 ล้านบาท (จอง 30,000 บาท ทำสัญญา 60,000 บาท)

ดาวน์ 10% : แบ่งเป็น 27 งวด งวดพิเศษ 4 งวด (ผ่อนดาวน์ต่อเดือนเริ่ม 2,990 บาท)

ค่าส่วนกลาง 57 บาท/ตร.ม. : ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม

โปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นวันที่ 13-19 พ.ค. 2560 เปิดจองผ่านระบบออนไลน์ Sansiri Online Booking รับส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท และรับ Paragon Voucher สูงสุด 8,000 บาท

โปรโมชั่นวัน Pre-sale สำหรับลูกค้าที่จองพร้อมทำสัญญา ภายในวันที่ 21-22 พ.ค. 2560

  • ฟรี Home Automation*
  • สิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้าที่ลงทะเบียนออนไลน์ รับส่วนลดสูง 20,000 บาท*
  • ลูกค้า SCB ผ่อน 0% x 6 เดือน*

โปรโมชั่นสำหรับลูกค้าเก่าแสนสิริ Sansiri Family ได้รับส่วนลด On-Top

  • 1 Bedroom-S : 30,000 บาท
  • 1 Bedroom-M : 40,000 บาท
  • 2 Bedroom : 50,000 บาท

โปรโมชั่น SCB Sansiri Platinum Card เมื่อจองผ่านบัตรได้ส่วนลดเงินทำสัญญา 5% (ส่วนลดสูงสุดไม่เกิน 2,500 บาท) และสามารถแบ่งชำระ 0% 6 เดือนเมื่อจองและทำสัญญาด้วยบัตร SCB

***รายละเอียดอื่นๆโปรดสอบถามทางโครงการครับ


สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ – THE BASE เพชรเกษม ตั้งอยู่ในย่านฝั่งธน พื้นที่รอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นชุมชนที่พักอาศัย ริมสองฝั่งทางถนนเพชรเกษมจะเป็นอาคารพาณิชย์ตึกแถว มีอาคารสำนักงานบ้าง ส่วนในซอยย่อยก็จะเป็นบ้านพักอาศัยของชุมชนย่านนี้ ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการออกแนวชุมชนมีร้านค้าร้านอาหารริมสองฝั่งทางถนนเพชรเกษมเป็นระยะๆ ร้านโชห่วย ร้านสะดวกซื้อก็มีครับ ตลาดสดใกล้ๆมีตลาดบางแค ส่วนห้างสรรพสินค้าใกล้ๆมีซีคอนบางแค , The Mall , Tesco Lotus , Big C ร้านอาคารแนวๆนั่งชิวมีตรงเส้นราชพฤกษ์หลายร้านให้เลือก รวมไปถึงคอมมูนิตี้มอลล์ด้วยครับ

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนเพชรเกษมฝั่งขาออก การเดินทางเข้าออกหลักๆก็ใช้เส้นเพชรเกษมได้เลย ตรงไปวงเวียนใหญ่ไปเข้าเส้นประชาธิปกข้ามสะพานพระปกเกล้าก็เข้าเขตพระนครแล้วครับ ไปเยาวราชได้เลย หรือจากวงเวียนตัดเข้าถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินมาเข้าถนนกรุงธนบุรี และตรงไปข้ามสะพานตากสิน ก่อนถึงแยกสาทรมีทางด่วนศรีรัชให้ขึ้น หรือตรงไปก็เข้าสาทรแล้วครับจากนั้นก็ไปแยกเข้าสีลมได้ ไปราชดำหริ สามย่าน สยามได้สบายๆ หรือตรงตามถนนสาทรไปออกสวนลุมพินีเข้าพระรามสี่ได้ ไปเชื่อมออกสุขุมวิทได้ มีทางด่วนให้ขึ้นแถวนี้ หรือจากถนนเพชรเกษมมาตัดเข้าถนนราชพฤกษ์ วิ่งเข้าเมืองตามแนว BTS ได้เลย ถ้าจะออกนอกเมืองเส้นเพชรเกษมวิ่งออกไปหนองแขม อ้อมน้อย ยาวออกต่างจังหวัดไปนครปฐม เพชรบุรี สมุทรสงคราม ยาวลงไปทางภาคใต้ได้เลย มีเส้นพุทธมณฑลสาย 1, 2, 3, 4, 5 เชื่อมจากเพชรเกษมไปออกถนนบรมราชชนนีได้ เส้นราชพฤกษ์วิ่งออกไปเชื่อมบรมราชชนนี นครอินทร์ รัตนาธิเบศร์ ชัยพฤกษ์ และสิ้นสุดที่ถนนสะพานนนทบุรี-บางบัวทอง การเดินทางค่อนข้างสะดวกและหลากหลายดีครับ

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – จุดเด่นอยู่ที่สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง รถ เรือ ราง ตัวโครงการอยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่อยู่ในช่วงก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดใช้ใกล้กับที่โครงการสร้างเสร็จพอดี โดยห่างจาก MRT เพชรเกษม 48 ประมาณ 120 ม. และห่างจาก MRT บางหว้า ประมาณ 1.2 กม. นั่งเพียงสถานีเดียว ซึ่งเป็นจุดตัดกับ BTS สายสีเขียวสถานีบางหว้ามีทางเดินเชื่อมถึงกันได้สะดวก และมีทางเดินไปยังท่าเรือสะพานตากสิน-เพชรเกษม ถ้าจะมาโครงการก็นั่งมาลงที่ท่าเรือเพชรเกษม 31 และเดินไปโครงการประมาณ 300 ม. ครับ เลยหน้าโครงการไปหน่อยมีป้ายรถเมล์มีวิ่งผ่านไปมาหลายสาย Taxi รถสองแถว และวินมอเตอร์ไซค์ก็โบกเรียกหน้าโครงการได้เลยสะดวกดี อยู่ที่นี่ไม่ต้องมีรถส่วนตัวก็ได้ครับ

การออกแบบโครงการและวัสดุ – โครงการออกแบบมา 1 อาคาร สูง 30 ชั้น บนพื้นที่ดินขนาดประมาณ 3 ไร่ อาคารรูปทรงสี่เหลี่ยมเป็นตัว L ออกแบบมาเต็มพื้นที่ ตัวสีอาคารออกแบบโดยใช้สีเขียวเทอร์คอยซ์ ไล่ระดับเข้มไปอ่อน ตัดด้วยสีน้ำตาล ถือว่าโดดเด่นในย่านนี้เลย ที่ชั้น 1 จะเป็นสวนพักผ่อนทั้งด้านหน้า และด้านหลังที่ติดริมคลองภาษีเจริญ มีสนามเด็กเล่น ส่วนกลางอยู่ที่ชั้น 1, 5, 28-30

การออกแบบห้องพักอาศัยที่นี่มีให้เลือกแบบ 1 Bed ขนาด 23.00-32.50 ตร.ม. และ 2 Bed ขนาด 44.00-52.25 ตร.ม. ห้องออกแบบมาดูโปร่งไม่อึดอัด ฝ้าสูง 2.55 ม. มียูนิตที่มีห้องอเนกประสงค์มาให้ด้วย สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่เป็นห้องแต่งตัว ห้องทำงาน เก็บของหรือห้องนอนเล็กอีกห้องก็ได้ครับ โครงการขายแบบ Fully Fitted ของที่ได้จะมี Digital door lock ชุดเคาน์เตอร์ครัวอ่างล้างจาน และ Hob & Hood ของ Hafele สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ American Standard พร้อมฉากกั้นส่วนเปียก แอร์ได้แบบติดผนังตรงห้องนั่งเล่นและทุกห้องนอน เฉพาะห้อง 1 Bed ขนาด 23.00 -24.50 จะได้แอร์ 1 ตัวในห้องนอน

