แสนสิริ จับมือญี่ปุ่น ผนึกโตคิว กรุ๊ป รุกอสังหาฯ ไทย เตรียมเปิดตัวโครงการแรก “TAKA HAUS” มูลค่า 2,000 ลบ. ก.ย. นี้ แผนระยะยาวเล็งปั้นเมือง พัฒนา Community ร่วมกันในอนาคต

สองบริษัทยักษ์ใหญ่ไทย – ญี่ปุ่น แสนสิริ ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรระดับโลก จับมือ บริษัท โตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและให้บริการระบบรถไฟในโตเกียว การพัฒนาเมืองและอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงกิจการโรงแรม รีสอร์ท และธุรกิจอื่นๆ

ผนึกความร่วมมือพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้บริษัทร่วมทุน สิริ ทีเค วัน (Siri TK One Company Limited) พลิกโฉมพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยรับความต้องการกลุ่มลูกค้าไทย – ต่างชาติ เตรียมเปิดตัวโครงการแรก “taka HAUS” (ทากะ เฮาส์) ทำเลสุขุมวิท – เอกมัย มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท

ตอบรับไลฟ์สไตล์ที่อยู่อาศัยของทั้งคนไทยและญี่ปุ่นกันยายนนี้ เผยแผนระยะยาว ศึกษาความเป็นไปได้จากความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาทาวน์ในญี่ปุ่นของโตคิวที่สอดคล้องกับโมเดลความสำเร็จของ T77 ของแสนสิริ เล็งปั้นเมือง พัฒนา Community ร่วมกันในอนาคต

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ (Chief Operating Officer) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมมือกับ บริษัท โตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด ประเทศญี่ปุ่น

ซึ่งนับเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและให้บริการระบบรถไฟในเขตชานเมืองโตเกียว การพัฒนาเมืองและอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงกิจการโรงแรม รีสอร์ท และธุรกิจอื่นๆ

และบริษัท สหโตคิว คอร์ปอเรชัน จำกัด ร่วมกันก่อตั้งบริษัท สิริ ทีเค วัน (Siri TK One Company Limited) ในสัดส่วน กลุ่มแสนสิริถือหุ้น 70% กลุ่มโตคิวฯ ถือหุ้นสัดส่วน 29%

และบริษัท สหโตคิวฯ ถือหุ้นสัดส่วน 1% เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม นำร่องเปิดตัวโครงการแรกในชื่อ “taka HAUS” (ทากะ เฮาส์) มูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท

“การเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ระหว่างแสนสิริ และ โตคิว กรุ๊ป เริ่มต้นจากการที่สองบริษัทมีการดำเนินธุรกิจภายใต้ปรัชญาที่ตรงกัน คือการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า

ด้วยจุดแข็งในการดำเนินธุรกิจของ แสนสิริ ภายใต้กลยุทธ์ “Complete Your Living Experience” และโตคิว กรุ๊ป สโลแกน “Toward a Beautiful Age” ที่ไม่เพียงพัฒนาแค่ที่อยู่อาศัย แต่มุ่งมั่นสร้างไลฟ์สไตล์ที่ดีให้กับลูกค้าควบคู่กัน

โดยการศึกษาพฤติกรรมลูกค้าอย่างละเอียดในทุกๆ ด้าน (Customer Insight) ตั้งแต่การคิดผ่านมุมมองของลูกค้า ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคที่หลากหลายและรวบรวมข้อมูล ว่าลูกค้าแต่ละกลุ่มมีความต้องการในการอยู่อาศัยอย่างไร

ทำให้เรามั่นใจว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการมอบรูปแบบการใช้ชีวิตเมืองที่เป็นไปได้อย่างไม่สิ้นสุด นับเป็นการสร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยบนมาตรฐานที่เหนือระดับ

และพลิกโฉมการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในระดับสากล ที่จะตอบรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยทั้งกลุ่มลูกค้าคนไทยและต่างชาติ

โดยโครงการภายใต้การร่วมทุน บริษัทจะพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในชื่อ”taka HAUS” (ทากะ เฮาส์) ในทำเลเอกมัย 12 มูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวในช่วงเดือนกันยายนนี้” นายอุทัย กล่าว

นอกจากการดำเนินธุรกิจภายใต้ปรัชญาที่ตรงกันแล้ว ความร่วมมือในครั้งนี้ บริษัท โตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) ยังเล็งเห็นศักยภาพของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)

ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรของประเทศไทยที่ได้รับการยอมรับมาตลอดระยะเวลากว่า 33 ปี ซึ่งแสนสิริมีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อตอบรับทุกความต้องการของลูกค้า ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

โดยปัจจุบัน บริษัทได้ก้าวสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรของประเทศไทยที่ได้รับการยอมรับในด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยประเภท

บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ โฮมออฟฟิศ และคอนโดมิเนียมคุณภาพทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ด้วยจำนวนโครงการกว่า 318 โครงการ จำนวนที่อยู่อาศัยกว่า 86,000 ยูนิต ที่ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศกว่า 17 จังหวัด

รวมทั้งการพัฒนาโครงการในตลาดต่างประเทศ 9 Elvaston Place ใจกลางกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นโครงการนำร่องของแสนสิริในการแสดงศักยภาพสู่สากล

นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับความเชื่อมั่นในศักยภาพการดำเนินงานในการขยายไปยังธุรกิจอื่นๆ เพื่อช่วยส่งเสริมธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของแสนสิริ

อาทิ การรุกธุรกิจคอมมูนิตี้ รีเทล ภายใต้ชื่อ “ฮาบิโตะ มอลล์” ซึ่งเป็นการเปิดให้ร้านค้าและร้านอาหารเช่าพื้นที่ในปีที่ผ่านมา รวมถึงบริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจตัวแทนซื้อ – ขาย – เช่า อสังหาริมทรัพย์และบริหารงานขายโครงการ

รวมถึงบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่พักอาศัยและบริหารจัดการทรัพยากรอาคาร ซึ่งได้รับการยอมรับและเชื่อถือด้านการให้บริการและให้คำปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างครบวงจร ทั้งจากภาครัฐและเอกชนมากว่า 20 ปี

บริษัทยังมองถึงความร่วมมือระยะยาวในอนาคต จากการที่โตคิว เป็นบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่น มีฐานกลุ่มธุรกิจที่กว้างขวางที่ไม่เพียงแค่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์

ความร่วมมือในครั้งนี้ยังนับเป็นการประสานให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดร่วมกัน เป็นการผนวกพลังระหว่างพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างประเทศที่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กันและกันอย่างยั่งยืน

อาทิ การที่โตคิว คอร์ปอเรชั่น มีฐานลูกค้าที่จะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจในการผลักดันแบรนด์ “แสนสิริ” ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้าชาวญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น

รวมถึงความร่วมมือจากการนำโครงการที่อยู่อาศัยของแสนสิริไปโรดโชว์ที่ประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญคือ ภายใต้ปรัชญาการดำเนินธุรกิจที่ตรงกันในด้านการนำเสนอไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย

โดยโตคิว กรุ๊ป มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาทาวน์ อาทิ โครงการ Tokyu Tama Denen –Toshi ซึ่งมีพื้นที่กว่า 5,000 เฮกตาร์ ในเขตเขา Tama ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของโตเกียว ซึ่งเชื่อมต่อสี่เมืองใหญ่

ทั้ง Kawasaki, Yokohama, Machida และ Yamato โดยอยู่ห่างจากศูนย์กลางโตเกียว เพียงแค่ 15 – 30 กิโลเมตร ในเมืองมีประชากรประมาณ 600,000 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2012)

โดยปัจจุบันนับเป็นโครงการพัฒนาเขตเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นที่ดำเนินการโดยบริษัทเอกชน รวมถึงยังมีโปรเจคต์การพัฒนา “ย่านชิบูย่า” ให้เป็น Entertainment City แลนด์มาร์คแห่งความบันเทิงที่ครบวงจรมากขึ้นในอนาคต

ขณะที่แสนสิริมีประสบการณ์ความสำเร็จจากการพัฒนา “T77″ A Good Town for Good Life ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ชีวิตเมืองบนสุขุมวิทในการอยู่อาศัยครบวงจร บนเนื้อที่ 50 ไร่ กลางสุขุมวิท 77

ที่รวมไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ที่พร้อมสรรพไปด้วยคอนโดมิเนียมรวมทั้งสิ้น 6 โครงการจากแสนสิริ 1 โครงการทาวน์เฮาส์ รวมถึงอพาร์ทเมนท์ระดับพรีเมียมจากมั่นคงเคหะการ 1 ไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้มอลล์แห่งแรกจากแสนสิริ

และยังมีโรงเรียนนานาชาติ อย่าง Bangkok International Preparatory and Secondary School (บางกอกเพรพ) ที่รวมเป็นการยกระดับการใช้ชีวิตที่ครบครัน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของชาวสุขุมวิทสำหรับคนไทยและชาวต่างชาติ

รวมทั้งเคยพัฒนาพื้นที่ย่านรามอินทราให้กลายเป็นศูนย์กลางแห่งการอยู่อาศัยมาแล้วจากความสำเร็จของการก่อตั้งโรงเรียนสาธิตพัฒนาให้เป็นโรงเรียนชั้นนำของกรุงเทพฯ และเป็นจุดดึงดูดให้ลูกค้าซื้อโครงการบ้านเดี่ยวของแสนสิริในทำเลรอบข้าง