สิ่งอำนวยความสะดวก – Facility หลักๆของโครงการอยู่ที่ชั้น 1 , 5 และ 28-30 ที่ชั้น 1 มีสวนหย่อม ตกแต่งทางเดินเข้าออกโครงการเป็น Green Tunnel ยาวเชื่อมเข้าไปถึง Lobby ตัว Green Tunnel ออกแบบเป็นโครงหลังคา สลับกับลวดสลิงขึงให้มีไม้เลื้อย เพื่อปรับเปลี่ยนอารมณ์เมื่อเดินเข้าโครงการมา มีสนามเด็กเล่น พื้นที่ด้านหลังที่ติดคลองจัดเป็นที่นั่งพักผ่อน ภายในอาคารมีโถง Lobby และ Co-working space ที่ปรับเปลี่ยนเป็นห้องดูหนังได้ในตัว ที่ชั้น 5 มีสวนส่วนกลาง ที่ชั้น 28 มีสระว่ายน้ำระบบเกลือยาว 40 ม. มีฟิตเนสแบ่ง 2 ชั้น โครงการของแสนสิริที่ยกส่วนกลางไปไว้ชั้นบนๆนี่หายากนะครับ แบรนด์สูงกว่า THE BASE ยังไม่ค่อยมีเลย ตัวนี้ถือว่าจัดเต็มพอสมควรครับ

ลิฟต์โดยสารมีให้ 3 ตัว ลิฟท์ขนของ 1 ตัว ที่จอดรถจอดได้ที่ชั้น 1-4 จอดได้ประมาณ 37% ไม่รวมซ้อนคัน มีจุดบริการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ระบบรักษาความปลอดภัยมีรปภ. มี CCTV และผ่านเข้าออกด้วยระบบ Key Card Access ที่เป็นบัตร Rabbit ในตัวใช้ได้ทั้งเข้าออกโครงการ เข้าห้องพัก ใช้เดินทางทั้ง BTS และเรือโดยสาร


คะแนน

ทำเลที่ตั้งโครงการ 7.5 อยู่ในย่านฝั่งธน เป็นย่านชุมชนมีความอุดมสมบูรณ์ในตัว
การเดินทาง ใช้รถ 8.0 เดินทางเข้าออกเมืองสะดวก เชื่อมออกได้หลายเส้นทาง
การเดินทาง ไม่ใช้รถ 8.5 ห่างจาก MRT เพชรเกษม 48 ประมาณ 120 ม. ห่างจากจุดตัด BTS บางหว้า 1 สถานี ห่างจากท่าเรือเพชรเกษม 31 ประมาณ 300 ม. รถเมล์ วินมอเตอร์ไซค์ Taxi สองแถว
ห้องและวัสดุ 7.5 ออกแบบมาดี มีห้องอเนกประสงค์ วัสดุที่ใช้อยู่ในระดับมาตรฐาน ขายแบบ Fully Fitted มี ชุดเคาน์เตอร์ครัว, Hob & Hood, แอร์, สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ
สิ่งอำนวยความสะดวก 8.0 Facility จัดเต็มหลักๆอยู่ที่ชั้น 28-30 มี Lobby, สวนหย่อม , ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, สวนริมน้ำ, Co-working space
ความคุ้มค่ากับราคา 7.5 รูปแบบโครงการออกแบบมาดี มีความโดดเด่นในย่านนี้ แต่ก็มีตัวเลือกอีกหลายที่ในทำเลที่ใกล้เคียงกัน และราคาที่ไม่ต่างกัน ซึ่งก็อยู่ที่ความชอบส่วนตัว
คะแนนรวมเฉลี่ย 7.83 ดี

ลงทะเบียนรับข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่

สนใจติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1685

Website : http://www.sansiri.com

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

บีทีเอส-แสนสิริ ลุยเปิด “THE BASE เพชรเกษม” มูลค่าโครงการ 1,850 ลบ.

$
0
0

บีทีเอส-แสนสิริ ลุยเปิด “THE BASE เพชรเกษม” มูลค่าโครงการ 1,850 ลบ.

01

บีทีเอส-แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป เดินหน้าพัฒนาคอนโดฯ ในแนวรถไฟฟ้า ล่าสุดเปิดตัว เดอะ เบส เพชรเกษม” (THE BASE Phetkasem) จำนวน 640 ยูนิต มูลค่า 1,850 ล้านบาท รับดีมานต์อยู่อาศัยจริงในย่านเพชรเกษม-บางแค จากรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสาย สีน้ำเงินที่การก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่า 80%

เผยคอนโดมิเนียมย่านเพชรเกษม-บางแค ใกล้รถไฟฟ้าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อัตราตอบรับดี โดยแสนสิริประสบความสำเร็จในการพัฒนาคอนโดฯ ในทำเลนี้ไปแล้วถึง 4 โครงการ พร้อมส่ง เดอะ เบส เพชรเกษม ชูคอนเซ็ปต์ “ทุกโหมดของชีวิต”

ครั้งแรก!! ที่คอนโดฯ ครบทุกการเดินทางทั้งรถ เรือ ราง สามารถเชื่อมต่อเข้าเมืองได้ง่าย ใกล้ MRT เพชรเกษม 48 เมตร เพียง 120 ม.

และครั้งแรก!! ที่ Facility จัดเต็มครบทุกโหมดของการใช้ชีวิต โดดเด่นด้วย Sky Fitness 2 ชั้น บนชั้น 28 และ 30 และรายแรกของวงการอสังหาฯ!! ที่เปิดประสบการณ์ซื้อที่อยู่อาศัยผ่าน “SAMSUNG pay”

พร้อมเปิดจองผ่าน “SANSIRI ONLINE BOOKING” จองยูนิตพิเศษผ่านออนไลน์ รับส่วนลดและสิทธิพิเศษเพิ่มสูงสุดกว่า 1 แสน เริ่ม 13-19 พ.ค.นี้เท่านั้น

เตรียมเปิดขายอย่างเป็นทางการ วันที่ 20-21 พ.ค.นี้ ราคาเริ่ม 1.99 ล้านบาท ผ่อนเริ่มต้น 2,999 บาท/เดือน

unnamed

คุณวรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการทั่วไป (General Manager) บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป เปิดเผยว่า บีทีเอส กรุ๊ปฯ และ แสนสิริ ได้ร่วมทุนกันพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในแนวเส้นทางระบบขนส่งมวลชน

โดยล่าสุดได้เปิดตัวคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ เดอะ เบส (THE BASE) โครงการแรกของปีนี้ ในชื่อโครงการ  “เดอะ เบส เพชรเกษม” (THE BASE Phetkasem) จำนวน 640 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,850 ล้านบาท

นับเป็นคอนโดมิเนียมแบรนด์เดอะ เบส โครงการที่ 2 ภายใต้ความร่วมมือระหว่างบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS และ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)

หลังจากที่ได้เปิดตัว เดอะ เบส การ์เดน-พระราม 9” ช่วงปลายปีที่ผ่านมา และยอดขายทะลุ 90% ใกล้ปิดการขาย

02

“เดอะ เบส เพชรเกษม ตั้งอยู่ในทำเลเพชรเกษม ซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง อยู่ใกล้กับ MRT สถานีเพชรเกษม 48 เพียง 120 เมตร โดยเป็นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (หัวลำโพง – บางแค) ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 2562

ทั้งนี้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินจะขยายความสะดวกไปทางโซนธนบุรี ทำให้หลายๆ พื้นที่ที่รถไฟฟ้าสายนี้ผ่านมีศักยภาพมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งย่านเพชรเกษม ซึ่งเป็นทำเลที่มีจุดเด่นหลากหลาย มีความเป็นชุมชนเก่า

ใกล้สถานที่สำคัญต่างๆ ทั้งศูนย์การค้า เช่น เดอะมอลล์ บางแค ซีคอนสแควร์ ตลาดบางแค โรงเรียน โรงพยาบาล ร้านอาหารเก่าแก่มากมาย และเป็นโซนที่สามารถเดินทางเข้าสู่ศูนย์กลางธุรกิจได้ไม่ยาก

ทั้งทางรถไฟฟ้า และถนนหลายเส้นทาง จากถนนเพชรเกษมสามารถเดินทางไปทางถนนราชพฤกษ์ ถนนจรัญสนิทวงศ์ หรือไปวงเวียนใหญ่ที่เชื่อมไปออกสาทรได้ รวมไปถึงถนนกัลปพฤกษ์ซึ่งสามารถไปสีลม สาทรได้อย่างสะดวกเช่นกัน