“อนาคตกรุงเทพฯ อาจจะคล้ายเมืองใหญ่ทั่วโลก คือเป็น Cluster/District หรือเป็นเมืองย่อยในเมืองใหญ่ ดังนั้นการเลือก Cluster ที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งที่สำคัญทั้งในแง่การใช้ชีวิตและการลงทุน

สิ่งอำนวยความสะดวกจะไม่รวมศูนย์อยู่แค่กรุงเทพชั้นในเหมือนปัจจุบัน แต่จะกระจายออกไปยังพื้นที่อยู่อาศัยโดยรอบโดยการจับกลุ่มของเมืองย่อยหรือ Cluster จะเป็นไปตามสถานีรถไฟฟ้า

แทนที่จะเป็นตามเขตปกครองหรือตามถนนเหมือนในอดีต โดยกรุงเทพฯ ยังอยู่ในช่วงระหว่างการขยายโครงข่ายคมนาคมที่ทำให้เชื่อว่ายังมีความต้องการที่อยู่อาศัยที่อยู่ทั้งตามแนวรถไฟฟ้าและอยู่ในเขตชุมชนต่างๆอีกมากในอนาคต

ซึ่งแสนสิริและโตคิวมองเห็นโอกาสและความเป็นไปได้สำหรับแผนความร่วมมือในอนาคตเพื่อมอบ Community ที่อยู่อาศัย ความบันเทิง โรงเรียนและสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจรเพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่ไม่จำเป็นต้องเกาะกลุ่มความเจริญแค่ในกรุงเทพฯ ชั้นในเพียงอย่างเดียวในอนาคต” นายอุทัย กล่าว

ด้านนายโทชิยูคิ โฮชิโนะ กรรมการ และเจ้าหน้าที่ผู้จัดการบริหารอาวุโส/ผู้จัดการบริหารทั่วไป สำนักงานใหญ่ธุรกิจต่างประเทศ บริษัท โตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า

โตคิว คอร์ปอเรชั่น เริ่มดำเนินธุรกิจจากการก่อสร้างทางรถไฟสาย Meguro-kamata (เมกุโระ-คานาตะ) ในปี 2465 ในเดือนมีนาคม 2560

กลุ่มโตคิวมีบริษัทอยู่ภายใต้การดำเนินงานจำนวนทั้งสิ้น 221 บริษัท และบริษัทร่วมทุนอีก 8 แห่ง ภายใต้การดำเนินงานของ โตคิว คอร์เปอเรชั่น มีเครือข่ายธุรกิจครอบคลุมหลายภาคส่วน ตั้งแต่คมนาคม ไปจนถึงอสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีกและโรงแรม

ประวัติศาสตร์อันยาวนานของ โตคิว คอร์ปอเรชัน เป็นบริษัทแม่ของกลุ่มบริษัทโตคิวที่จะบรรลุถึง 100 ปีเร็วๆนี้ และทางบริษัทให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในการเพิ่มพูนคุณภาพชีวิตของชาวเมืองในประเทศญี่ปุ่น

ผ่านทางการพัฒนาเครือข่ายคมนาคมควบคู่ไปกับอสังหาริมทรัพย์ โดยการลงทุนและพัฒนาประกอบไปด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกด้านค้าปลีก โรงเรียนและโรงพยาบาล

ซึ่งล้วนนำมาซึ่งความสะดวกและความน่าอยู่ตลอดตามเครือข่ายทางรถไฟของโตคิว และได้นำมาซึ่งชื่อเสียงของเมืองที่บริษัทได้สร้างขึ้นว่า เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุด

นอกจากนั้น โตคิว คอร์ปอเรชัน ยังได้นำเสนอโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ Dresser ตามแนวคิด “ความคิดสร้างสรรค์” “ความน่าอยู่” และ “ความปลอดภัย”

“ในประเทศไทย โตคิว คอร์ปอเรชัน ได้เข้าร่วมทุนกับบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่ปี 2524 และได้รังสรรค์ผลงานมากมาย ตั้งแต่ ถนนสายหลักๆ สะพาน อาคารที่ทำงาน โรงเรียน โรงงาน

และล่าสุด ได้มีการส่งมอบการก่อสร้างทางรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ที่แล้วเสร็จ สำหรับธุรกิจค้าปลีก บริษัท ห้างสรรพสินค้า บางกอก-โตคิว จำกัด ได้เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปในกลุ่มลูกค้า ตั้งแต่เริ่มเปิดห้างแรกในปี 2528