จึงส่งผลให้ทำเลนี้มีอุปทานและอุปสงค์เติบโตสูงขึ้นทุกปี โดยอุปทานคอนโดมิเนียมปี 2012 อยู่ที่ 3,009 ยูนิต และเพิ่มขึ้นเป็น 6,893 ยูนิตในปี 2016

หรือเพิ่มขึ้นถึง 129% ส่วนอุปสงค์ในปี 2012 เพิ่มจาก 2,508 ยูนิต เป็น 4,374 ยูนิต หรือเพิ่มขึ้น 74% ในปี 2016 และพบอัตราการตอบรับในปัจจุบันที่ 63%

0123465

โดยก่อนหน้านี้แสนสิริได้มีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมในทำเลสาทร ตากสิน เพชรเกษม นับตั้งแต่เริ่มมีการขยายตัวของเส้นทางรถไฟฟ้าจากเขตเมืองชั้นในสู่ชั้นนอกโดยเฉพาะทำเลย่านธนบุรี

ได้แก่ คอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ Hive (ไฮว์)  โครงการแรก ชื่อว่า Hive Sathorn จำนวน 363 ยูนิต มูลค่ากว่า 1,600 ล้านบาท ปิดการขายภายใน 2 สัปดาห์ที่เปิดตัว

นอกจากนี้โครงการที่เปิดตัวต่อเนื่องคือ Hive Taksin จำนวน 365 ยูนิต มูลค่าโครงการขาย 1,510 ล้านบาท ก็ได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน

รวมถึงโครงการ TEAL Sathorn-Taksin (ทีล สาทร-ตากสิน ทำเลถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ใกล้ BTS วงเวียนใหญ่เพียง 150 เมตร จำนวนทั้งสิ้น 409 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ปิดการขายในปี 2556

และ Nye by Sansiri (นายน์ บาย แสนสิริ) ซึ่งปิดการขายไปเมื่อปีที่ผ่านมา

10109

นอกจากนี้ ทำเลเพชรเกษม ราคาที่ดินเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2011 ราคาที่ดินซื้อขายกันอยู่ที่ 100,000 – 110,000 บาท/ตารางวา และในปี 2015

เพิ่มขึ้นมาเป็น 160,000 – 200,000 บาท/ตารางวา หรือเพิ่มขึ้นถึง 45 – 80% ภายในระยะเวลาไม่ถึง 5 ปี เฉลี่ยสูงขึ้นอยู่ที่ปีละ 9%

และโดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาที่ดินบริเวณที่ใกล้กับรถไฟฟ้าซึ่งติดกับถนนเพชรเกษม ราคาโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นสูงถึงปีละ 13% ซึ่งเมื่อรถไฟฟ้าสร้างเสร็จแล้วคาดว่าราคาที่ดินโดยเฉพาะอย่างยิ่งตามแนวรถไฟฟ้าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นปีละ 10%

อีกทั้งราคาเสนอขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในทำเลนี้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน จากราคาเฉลี่ยประมาณ 68,000 บาท/ตารางเมตร ในปี 2012 เพิ่มมาอยู่ที่ 86,000 บาท/ตารางเมตร ในปี 2016 หรือเติบโต 27%

และคาดว่าเมื่อรถไฟฟ้าก่อสร้างแล้วเสร็จ ราคาจะเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยปีละ 5% ขณะที่ราคา Re-sale โครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมาก็ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี

ส่วนใหญ่สามารถขายได้ในราคาที่สูงขึ้น เช่น ห้องรูปแบบ 1 ห้องนอนที่มีขนาดประมาณ 30 ตารางเมตร มีราคา Re-sale ที่สูงกว่าตอน on-sale ประมาน 30% ภายในระยะเวลาประมาณ 5 ปี

และอัตราผลตอบแทนที่ได้จากการปล่อยเช่าห้องรูปแบบนี้อยู่ที่ประมาณ 5-6%” คุณวรางคณา กล่าว

11119

“เดอะ เบส เพชรเกษม ชูคอนเซ็ปต์ “ทุกโหมดของชีวิต” ครบทุกการเดินทาง เข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว ทั้งรถ เรือ ราง อยู่ติดถนนใหญ่เพชรเกษม สามารถเชื่อมต่อกับ ถ.จรัญสนิทวงศ์ ถ.ราชพฤกษ์ ถ.กัลปพฤกษ์ และย่านสาทร สีลมได้ง่าย

ใกล้ท่าเรือเพชรเกษม 31 เพียง 300 เมตร  ซึ่งเป็น “โครงการเดินเรือในคลองภาษีเจริญ” จากท่าเทียบเรือประตูน้ำภาษีเจริญ -ท่าเทียบเรือเพชรเกษม 69 รวมถึงยังใกล้ MRT สถานีเพชรเกษม 48 เพียง 120 เมตรอีกด้วย

เหมาะทั้งการอยู่อาศัยและปล่อยเช่า ซึ่งคาดว่าโครงการจะได้รับความสนใจที่ดีจากทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ” คุณวรางคณา กล่าว

03

โครงการ เดอะ เบส เพชรเกษม เป็นอาคารพักอาศัยความสูง 30 ชั้น ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม อยู่ระหว่าง ซ.29 กับ ซ.29/1 ออกแบบภายใต้แนวคิด “Living with Nature” ให้ทุกพื้นที่เป็นพื้นที่สีเขียวที่ต้องการให้ทุกชีวิตได้เติบโตไปพร้อมกับธรรมชาติ

พร้อมรองรับทุกความต้องการด้วยทุกโหมดของชีวิต โหมด…เปิดรับความร่มรื่น กับอุโมงค์ไม้เลื้อยที่รายล้อมด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ เชื่อมต่อกับ Welcome Pavilion ที่นั่งพักผ่อนใต้ร่มไม้ใหญ่

โหมด…เพลิดเพลินไปกับจังหวะของสายน้ำ พื้นที่ริมน้ำทอดตัวยาวตลอดแนวลำคลองภาษีเจริญ ให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ระเบียงริมน้ำ

โหมด…ทำงานอย่างสร้างสรรค์ กับ Co-working Space ที่จัดสรรพื้นที่เพื่อรองรับการทำงานแบบส่วนตัว และแบบทีม และยังปรับสู่โหมดความบันเทิงได้ทันทีให้กลายเป็นห้องดูหนังได้

โหมด…ดูแลสุขภาพ กับ Sky Fitness ที่มีอุปกรณ์ครบครัน เพลิดเพลินกับสระว่ายน้ำยาว 40 ม.เปิดโหมดการชมวิวที่ไม่เหมือนใคร

045

พร้อมสำหรับทุกการพักผ่อน มีห้องให้เลือก 2 แบบ แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ 23.00-32.50 ตร.ม. และแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ 44.00-52.25 ตร.ม.

ทั้งนี้ แสนสิรินับเป็นผู้นำรายแรกในวงการอสังหาริมทรัพย์ สำหรับการให้บริการ “SAMSUNG pay” ชำระเงินจองผ่านสมาร์ทโฟนรูปแบบใหม่ ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถชำระเงินจอง หรือค่าบริการต่างๆ ได้อย่างสะดวก และง่ายดาย

โดยการเพิ่มบัตรเครดิตที่มีอยู่ลงไปในสมาร์ทโฟน โดยบัตรเครดิตธนาคารที่สามารถใช้ SAMSUNG pay ในขณะนี้ได้แล้วใน 6 ธนาคาร ได้แก่ KTC, SCB, KBANK, Krungsri, Bangkok Bank และ CITIBANK และแบงก์อื่นๆ เพิ่มขึ้นในอนาคต

เพื่อตอบรับการใช้ชีวิตในยุคดิจิตัลให้การซื้ออยู่อาศัยเป็นเรื่องง่าย สร้างความสะดวกสบายตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านแสนสิริอย่างต่อเนื่อง

04

นอกจากนี้ แสนสิริยังได้เปิดจองที่อยู่อาศัยผ่านทาง SANSIRI ONLINE BOOKING”   พร้อมมอบส่วนลดและสิทธิพิเศษเพิ่มสูงสุดกว่า 1 แสนบาท ซึ่งผลตอบรับหลังจากเริ่มเปิดจองผ่าน SANSIRI ONLINE BOOKING ในช่วงเสาร์ – อาทิตย์ ที่ 13-14 พ.ค.ที่ผ่านมา