และต่อมาได้มีการเปิดสาขาที่ 2 ในย่านศรีนครินทร์ ที่ ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ในปี 2557 นอกจากนี้ โตคิว คอร์ปอเรชันและสหกรุ๊ปยังได้ร่วมกันก่อตั้ง บริษัทร่วมทุน สห โตคิว คอร์ปอเรชัน ขึ้น และได้เข้าบริหารอาคารอพาร์ตเมนต์พร้อมบริการ “HarmoniQ Residence Sriracha” สำหรับชาวญี่ปุ่นและครอบครัว เมื่อปี 2559

และก็เป็นที่น่าพอใจ ที่โครงการ “HarmoniQ Residence Sriracha” ได้มีลูกค้าเต็มมาโดยตลอดด้วยชื่อเสียงของโครงการที่เป็นที่กล่าวขาน” นายโฮชิโนะกล่าว

ผู้บริหารระดับสูงของโตคิว คอร์ปอเรชัน กล่าวต่อไปว่า เรานับถือความร่วมมือทางยุทธศาสร์กับแสนสิริ ที่เราเข้าใจดีว่าเรามีค่านิยมและวิสัยทัศน์ที่คล้ายคลึงกัน

เรารู้ดีว่าประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงเป็นการดีที่มีผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีประสบการณ์อย่างแสนสิริมาดูแล

ซึ่งนับเป็นความท้าทายของโตคิวในการช่วยเพิ่มพูนคุณค่าเพื่อนำมาซึ่งสิ่งแวดล้อมที่สะดวกสบาย ปลอดภัยและสวยงาม

“นอกเหนือจากนั้น ประเทศไทยยังเป็นจุดศูนย์รวมของระเบียงเศรษฐกิจหลายด้านด้วยกัน และยังเป็นศูนย์กลางของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งทำให้เกิดมีอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เกิดขึ้นด้วยการผลักดันของรัฐบาล

ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรุงเทพมหานคร ที่จะยังเป็นจุดดึงดูดผู้คนมาสู่จุดศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจนี้

และเป็นประเด็นที่จะนำมาซึ่งอุปสงค์ทางด้านที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืนต่อไป” นายโฮชิโนะ กล่าวสรุป

นอกเหนือจากนั้นความพยายามในด้านการค้นคว้าและพัฒนาร่วมกันในความสัมพันธ์นี้ โตคิวเองก็พร้อมที่ใช้พลังด้านธุรกิจที่มีอยู่ในการสนับสนุนโครงการให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้าชาวญี่ปุ่น

โดยผ่านทาง Tokyu Livable ความเชี่ยวชาญในการขาย ให้เช่า และการให้คำปรึกษาทางด้านอสังหาริมทรัพย์ จะช่วยขยายศักยภาพทางธุรกิจของเราในกลุ่มลูกค้าชาวญี่ปุ่น

เพื่อผลประโยชน์สูงสุดร่วมกันและเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ยั่งยืน สำหรับเรา นี่คือความร่วมมือทางธุรกิจระยะยาวที่จะเพิ่มพูนมูลค่าสำหรับทั้งสององค์กรต่อไปอย่างยั่งยืน

SIRI โชว์ผลประกอบการครึ่งแรกปี 60 รายได้-กำไรพุ่ง โกยรายได้ 15,784 ล้านบาท กำไร 1,316 ล้านบาท โตเกือบ 60% ลุยโรดโชว์นักลงทุนในเอเชีย สิงคโปร์-มาเลเซีย ส.ค.- ก.ย. นี้  ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล หรือ Interim dividend 50% ของกำไรต่อหุ้น

บริษัท แสนสิริ  จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล หรือ Interim dividend 50% ของกำไรต่อหุ้น จากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2560 (วันที่ 1 ม.ค. – 30 มิ.ย. 2560) แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.05 บาทต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 25 สิงหาคม 2560 และจะกำหนดจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 8 กันยายน 2560  นี้

ส่งสัญญาณผลประกอบการที่ดีต่อเนื่องในอนาคต เผยผลประกอบการรอบ 6 เดือน โกยกำไร 1,316 ล้านบาท รายได้รวม 15,784 ล้านบาท หรือคิดเป็น 46% ของเป้าหมายรายได้รวมที่ตั้งไว้ในปีนี้ 34,000 ล้านบาท

แจงผลการดำเนินงานโดยเฉพาะไตรมาส 2 เติบโตโดดเด่น มีรายได้ 8,660 ล้านบาท โตขึ้นจากไตรมาสแรก 21.6% กำไร 804 ล้านบาท โตขึ้นจากไตรมาสแรก 57.2%

ขณะที่ยอดขายรวมปัจจุบัน 18,700 ล้านบาท คิดเป็นเกือบ 50% จากเป้าหมายล่าสุดที่ปรับใหม่เป็น 40,000 ล้านบาท