ปรากฎว่าลูกค้าเข้าจองผ่านระบบคิดเป็นจำนวนถึง 60% จากจำนวนห้องที่เปิดขายผ่าน SANSIRI ONLINE BOOKING ซึ่งนับว่าได้รับการตอบรับที่ดีและยังเปิดให้จองทาง SANSIRI ONLINE BOOKING จนถึงวันที่ 19 พ.ค.นี้

ก่อนเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 20-21 พ.ค. ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.99 ล้านบาท ผ่อนเริ่ม 2,999 บาท/เดือน

พร้อมจัดโปรโมชั่น ฟรี! Home Automation เปิด-ปิด ไฟ แอร์ ในห้องได้ทุกจุดผ่านระบบแอพพลิเคชั่นในมือถือ เมื่อจองและทำสัญญาในวัน Pre-Sale ที่ 20-21 พ.ค.นี้เท่านั้น


แสนสิริ รุก Innovation ในโครงการที่อยู่อาศัยเต็มสูบ ส่งทีม DSD โชว์ผลงานการพัฒนา “Cooliving Designed Home”

$
0
0

แสนสิริ รุก Innovation ในโครงการที่อยู่อาศัยเต็มสูบ  ส่งทีม DSD โชว์ผลงานการพัฒนา “Cooliving Designed Home” นวัตกรรมบ้านระบายความร้อนด้วยโซล่าเซลล์เต็มรูปแบบ  นำร่องโครงการแรก “บุราสิริ วัชรพล” มูลค่าโครงการ 3,400 ล้านบาท

0036(1)

แสนสิริ เดินหน้ารุก Innovation ในโครงการที่อยู่อาศัยเต็มสูบในปี’60 ส่งทีมแสนสิริดีไซน์ โซลูชั่น ดีพาร์ทเมนท์ (DSD) โชว์ผลงานการพัฒนา “Cooliving Designed Home” นวัตกรรมบ้านระบายความร้อนด้วยโซล่า เซลล์ ไม่ใช้ไฟฟ้า ปลอดภัยและ Go green เต็มรูปแบบ ภายใต้การวิจัยและพัฒนา (R&D) ไลฟ์สไตล์ในที่อยู่อาศัย เพื่อลูกบ้านแสนสิริโดยเฉพาะ ด้วยการสร้างสรรค์ 5 ฟังก์ชั่น

1.Solar Attic ระบบพัดลมและช่องระบายอากาศใต้หลังคา เพื่อช่วยลดความร้อนใต้หลังคา ทำให้ภายในตัวบ้านเย็นลง และลดการสะสมของเชื้อโรค

2.Breeze Panel ช่องระบายลมในตัวบ้าน ช่วยถ่ายเทและระบายอากาศในตัวบ้าน

3.Shading Screen ระแนงกันแดดที่ออกแบบโดยดูจากทิศทางของบ้าน

4.Texture Wall ผนังบ้านดีไซน์พิเศษที่มี Texture ช่วยลดความร้อนจากแสงแดดที่ตกกระทบพื้นผิว และ

5.UV Shield สีชนิดพิเศษ ช่วยกันความร้อน

นำร่องโครงการแรกที่บ้านเดี่ยวใหม่ล่าสุดบุราสิริ วัชรพล มูลค่าโครงการ 3,400 ล้านบาท พร้อมเปิดขายอย่างเป็นทางการวันที่ 24-25 มิ.ย.นี้ ราคาเริ่มต้นที่ 7.89 ล้านบาท

00

นายเมธา อังวัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า ในปีนี้แสนสิริได้รุกด้าน Innovation อย่างเต็มสูบ และได้มองหาโอกาสในการพัฒนาด้าน Innovation เพื่อการอยู่อาศัยใหม่ๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งรวมถึงส่งผลประโยชน์สูงสุดให้แก่ลูกค้าจากการที่แสนสิริจะมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้

โดยล่าสุดได้ส่งทีมแสนสิริดีไซน์ โซลูชั่น ดีพาร์ทเมนท์ (DSD) และทีมวิจัยและพัฒนา (R&D) พัฒนานวัตกรรมบ้านระบายความร้อนด้วยโซล่าเซลล์ ไม่ใช้ไฟฟ้า ปลอดภัยและ Go green เต็มรูปแบบ ภายใต้ชื่อ “Cooliving Designed Home” สร้างสรรค์นวัตกรรมทั้งหมด 5 ฟังก์ชั่น ได้แก่

1.Solar Attic ระบบพัดลมและช่องระบายอากาศใต้หลังคา เพื่อช่วยลดความร้อนใต้หลังคา ทำให้ภายในตัวบ้านเย็นลง และลดการสะสมของเชื้อโรค

2.Breeze Panel ช่องระบายลมในตัวบ้าน ช่วยถ่ายเทและระบายอากาศในตัวบ้าน

3.Shading Screen ระแนงกันแดดที่ออกแบบโดยดูจากทิศทางของบ้าน เช่น ทิศเหนือหรือใต้ จะรับแสงแดดและลมต่างกัน จึงออกแบบให้เหมาะกับแต่ละทิศ

4.Texture Wall ผนังบ้านดีไซน์พิเศษที่มี Texture ช่วยลดความร้อนจากแสงแดดที่ตกกระทบพื้นผิว และ

5.UV Shield สีชนิดพิเศษ ช่วยกันความร้อน นอกจากนี้ยังมี Roof Shade ฝ้าชายคาหรือหลังคาที่ยื่นเป็นพิเศษ ช่วยป้องกันแสงแดด รวมถึง Heat-Absorbing Green Glass กระจกเขียวตัดแสง ช่วยลดความร้อนอีกด้วย

0123

“นวัตกรรม “Cooliving Designed Home” จะทยอยพัฒนาในทุกโครงการบ้านเดี่ยวของแสนสิริ โดยเปิดตัวใช้อย่างเต็มรูปแบบในโครงการแรก คือ “บุราสิริ วัชรพล” มูลค่า 3,400 ล้านบาท

ซึ่งเป็นโครงการที่ต่อยอดความสำเร็จจากโครงการ “เศรษฐสิริ วัชรพล” ปัจจุบันปิดการขายแล้ว บนทำเลวัชรพลซึ่งเป็นทำเลที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมมากว่า 10 ปี

โดยแสนสิรินับเป็นผู้บุกเบิกพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวในทำเลนี้เป็นรายแรกๆ ด้วยการเปิดตัวโครงการ “นาราสิริ วัชรพล” บ้านเดี่ยวโครงการแรกของแสนสิริในทำเลนี้อีกด้วย

นอกจากนี้ทำเลวัชรพลยังนับเป็นทำเลที่มีการเติบโตมากที่สุดแห่งหนึ่ง ตลาดบ้านจัดสรรก็ขยายตัวมีโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย

โดยพบว่าอุปทานบ้านเดี่ยวในทำเลวัชรพล (สายไหม) มีจำนวนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 1,053 ยูนิตในช่วงครึ่งปีแรก 2559 มาอยู่ที่ 1,182 ยูนิตในช่วงครึ่งปีหลัง 2559 หรือเพิ่มขึ้น 12%

อีกทั้งพบว่าอัตราตอบรับของบ้านเดี่ยวในทำเลนี้ดีขึ้นจากครึ่งปีแรก 2559 ซึ่งมีอัตราตอบรับ 43% มาอยู่ที่ 49% ในช่วงครึ่งปีหลัง 2559 โดยเมื่อพิจารณาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาพบว่าอัตราตอบรับมีแนวโน้มที่ดีขึ้นทุกปี

อย่างไรก็ตามภาพรวมบ้านเดี่ยวในทำเลนี้มีอัตราดูดซับอยู่ที่ 3.7 ยูนิตต่อเดือนต่อโครงการ ทั้งนี้ระดับราคาที่เป็นที่นิยมในทำเลนี้คือระดับราคา 7.00-9.99 ล้านบาท มียูนิตเสนอขายจำนวน 724 ยูนิต มีอัตราดูดซับสูงถึง 7.09 ยูนิตต่อเดือนต่อโครงการ