เผยแผนธุรกิจเตรียมเปิดพรีเซลล์บ้านเดี่ยวโครงการใหม่ เศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ ประชาชื่น 2 มูลค่าโครงการ 2,800 ล้านบาท วันที่ 30 ก.ย.นี้

พร้อมเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนทั้งในและนอกประเทศ ลุยโรดโชว์ สิงคโปร์ – มาเลเซีย ช่วงเดือนส.ค. – ก.ย. 60

นายเศรษฐา  ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า บริษัทมีผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2560 เป็นที่น่าพอใจ มีกำไรสุทธิจำนวน 1,316 ล้านบาท

โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล (Interim dividend) แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท คิดเป็นอัตราเงินปันผล 50% ของกำไรต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 25 สิงหาคม 2560

และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 8 กันยายน 2560 โดยการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงปัจจัยพื้นฐานที่ดีและผลประกอบการที่ดีในอนาคต

สำหรับผลการดำเนินงานในรอบ 6 เดือนปี 2560 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,316 ล้านบาท มีรายได้รวมถึง 15,784 ล้านบาท หรือคิดเป็น 46% ของเป้าหมายรายได้รวมที่ตั้งไว้ในปีนี้ 34,000 ล้านบาท จากการทยอยโอนส่งมอบคอนโดมิเนียม

อาทิ โครงการคอนโดมิเนียม 98 Wireless (ไนน์ตี้เอทไวร์เลส), ดีคอนโด นิม รวมถึงการโอนที่อยู่อาศัยคุณภาพให้แก่ลูกค้าตามแผนงานอย่างต่อเนื่อง

โดยล่าสุดบริษัทยังจ่อคิวโอนโครงการ โมริ เฮาส์ (Mori HAUS) คอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “HAUS” โครงการที่ 2 ที่ตอบรับไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ชิดธรรมชาติกลางเมืองใหญ่

โดยกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์  HAUS นั้น ส่วนใหญ่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงรวมถึงทั้ง 2 โครงการที่เปิดขายยังมีชาวญี่ปุ่นให้ความสนใจจำนวนมาก

“ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีผลประกอบการที่น่าพอใจ โดยเฉพาะผลการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสที่ 2 ที่มีกำไรสุทธิ 804 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 57.2% จากไตรมาสแรกที่มีกำไรสุทธิ 512 ล้านบาท บริษัทมีรายได้รวม 8,660 ล้านบาท

เติบโตขึ้น 21.6% จากไตรมาสก่อนที่มีรายได้รวม 7,124 ล้านบาท รายได้จากการขายเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 31.2% จาก 5,726 ล้านบาทในไตรมาสแรก เพิ่มขึ้นเป็น 7,512 ล้านบาท

โดยรายได้หลักมาจากการทยอยส่งมอบคอนโดมิเนียมโครงการต่างๆ แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ยอดขายปัจจุบัน ณ วันที่ 9 สิงหาคม 2560 บริษัทมียอดขายรวมกว่า 18,700 ล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 50% จากเป้าหมายล่าสุดที่มีการปรับใหม่เป็น 40,000 ล้านบาทแล้ว” นายเศรษฐา กล่าว

สำหรับแผนการเปิดตัวโครงการในช่วงเดือนกันยายนนี้ บริษัทเตรียมเปิดการขายโครงการ “taka HAUS” (ทากะ เฮาส์) มูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท

ภายใต้การพัฒนาของ บริษัท สิริ ทีเค วัน (Siri TK One Company Limited) ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่าง บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และบริษัท โตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด ประเทศญี่ปุ่น

รวมถึงเปิดตัวบ้านเดี่ยวโครงการใหม่ “เศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ ประชาชื่น 2” มูลค่าโครงการ 2,800 ล้านบาท โดยเตรียมจัดงานพรีเซลล์ เปิดการขายอย่างเป็นทางการวันที่ 30 กันยายนนี้ เพื่อตอบรับความต้องการบ้านเดี่ยวในทำเลกรุงเทพฯ โซนเหนืออย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายนนี้ บริษัทยังมีแผนรุกเดินหน้าโรดโชว์สร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนทั้งในประเทศและประเทศในแถบเอเชีย ทั้งสิงคโปร์และมาเลเซีย

โดยจะเข้าร่วมงาน Thailand Focus ในวันที่ 31 สิงหาคม และโรดโชว์ที่สิงคโปร์วันที่ 20 – 22 สิงหาคม รวมทั้งโรดโชว์ที่มาเลเซียวันที่ 14 – 15 กันยายน 2560 เพื่อให้นักลงทุนทราบถึงแนวทางการทำธุรกิจ

การสร้างแบรนด์และกลยุทธ์การทำการตลาดที่แข็งแกร่งเพื่อตอบรับทุกความต้องการของลูกค้า รวมถึงการรุกการทำการตลาดในตลาดต่างประเทศเพื่อขยายฐานรายได้และสร้างผลกำไรที่เติบโตขึ้นอีกในอนาคต

คอนโด เดอะ ไลน์ สาทร The Line Sathorn

เตรียมพบกับโครงการใหม่ “THE LINE สาทร“ คอนโด High Rise จาก บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง ไนน์ทีน จำกัด บนทำเลศักยภาพใจกลางเมือง ติดถนนสาทรเหนือ และ BTS สุรศักดิ์ ใกล้โรงแรม Mode สาทร, รร.เซนต์หลุยส์, รร.กรุงเทพคริสเตียน, รร.อัสสัมชัน คอนแวนต์ ใกล้สถานทูตสหภาพเเมียนมา, สถานเอกอัครสมณทูตวาติกัน และ อาคารสำนักงานชั้นนำมากมาย แล้วพบกันเร็วๆ นี้

ที่ตั้งโครงการ

ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กทม.

พิกัด Googel : 13.719733, 100.522404

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1685

Website : https://www.sansiri.com/

บ้านเดี่ยว เศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ-ประชาชื่น 2 Setthasiri Chaengwattana-Prachachuen 2

เศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ-ประชาชื่น 2 จาก บมจ.แสนสิริ บ้านเดี่ยวโครงการใหม่ ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองประปา ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เดินทางสะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีศรีรัช และ ทางพิเศษอุดรรัถยา

รายล้อมด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน ใกล้อิมแพ็ค เมืองทองธานี, รร.บีเอฟเอส, รร.เซนต์ฟรังซิสเซเวียร์, รร.พระหฤทัยดอนเมือง, โรบินสัน ศรีสมาน, เทสโก้ โลตัส, เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ, กรมทหารสือสาร และ ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน อาทิ คลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สวนสาธารณะ, Access Card Control, กล้องวงจรปิด และ ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. เปิด Pre-Sale 30 ก.ย.นี้ ราคาเริ่มต้น 15-30 ล้านบาท*

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใครคลิก >> https://goo.gl/T9kx2v

ที่ตั้งโครงการ

ถนนเลียบคลองประปา ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

พิกัด : 13.926975, 100.561278

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-201-3999

Website : https://sansiri.com/

EP.905 รีวิว บ้านเดี่ยว บุราสิริ วัชรพล Burasiri Watcharapol

สวัสดีผู้อ่าน Homenayoo ทุกคนค่ะ วันนี้เราขอพาไปชม โครงการ บุราสิริ วัชรพล จาก แสนสิริ ที่ตั้งโครงการอยู่บนถนนสุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม. ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์, ถนนวงแหวนรอบนอกกาญจนาภิเษก, The Crystal, CentralFestival Eastville, CDC

บุราสิริ วัชรพล เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้นหลังใหญ่พร้อมนวัตกรรม “Cooliving Designed Home” หรือนวัตกรรมบ้านอยู่สบายจากแสนสิริ บนพื้นที่โครงการขนาด 94 ไร่ จำนวนบ้าน 242 ยูนิต มีแบบบ้านให้เลือก 5 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 50 – 190 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย เริ่มต้น 175 – 393 ตร.ม. ฟังก์ชั่นบ้าน 4 – 5 ห้องนอน, 3 – 5 ห้องน้ำ, นวัตกรรม Elder Care Design Solution สำหรับผู้สูงอายุ และ ที่จอดรถ 2 – 4 คัน ตอนนี้พร้อมให้เข้าชมโครงการแล้ว

สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการครบครัน คลับเฮ้าส์ออกแบบตามคอนเซ็ป Tree House หรือบ้านต้นไม้ พร้อม สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สวนสาธารณะขนาดใหญ่ 2 แห่งในโครงการ, พื้นที่สีเขียวทั่วโครงการ, เข้า-ออกโครงการระบบ Access Card Control, กล้องวงจรปิด และระบบความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 10 – 18 ล้าน*

รายละเอียดตัวโครงการจะเป็นอย่างไร ไปชมกันเลยค่ะ

ที่ตั้งโครงการ

ตรงข้ามสำนักงานเขตสายไหม ถนนสุขาภิบาล 5 เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร

พิกัด google map : 13.894923, 100.656626

ตัวโครงการ บุราสิริ วัชรพล นั้นตั้งอยู่ติดถนนสุขาภิบาล 5 เป็นถนนที่เชื่อมต่อออกไปได้หลายเส้นทาง มีซอยเล็กซอยน้อยให้ลัดเลาะเยอะ ถนนเส้นหลักที่อยู่ใกล้ๆจะมีถนนสายไหม รามอินทรา พหลโยธิน นอกจากนี้จุดเด่นสำคัญของโครงการคืออยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์และมอเตอร์เวย์ ทำให้เข้าเมืองออกเมืองได้สะดวกนั่นเอง