ขณะที่เมื่อพิจารณาถึงราคาที่ดินในบริเวณวัชรพล จากราคาประเมินที่ดินของกรมธนารักษ์ พบว่าโดยส่วนใหญ่ ราคาที่ดินมีการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มสูงขึ้น

โดยเฉพาะช่วงถนนสุขาภิบาล 5 มีอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินสูงถึง 33-71% จากราคา 35,000-45,000 บาทต่อตารางวา ในรอบการประเมินปี 2555-2558 มาอยู่ที่ 60,000 บาทต่อตารางวา ในรอบการประเมินปัจจุบัน (รอบปี 2559-2562)

หรือบริเวณถนนวัชรพล จากราคา 35,000-60,000 บาทต่อตารางวา มาอยู่ที่ 50,000-72,000 บาท ต่อตารางวาหรือเพิ่มขึ้น 20-43% นอกจากนั้นจากข้อมูลของ AREA (Agency for Real Estate Affairs) พบว่าราคาซื้อขายที่ดินในบริเวณวัชรพล-ออเงินมีการปรับตัวโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นปีละ 3%

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตละแวกนี้ ยังอยู่ใกล้เคียงกับสถานีรถไฟฟ้าถึง 3 สาย โดยใช้เวลาเดินทางจากถนนสุขาภิบาล 5  ไปยังสถานีรถไฟฟ้าประมาณ 10-15 นาที ได้แก่ 1. สถานีสายหยุด  โครงการ

รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) 2. สถานีรามอินทรา 31 โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (มีนบุรี-แคราย)  และ 3. สถานีวัชรพล ซึ่งเป็นสถานี interchange ระหว่างสายสีชมพูและโครงการรถไฟ monorail สายสีเทา (วัชรพล-พระราม 9)

ปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง แล้วเสร็จ 28% ส่วนสายสีชมพูอยู่ในระหว่างการคัดเลือกบริษัทเอกชน โดยทั้ง 2 สายคาดว่าเปิดให้ใช้บริการภายในปี 2563 และสายสีเทาจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2564

0050

นอกจากนี้ทำเลวัชรพลเป็นทำเลที่ผู้ประกอบการหลายรายเข้ามาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมากก็คือเป็นทำเลที่คึกคักและนับว่าเป็นทำเลทองของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกตอนเหนือ สะดวกในการเดินทาง

สามารถเดินทางเข้า-ออก ทั้งในเมืองและชานเมืองได้ไม่ยาก โดยเฉพาะบนถนน “สุขาภิบาล 5”  เพราะถูกล้อมรอบไปด้วยทางพิเศษ และถนนสายหลัก

ได้แก่ ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ที่มีจุดขึ้น-ลงทางด่วนอยู่บริเวณ ถ.สุขาภิบาล 5  และยังอยู่ใกล้เคียงกับวงแหวนรอบนอก กาญจนาภิเษก ที่สามารถเดินทางไปยังพื้นที่ชั้นนอกรอบๆกรุงเทพฯ ได้

นอกจากนี้ เส้นถนนสุขาภิบาล 5  ยังสามารถเดินทางไปยังถนนสายหลักอย่าง ถ.รามอินทรา, ถ.สายไหม  และ ถ.พหลโยธิน โดยเชื่อมต่อกับ ซ.พหลโยธิน 50  ผ่าน ถ.เทพรักษ์ เส้นทางใหม่ที่เพิ่งเริ่มเปิดให้บริการไปในช่วงเดือนธันวาคม 2558

นอกจากนี้ยังรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าและไลฟ์สไตล์มอลล์ อาทิ ศูนย์การค้าแฟชั่น ไอส์แลนด์, เดอะ พรอมานาด, เพลินนารี่ มอลล์, เวนิส ดี ไอริส วัชรพล (Vennice Di Iris), เซ็นทรัล รามอินทรา, Index Living Mall, The Walk (เกษตร-นวมินทร์) Crystal Park

รวมถึงสถานศึกษา ซึ่งมีทั้งโรงเรียน รัฐบาลและเอกชน อาทิ โรงเรียนสายอักษร, โรงเรียนนานาชาติกีรพัฒน์ (รามอินทรา34), โรงเรียนเลิศหล้า และAustralian International School รวมถึงโรงพยาบาลต่างๆ โรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนนอรัล, โรงพยาบาลสินแพทย์ เป็นต้น

0014(1)

สำหรับโครงการ “บุราสิริ วัชรพล” เป็นโครงการที่พัฒนาขึ้นภายใต้แบรนด์บุราสิริ “Find Your Peace of Mind บ้านเพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง” ตั้งอยู่บนถนนวัชรพล มีพื้นที่ 94 ไร่

ออกแบบคอนเซ็ปต์ “THE HIGH LIFE IN GREEN” ได้รับแรงบันดาลใจจากต้นไม้ใหญ่ ทำให้โครงการสงบร่มรื่น ซึ่งเป็นโครงการแรกที่ได้พัฒนานวัตกรรม “Cooliving Designed Home” รวมถึงนวัตกรรมที่ใส่ใจผู้สูงอายุ Elder Care

ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่สร้างสรรค์ให้ห้องนอนชั้นล่างปูด้วยพื้น Soft Fall กันกระแทก และไม่มีขั้นระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำ เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ใช้ Wheelchair ก่อเกิดเป็นนวัตกรรมบ้านแบบใหม่ที่ผสานกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว

พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน คลับเฮ้าส์ ฟิตเนส สระว่ายน้ำระบบเกลือ สวน 2 แห่งในโครงการ และระบบความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

มีจำนวนทั้งสิ้น 242 ยูนิต มีทั้งหมด 5 แบบบ้าน พื้นที่ใช้สอย ขนาด 175-393 ตร.ม. พื้นที่ดิน 50.4-189.7 ตร.วา  ราคาเริ่มต้นที่ 7.89 ล้านบาท

เตรียมเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 24-25 มิถุนายน 2560 พร้อมจัดโปรโมชั่นมอบส่วนลดสูงสุด 2 แสนบาทเฉพาะในงานเท่านั้น

บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป เซ็นต์สัญญาเดินหน้าก่อสร้าง “เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต สกายวอล์ค” เชื่อมต่อสถานีบีทีเอสหมอชิต

$
0
0

บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป เซ็นต์สัญญาเดินหน้าก่อสร้าง “เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต สกายวอล์ค” เชื่อมต่อสถานีบีทีเอสหมอชิต และโครงการเดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต อำนวยความสะดวกด้านการเดินทาง ภายใต้แนวคิด Location is Everything

Sansiri

นาย กวิน  กาญจนพาสน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ที่สองจากซ้าย) และนายรังสิน กฤตลักษณ์ กรรมการบริหาร และผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ (ที่หนึ่งซ้าย) บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ร่วมด้วย นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ (ที่สองจากขวา) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และนางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการทั่วไป (ที่หนึ่งขวา) บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป

พร้อมกับ นายฤทธิ์ชาร์ด ดีอำมาตย์ กรรมการผู้จัดการ (กลาง) บริษัท พี เค อี ที จำกัด ผู้รับเหมาก่อสร้างในส่วนโครงการ “เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต สกายวอล์ค” ร่วมลงนามในสัญญาการก่อสร้างทางเชื่อมในช่วงระหว่างสถานีบีทีเอสหมอชิต และโครงการเดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต ซึ่งได้รับใบอนุญาตก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะเป็นเส้นทางเชื่อมต่อสู่ระบบขนส่งมวลชนต่างๆ โดยรอบโครงการ

เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต ทั้งรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้ามหานคร หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ช่วยอำนวยความสะดวกในด้านการเดินทางแก่ลูกบ้านแสนสิริ ภายใต้แนวคิด Location is Everything

The-Line-Jatujak-Mochit

เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต” (THE LINE JATUJAK – MOCHIT) คอนโดมิเนียมโครงการแรกภายใต้ความร่วมมือระหว่างแสนสิริและบีทีเอส ในรูปแบบไฮท์ไรซ์ 43 ชั้น จำนวน 841 ยูนิต มูลค่าโครงการเกือบ 6,000 ล้านบาท