สำหรับคนไม่ใช้รถ โครงการ บุราสิริ วัชรพล ตั้งอยู่ติดถนนสุขาภิบาล 5 โดยจุดเด่นของตัวโครงการคือตั้งอยู่ห่างจากทางขึ้นรถไฟฟ้าสายสีเทา สถานีวัชรพล ประมาณ 6.3 กม. แผนคือสร้างเสร็จปี พ.ศ. 2564 หรือประมาณ 4 ปีหลังจากนี้นั่นเอง โดยจากสถานีวัชรพลวิ่งตรงไปถึงสถานีทองหล่อได้

เมื่อรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มส่วนต่อขยายจากหมอชิตไปยังสะพานใหม่และคูคตสร้างเสร็จ คาดว่าเปิดให้บริการ ไตรมาส1 ปี 2563 โดยสถานีที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดคือ สถานีสายหยุด ก็จะเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพฯ ของผู้อยู่อาศัยย่านสะพานใหม่แและโซนโครงการได้ดีขึ้นอีกมาก นอกจากนี้ที่ถนนรามอินทราโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี วิ่งผ่าน สามารถเชื่อมต่อ ไปยังรถไฟฟ้าสายสีเขียว, สีแดงและสีส้มได้อีกด้วย

สิ่งอำนวยความสะดวก โครงการ บุราสิริ วัชรพล ทางเข้าออกจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสำนักงานเขตสายไหม ใกล้ๆมีตลาดออเงิน, ตลาดวงศกร, Big C Market ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้คนในโครงการได้ดี เนื่องจากอยู่ใกล้ตลาดออเงินในระยะใกล้เดินถึงสบายๆ และเป็นโซนชุมชนบนถนนสุขาภิบาล 5 ที่มีร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกข้างทางเยอะพอสมควร

ข้อดีคือโครงการอยู่ในทำเลที่เป็น Community ใกล้เมือง โซนทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ที่ขับรถขึ้นทางด่วนไปแป๊ปเดียวก็ถึงห้างและแหล่งช้อปปิ้งมากมาย ไม่ว่าจะเป็น The Crystal, Central East Ville, CDC เป็นต้น

นอกจากนี้ห้างที่ขยับออกมาหน่อยก็มีทั้ง Central รามอินทรา, Fashion Island และ The Promenade ที่อยู่บนถนนรามอินทรา และฟิวเจอร์รังสิต, Zpell และเซียร์รังสิตบนถนนพหลโยธิน ที่ค่อนข้างครบครันและสะดวก แล้วแต่ชอบว่าจะเดินห้างไหน อีกความสะดวกของกลุ่มคนที่ทำงานกับสนามบินหรือเดินทางไปไหนมาไหนบ่อยคือโครงการอยู่ใกล้สนามบินดอนเมือง ในระยะขับรถถึงประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น

สถานที่สำคัญใกล้โครงการ

• ตลาดออเงิน 500 ม.
• Big C market 1.3 กม.
• ตลาดวงศกร 5.2 กม.
• ตลาดยิ่งเจริญ 9.3 กม.
• เดอะ คริสตัล 10.38 กม.
• CDC 10.92 กม.
• เซ็นทรัล เฟสฯ อีสต์วิลล์ 11.46 กม.

• ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ 10.6 กม.
• สนามบินดอนเมือง 13.3 กม.
• สนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ 14 กม.

• ร.ร.สารสาสน์วิเทศสายไหม 3.7 กม.
• นานาชาติกีรพัฒน์ 6.44 กม.
• ร.ร.นายเรืออากาศ 9.4 กม.
• โรงเรียนนานาชาติกรุงเทพ 14.47 กม.
• SISB Schools 15.24 กม.
• ม.รังสิต 18.9 กม.

• ร.พ.สายไหม 5.2 กม.
• ร.พ.เซ็นทรัลเยนเนอรัล 5.8 กม.
• ร.พ.สินแพทย์ 6.86 กม.
• ร.พ.ภูมิพลอดุยเดช 11 กม.