เปิดกว้างรับมุมมองของสวนขนาดใหญ่กว่า 700 ไร่ และวิวเมืองที่โดดเด่นในยามค่ำคืนอย่างเต็มที่ ในทำเลที่ตั้งโครงการ จตุจักร-หมอชิต ที่จะเป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ในอนาคต

เปิดการขายในเดือนพฤษภาคม 2558 และประสบความสำเร็จปิดการขายทันทีในวันพรีเซลล์ ได้รับความสนใจจากลูกค้าชาวต่างชาติเข้าร่วมงานโรดโชว์สูงสุดเป็นประวัติการณ์ขายอสังหาฯ ในต่างประเทศทั้งในฮ่องกงและสิงคโปร์รวมถึงลูกค้าคนไทยที่ให้ความเชื่อมั่นและตอบรับอย่างดี

โดยโครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2560 และทางเชื่อม เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต สกายวอล์ค คาดว่าจะแล้วเสร็จในต้นปี 2561 หนึ่งในความมุ่งมั่นพัฒนาโครงการเพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ลูกค้าภายใต้ชีวิตเมือง

แสนสิริ ปูพรมกลยุทธ์สร้างแบรนด์ปี 2017 ชูประสบการณ์ ‘เติมเต็มการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้าน ‘Complete Your Living Experience’

$
0
0

แสนสิริ ปูพรมกลยุทธ์สร้างแบรนด์ปี 2017 ชูประสบการณ์ ‘เติมเต็มการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้าน ‘Complete Your Living Experience’ เปิดตัว 6 ฟังก์ชั่นมัดใจทุกกลุ่มไลฟ์สไตล์ในที่อยู่อาศัย

IMG_4840

แสนสิริ ปูพรมกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ปี 2017 นำเสนอประสบการณ์อยู่อาศัยสมบูรณ์ผ่านกลยุทธ์ เติมเต็มการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้าน (Complete Your Living Experience) ต่อยอดปรัชญาการดำเนินธุรกิจของบริษัทตลอดกว่า 33 ปี เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และรูปแบบการใช้ชีวิตของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม รวมถึงการเจาะกลุ่มผู้บริโภคใหม่

ประเดิมด้วยการปรับทิศทางของแบรนด์องค์กร ด้วยการทุ่มงบ 50 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ “Fill Your Life with Good” ชู 6 ฟังก์ชั่นในที่อยู่อาศัยตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในแต่ละโครงการ

ไฮไลต์เปิดตัวด้วย Educational Playground มากกว่าสนามเด็กเล่น ในโครงการที่อยู่อาศัย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของวงการอสังหาฯ ไทย และวงการแพทย์ ที่มีการผนึกกำลังเพื่อเติมเต็มการอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ

ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการสร้างความแปลกใหม่ที่ยกระดับมาตรฐานตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยอย่างต่อเนื่อง (Market Shaper) เพื่อมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ดีที่สุดให้แก่ผู้อยู่อาศัยของแสนสิริ สมกับวิสัยทัศน์การก้าวสู่การเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก

011

นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

ในปี 2560 นี้ บริษัทฯ มีแผนการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของแสนสิริ ผ่านการสื่อสารทางการตลาดภายใต้กลยุทธ์  ‘เติมเต็มการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้าน Complete Your Living Experience

ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เกิดจากการที่แสนสิริไม่ได้มุ่งพัฒนาแค่ที่อยู่อาศัย แต่ต้องการสร้างชีวิตที่ดีให้กับลูกค้าควบคู่กันไป  ภายใต้ความต้องการของลูกค้าที่ปรับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

บริษัทจึงต้องมีการปรับกลยุทธ์การสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แบรนด์ของแสนสิริมีความชัดเจนในใจผู้บริโภคว่าทุกอย่างที่เราสร้างสรรค์นั้น ผ่านการคิดและกลั่นกรองมาอย่างละเอียดในทุก ๆ ด้าน

ตั้งแต่การคิดผ่านมุมมองของลูกค้า ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคที่หลากหลายและรวบรวมข้อมูล ว่าลูกค้าแต่ละกลุ่มมีความต้องการในการอยู่อาศัยอย่างไร

จึงช่วยให้เราสร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยบนมาตรฐานที่เหนือระดับ ในการตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกกลุ่มได้อย่างครอบคลุมเสมอมา

11

“ในวันนี้ แสนสิริพร้อมแล้วที่จะก้าวไปอีกขั้นเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในทุกกลุ่มอายุผู้มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายและและแตกต่างกันได้ดียิ่งขึ้น

เราจึงทุ่มงบประมาณจำนวน 50 ล้านบาทเพื่อเปิดตัวแคมเปญ “Fill Your Life with Good” ต่อยอดกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่เน้นเติมเต็มการอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ

เริ่มจากการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของแนวคิดที่ว่าดีไซน์สวยงามต้องมาพร้อมกับประโยชน์การใช้งานได้จริง (Aesthetic Functionality)

พร้อมทั้งตอกย้ำว่า แสนสิริเป็นผู้บุกเบิกในตลาดอสังหาริมทรัพย์และเป็นผู้นำในด้านการส่งมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ดีที่สุดให้แก่ลูกบ้านแสนสิริทุกกลุ่ม ผ่านการศึกษาและวิจัยความต้องการของลูกบ้านอย่างต่อเนื่อง

โดยทีมแสนสิริ ดีไซน์ โซลูชั่น ดีพาร์ทเม้นต์ (DSD) และทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Product Development) เพื่อนำมาพัฒนาโครงการให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และรูปแบบการใช้ชีวิตของลูกค้าในแต่ละกลุ่มอย่างตรงจุด

โดยในปีนี้จะมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการ ผ่าน 6 ฟังก์ชั่นที่อยู่อาศัย ที่จะตอบทุกโจทย์ของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว” นายอุทัย กล่าวเพิ่มเติม

IMG_4842

สำหรับ 6 ฟังก์ชั่นที่เป็นตัวอย่างของการที่แสนสิริออกแบบและจัดสรรให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้อยู่อาศัยในแต่ละโครงการนั้นได้แก่

Underwater Music เป็นทั้งสระน้ำ เป็นทั้งเวที สระว่ายน้ำพร้อมระบบเสียงเพลงใต้น้ำให้ผู้อยู่อาศัยได้เพลิดเพลินกับเสียงเพลงได้อย่างต่อเนื่อง แม้ในระหว่างที่คุณว่ายน้ำ

Co-Kitchen Space ครัวส่วนกลาง ที่ทำได้มากกว่าอาหาร เพราะสามารถเป็นพื้นที่สำหรับจัดปาร์ตี้ได้ หรือหากอยากจัดปาร์ตี้ขนาดใหญ่ก็สามารถใช้พื้นที่ส่วนกลางสำหรับปาร์ตี้ปิ้งย่าง บาร์บิคิว หรือใช้เป็นสถานที่สังสรรค์กับเพื่อน ฯลฯ

Private Parking Space เป็นบ้านของสิ่งที่ผมรัก ที่จอดรถที่ออกแบบเป็นพิเศษ ทำให้สามารถมั่นใจได้ในทุกองศาการเลี้ยวไม่ว่าจะเป็นรถสูง ต่ำ กว้าง

หรือแม้แต่ซุปเปอร์คาร์ก็สามารถจอดได้ พร้อมช่องจอดรถที่ออกแบบให้พื้นที่กว้างเป็นพิเศษพร้อมการจัดไฟให้เปรียบเหมือนโชว์รูมส่วนตัว

11

Cooliving Designed Home เย็นสบายไม่ต้องเปิดแอร์ นวัตกรรมที่แสนสิริคิดขึ้น ประกอบด้วย “Solar Attic” ระบบพัดลมและช่องระบายอากาศใต้หลังคาโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ช่วยลดความร้อนใต้หลังคา ทำให้ภายในตัวบ้านเย็นลง

และลดการสะสมของเชื้อโรค “Breeze Panel” ช่องระบายลมช่วยถ่ายเทและระบายอากาศภายในตัวบ้าน “Shading screen” ระแนงกันแดดที่ออกแบบโดยดูจากทิศทางของบ้าน

และออกแบบให้เหมาะกับแต่ละทิศ “Texture Wall”  ผนังบ้านที่มี Texture ช่วยลดความร้อนจากแสงแดดที่ตกกระทบพื้นผิว “Roof shade” ฝ้าชายคาหรือหลังคาที่ยื่นยาวเป็นพิเศษ ช่วยป้องกันแสงแดด

รวมถึง “UV Shield Color” สีกันความร้อนและกระจกเขียวตัดแสง ซึ่งช่วยถ่ายเทอากาศภายในตัวบ้านและลดอุณหภูมิภายในบ้าน ทำให้ทุกมุมของบ้านอยู่สบาย

Panoramic View Fitness เป็นฟิตเนสเพื่อเพิ่มความสดชื่น ด้วยวิว 180 วงศาโดยการดีไซน์กระจกกว้างสามารถสัมผัสวิวธรรมชาติได้อย่างเต็มที่

และฟังก์ชั่นสุดท้ายที่เปิดตัวในวันนี้คือ Educational Playground มากกว่าสนามเด็กเล่น ออกแบบเพื่อช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านร่างกายโดยพัฒนากล้ามเนื้อสำคัญของขา ส่วนบน ส่วนล่าง

เพิ่มความสามารถในการจับการใช้กำลังแขน ผ่านการปีนป่าย การเขย่ง การปีนป่าย การกระโดด และช่วยเพิ่มพูนพัฒนาการของสมอง ในด้านทักษาะการตัดสินใจ รวมถึงการแก้ปัญหาผ่านการเล่นเกมส์

ซึ่งทางแสนสิริได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลสมิติเวช ในด้านของการเป็นที่ปรึกษาในการออกแบบและแนะนำเรื่องการใช้วัสดุให้ปลอดภัยในสนามเด็กเล่น

IMG_4955

นายชัยจักร วทัญญู ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ หนึ่งในทีมงานฝ่ายแสนสิริ ดีไซน์ โซลูชั่น ดีพาร์ทเมนท์  บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

สำหรับ “Educational Playground มากกว่าสนามเด็กเล่น” ซึ่งเป็นหนึ่งใน 6 ฟังก์ชันที่เราเปิดตัวในวันนี้ นับเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของโครงการอสังหาริมทรัพย์ไทยในการฉีกแนวคิดเดิมของสนามเด็กเล่นภายในโครงการที่อยู่อาศัยให้เป็น “มากกว่าสนามเด็กเล่น”

โดย Educational Playground เกิดจากการที่แสนสิริศึกษามาแล้วว่าเป็นฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่เป็นครอบครัวรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มลูกค้าที่แสนสิริให้ความสำคัญ

โดยลูกค้ากลุ่มนี้กำลังต้องการโครงการที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับเด็กๆ  ประกอบกับแรงบันดาลใจจากสนามเด็กเล่นในโครงที่อยู่อาศัยในต่างประเทศที่มีการผนวกเอากิจกรรมลงไปไม่ได้มีเฉพาะแต่เครื่องเล่นเท่านั้น

รวมทั้งโครงการที่มีการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับเด็กอย่างจริงจังนั้น อาจยังมีไม่มากในประเทศไทย จึงนับว่าเป็นครั้งแรกในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยที่มีสนามเด็กเล่นลักษณะนี้เกิดขึ้นในโครงการที่อยู่อาศัย

12

โดยทีมแสนสิริ ดีไซน์ โซลูชั่น ดีพาร์ทเม้นต์ (DSD) และทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Product Development) ได้ร่วมกันพัฒนา โดยได้รับคำปรึกษาจากโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของไทยที่มีความเชี่ยวชาญด้านเด็กอย่างโรงพยาบาลสมิติเวช

โดยเราศึกษาพัฒนาการของเด็กในแต่ละช่วงวัยตั้งแต่วัย 2 ขวบจนถึงวัยประถม ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในโครงการอสังหาริมทรัพย์ไทยที่มีสนามเด็กเล่นลักษณะนี้ ตั้งอยู่ในโครงการที่พักอาศัยที่ตอบโจทย์ครอบครัวรุ่นใหม่ได้อย่างแท้จริง

โดยปัจจุบันได้มีโครงการนำร่องอยู่ที่ โครงการคณาสิริ รังสิต คลองสอง, โครงการ เศรษฐสิริ ปิ่นเกล้า กาญจนา และโครงการ เศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา รวมถึงโครงการอื่นๆ ที่จะตามมาอีกในอนาคต

เช่น โครงการบุราสิริ วัชรพล และ โครงการบุราสิริ ราชพฤกษ์ 345 เป็นต้น โดยแสนสิริได้เตรียมงบประมาณ ไว้ถึง 20 ล้านบาทในการพัฒนา Educational Playground ในโครงการต่าง ๆ ของปีนี้

ซึ่งเชื่อมั่นว่า จะสามารถตอบโจทย์ทั้งในด้านการส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในแต่ละช่วงวัยในด้านร่างกายและช่วยเพิ่มพูนทักษะในการตัดสินใจให้เด็กๆ เติบโตแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจอย่างเต็มที่”

1473586047_846581279

นพ.วสุ  กำชัยเสถียร  ผู้ช่วยผู้อำนวยการ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช กล่าวว่า “โรงพยาบาลสมิติเวชและแสนสิริต่างให้ความสำคัญต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดี  และในปัจจุบันเป็นยุคของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับพัฒนาการของลูก

การร่วมมือในครั้งนี้ถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์อย่าง “แสนสิริ” เล็งเห็นความสำคัญของการสร้างสนามเด็กเล่นที่มีมาตรฐานและใส่ใจในทุกรายละเอียดตามพัฒนาเด็กอย่างEdutainment Playground ภายในโครงการนำร่องของแสนสิริ

โดยร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทางพัฒนาการเด็กของ “สมิติเวช”  สำหรับแนวคิดการออกแบบเครื่องเล่นที่สมิติเวชได้สร้างสรรค์ร่วมกับแสนสิรินั้น  เราต้องการส่งเสริมพัฒนาการเด็กผ่านการเล่น

และสามารถเสริมสร้างสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัวไปในตัว ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการกระตุ้นพัฒนาการตามวัยที่เหมาะสมผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสนามเด็กเล่น ตลอดจนสามารถดูแลลูกด้านความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด

และเน้นให้เด็ก ๆ ได้ออกกำลังทางความคิดพร้อมเพิ่มพูนทักษะ และไหวพริบในการตัดสินใจผ่านการฝึกก้าว ปีนป่าย การเขย่ง การกระโดด ตามความเหมาะสมของเด็กแต่ละช่วงวัย เพื่อให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีสมวัย”

นายอุทัย กล่าวปิดท้ายว่า “แสนสิริตั้งงบประมาณสำหรับแคมเปญนี้ไว้กว่า 50 ล้านบาท โดยในปีนี้จะเน้นการสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์กับลูกค้าผ่านสื่อดิจิทัล เพื่อให้เจาะกลุ่มผู้บริโภคได้โดยตรง

เพราะในปัจจุบัน ผู้บริโภคเปิดรับสารผ่านสื่อดิจิทัลกันมากขึ้น และยังสอดรับกับนโยบายของบริษัทในการเป็น Digital Transformation

เพื่อตอกย้ำศักยภาพความเป็นผู้นำในการเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำด้านเทคโนโลยีที่ครอบคลุมอสังหาริมทรัพย์และการอยู่อาศัยอย่างเต็มรูปแบบในไทย

และก้าวสู่การเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงในระดับโลก ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าแคมเปญนี้จะช่วยเพิ่มยอดขายและเพิ่มความเชื่อมั่นในแบรนด์แสนสิริที่มีในกลุ่มลูกค้าได้อย่างแน่นอน”

ส่องตลาดคอนโดฯ หาดใหญ่ ยังสดใส ล่าสุดแสนสิริ Sold Out “ดีคอนโด กาญจนวนิช” มูลค่ากว่า 2,000 ลบ. พร้อมจ่อคิวเปิดโครงการใหม่เร็วๆ นี้

$
0
0

ส่องตลาดคอนโดฯ หาดใหญ่ ยังสดใส ล่าสุดแสนสิริ Sold Out “ดีคอนโด กาญจนวณิช” มูลค่ากว่า 2,000 ลบ. พร้อมจ่อคิวเปิดโครงการใหม่เร็วๆ นี้

DEqiOadU0AE0zOc

ส่องอสังหาฯ หาดใหญ่ ตลาดคอนโดฯ ยังไปได้ ล่าสุดแสนสิริโชว์ผลงานปิดโครงการ ดีคอนโด กาญจนวณิช” (dcondo Kanchanavanich) โอนทั้ง 1,268 ยูนิต มูลค่าโครงการ กว่า 2,000 ล้านบาท

ที่มาของความสำเร็จเพราะจุดแข็งแบรนด์ดีคอนโด และทำเลศักยภาพ ใกล้เช็นทรัล เฟสติวัล และแม็คโคร เพียง 1.3 กม. รวมถึงดีไซน์โดดเด่นในการออกแบบที่มีแรงบันดาลใจจากเส้น grid line หรือผังเมือง ผสานกับสถาปัตยกรรมได้อย่างลงตัว ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เข้าถึงมุมดีๆ ในการใช้ชีวิต”

พร้อมจ่อคิวเปิดโครงการใหม่เร็วๆ นี้ เผยหาดใหญ่ดีมานด์สูง อุปสงค์สะสมตอบรับถึง 85% คาดอนาคตตลาดอสังหาฯ หาดใหญ่จะขยายตัวสูงขึ้นตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเมือง รับอานิสงส์โมโนเรลหาดใหญ่และมอเตอร์เวย์สายหาดใหญ่-สะเดา ที่จะเสร็จปี’ 64

K.Somkiat

นายสมเกียรติ หงษ์ทรัพย์ภิญโญ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่หาดใหญ่ ยังเติบโตต่อไปได้ โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมยังคงมีดีมานด์สูง

พิสูจน์ได้จากผลงานล่าสุดที่บริษัทปิดการขายโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ “ดีคอนโด กาญจนวณิช” (dcondo Kanchanavanich) จำนวนทั้งสิ้น 1,268 ยูนิต มูลค่าโครงการกวา 2,000 ล้านบาท ที่

มาของความสำเร็จมาจากทำเลศักยภาพที่ใกล้เช็นทรัล เฟสติวัล และแม็คโคร เพียง 1.3 กิโลเมตรเท่านั้น รวมถึงส่วนผสมของแบรนด์ ด้านการออกแบบและดีไซน์ตัวอาคารที่มีเอกลักษณ์

ภายใต้คอนเซปท์ “เข้าถึงมุมดีๆ ในการใช้ชีวิต” ที่โดดเด่นแตกต่าง พร้อมกับส่วนกลางขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือยาวถึง 70 เมตร รวมทั้งบริการหลังการขายในมาตรฐานแสนสิริ

00

“ตลาดคอนโดมิเนียมทำเลหาดใหญ่มีดีมานด์สูง อุปสงค์สะสมตอบรับถึง 85% ทั้งนี้สำหรับแนวโน้มตลาดอสังหาฯ พื้นที่หาดใหญ่ คาดว่าจะเร่งขยายตัวสูงขึ้นได้ในอีก 3-4 ปีข้างหน้า จากแผนการพัฒนาโครงการคมนาคมของรัฐ

ทั้งโครงการขนส่งมวลชนด้วยระบบราง หรือ “รถไฟฟ้าโมโนเรล” เป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว ที่จะเข้ามาเชื่อมระหว่างใจกลางเมืองหาดใหญ่กับสนามบิน สายคลองหวะ – สถานีรถตู้ มีระยะทาง 12.54 กิโลเมตร คาดแล้วเสร็จปี 2564

โครงการทางเลี่ยงเมืองหาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยระบายการจราจรจากตัวเมืองออกไปยังพื้นที่รอบนอกได้ดีกว่าปัจจุบัน อีกทั้งยังช่วยลดความหนาแน่นของปริมาณรถที่ไม่ต้องการเข้าไปยังตัวเมืองหาดใหญ่ด้วย คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2564-2565

รวมถึงมอเตอร์เวย์สายหาดใหญ่-สะเดา ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมขนส่งที่รองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เนื่องจากเป็นการเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไทยกับมาเลเซีย

โดยจะเปิดประมูลปี 2561 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี รวมทั้งยังมีแผนการพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ คาดจะแล้วเสร็จปี 2573 เพื่อยกระดับให้ท่าอากาศยานหาดใหญ่เป็น “ประตูสู่ภาคใต้สุดของไทย” และสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 10 ล้านคนต่อปี

16_02-dCondo-Kanchanavanich_007

“ดีคอนโด กาญจนวณิช” ปัจจุบันลูกค้าโอนและเข้าพักอาศัยเต็ม 100% แล้ว โดยโครงการได้รับการตอบรับที่ดีตั้งแต่เริ่มเปิดจนกระทั่งปิดการชาย

เนื่องจากลูกค้าเชื่อมั่นในแบรนด์และบริการหลังการขายของแสนสิริที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจาก พลัส พร็อพเพอร์ตี้รวมถึงการดูแลสภาพโครงการให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้แสนสิริยังใส่ใจทุกรายละเอียดโดยคำนึงถึงความปลอดภัยและความสะดวกสบายในโครงการ ด้วยการออกแบบทุกฟังก์ชั่นในโครงการ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด

โดยแสนสิริวางเป้าพัฒนาโครงการใหม่ให้ดีขึ้นต่อเนื่อง เพื่อให้โครงการตอบโจทย์ทุกด้านของการอยุ่อาศัย (Fill your Life with Good)

ซึ่งโครงการใหม่ที่จะพัฒนาขึ้นที่หาดใหญ่นี้ก็จะพัฒนาโครงการให้ตอบรับความต้องการของลูกค้าทุกด้าน ให้มีชีวิตที่ลงตัวที่สุด” นายสมเกียรติ กล่าวทิ้งท้าย

คอนโด Taka Haus เอกมัย 12 ใกล้รถไฟฟ้า BTS เอกมัย

$
0
0

คอนโด Taka Haus เอกมัย 12 ใกล้รถไฟฟ้า BTS เอกมัย

TAKA HASU

แสนสิริ เตรียมเปิดตัวโครงการTaka Haus เอกมัย 12 คอนโดใหม่ ใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้า BTS เอกมัย และ รร.นานาชาติเอกมัย

ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 50,000 บาท คลิก >> https://goo.gl/s6vjFS

ชื่อโครงการ  Taka Haus เอกมัย 12
เจ้าของโครงการ  แสนสิริ / Sansiri
เนื้อที่ทั้งหมด  n/a
จำนวนตึก  n/a
จำนวนชั้น  n/a
จำนวนห้อง  n/a
ลักษณะห้องและขนาดห้อง  n/a
ที่จอดรถทั้งหมด  n/a
จำนวนลิฟท์  n/a
โซน  เอกมัย
ขนส่งสาธารณะ  รถไฟฟ้า BTS เอกมัย
รถโดยสารที่ผ่าน  n/a
ที่ตั้ง  ซอยเอกมัย 12 ถนนสุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.
กำหนดการ  เปิดให้ลงทะเบียน
ปีที่สร้างเสร็จ  n/a
ราคา  n/a
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม  n/a
ค่าส่วนกลางและกองทุน  n/a
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
  • วิลล่า มาร์เก็ต
  • เจ อเวนิว
  • บิ๊กซี เอกมัย
  • เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เอกมัย
  • Habba Thailand
  • สน.ทองหล่อ
  • รพ.สุขุมวิท
  • รร.นานาชาติเอกมัย
สิ่งอำนวยความสะดวก  n/a
จุดเด่นของโครงการ  “Taka Haus เอกมัย 12″ คอนโดใหม่ ใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้า BTS เอกมัย และ รร.นานาชาติเอกมัย

ที่ตั้งโครงการ

ซอยเอกมัย 12 ถนนสุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.

RGT

คลิกที่นี่ เพื่อลงทะเบียน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1685

Website : https://www.sansiri.com

Viewing all 300 articles
Browse latest View live