สำหรับคนใช้รถ โครงการ บุราสิริ วัชรพล อยู่ติดถนนสุขาภิบาล 5 ฝั่งมุ่งหน้าไปถนนสายไหม โดยถนนสุขาภิบาล 5 นี้จะเชื่อมกับถนนรามอินทรา, สายไหม, วัชรพล โดยอยู่ห่างจากห้าแยกวัชรพลประมาณ 4 กม. ทำเลมีลักษณะเป็นชุมชนที่มีประชากรอยู่ค่อนข้างหนาแน่น ส่งผลให้เวลาเข้าออกเช้าเย็นมีการจราจรติดขัดบ้างค่ะ

สำหรับการเข้าเมือง เนื่องจากโครงการตั้งอยู่บนถนนสุขาภิบาล 5 ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อออกไปได้หลายเส้นทาง มีซอยเล็กซอยน้อยให้ลัดเลาะเยอะ ถนนเส้นหลักที่อยู่ใกล้ๆจะมีถนนรามอินทรา, สายไหม, พหลโยธิน, วิภาวดี, และนอกจากนี้ยังมีทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์เชื่อมต่อกับวงแหวนกาญจนาภิเษกที่มีมอเตอร์เวย์ ทำให้เข้าเมืองออกเมืองได้สะดวกนั่นเอง

จะเห็นว่าจากโครงการจากบนถนนสุขาภิบาล 5 จะอยู่ใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์เลยนะคะ จากแมพด้านบนจะเห็นว่าโครงการอยู่ห่างจากทางด่วนประมาณ 2.8 กิโลเมตร หรือระยะขับรถแค่ประมาณ 10 นาทีเท่านั้น ถือว่าสะดวกมากทีเดียว

สมมติอย่างเราจะเข้าเมืองไปทองหล่อเอกมัยนี่ขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ไปประมาณ 20 นาทีก็ถึงค่ะ ถือว่าสะดวกเลย แต่ต้องเข้าใจว่าถนนสุขาภิบาล 5 เป็นโซนชุมชนที่อุดมสมบูรณ์ มีหมู่บ้านจัดสรรเยอะ ทำให้ปริมาณคนปริมาณรถเยอะ ตอนเช้าและเย็นเวลาคนเข้าโรงเรียนคนไปทำงาน กับเวลาเลิกงานหรือกลับจากโรงเรียนก็ต้องเผื่อเวลาบนท้องถนนกันไว้ด้วยนะคะ

แยกหรือถนนสำคัญใกล้โครงการ

• ห้าแยกวัชรพล 4 กม.
• แยกโรงเรียนนายเรืออากาศ 9 กม.
• แยกธูปะเตมีย์ 12.2 กม.
• ถนนสายไหม 4.5 กม.
• วงแหวนกาญจนาภิเษก 4.6 กม.
• ถนนวัชรพล 4.9 กม.
• ถนนรามอินทรา 6.4 กม.
• ถนนพหลโยธิน 8.3 กม.
• ถนนวิภาวดีรังสิต 12.3 กม.

วันนี้เรามีภาพการเดินทางจากรถมาให้ชมกันค่ะ เส้นทางการเดินทางตามลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทางจาก ถนนสุขาภิบาล 5 → ตรงมาห้าแยกวัชรพล → ตรงมาประมาณ 4 กิโลเมตร → จะเจอทางเข้าโครงการ บุราสิริ วัชรพล อยู่ทางขวามือแล้วค่ะ

เราเริ่มเดินทางจากถนนสุขาภิบาล 5 มุ่งหน้าไปห้าแยกวัชรพล

ห้าแยกวัชรพล เป็นแยกที่ถนนสุขาภิบาล 5 วิ่งมาเจอกับถนนวัชรพลนะคะ ที่จริงๆมันควรจะเป็นสี่แยก แต่ที่แยกนี้มันจะมีถนนวิ่งไปซอยร่วมมิตรพัฒนา ที่เต็มไปด้วยหมู่บ้านจัดสรรมากมายอยู่ด้วย เลยเรียกกันว่าห้าแยกวัชรพลนั่นเองค่ะ จากห้าแยกนี้เราก็ตรงผ่านไปบนถนนสุขาภิบาล 5 ต่อไปนะคะ

ถนนสุขาภิบาล 5 เป็นถนน สี่เลน แบ่งรถวิ่งเข้าออกเมืองฝั่งละสองเลน ตรงมาจะเห็นจุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา- อาจณรงค์ (ป้ายสีน้ำเงิน) อยู่ทางซ้ายมือ ส่วนเราขึ้นสะพานลอยตรงไปเรื่อยๆเลยค่ะ

ลงมาจากสะพานยกระดับ ซ้ายมือจะเป็น Big C Market สุขาภิบาล 5 ถือเป็นห้างและแหล่งความสะดวกที่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุด โดยอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1.3 กม. เท่านั้น ช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับโครงการได้ดีค่ะ เดินมาซื้อของได้พร้อมออกกำลังกายไปในตัว

เราตรงลอดใต้ทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ไป

ตรงไปจะเห็นปั๊มปตท.อยู่ทางซ้ายมือ และป้ายสำนักงานเขตสายไหม ก็แสดงว่าใกล้ถึงโครงการแล้วค่ะ เพราะสำนักงานเขตสายไหมจะอยู่ตรงข้ามโครงการเลย

ตรงมาอีกหน่อยเราจะเห็นสำนักงานเขตสายไหมอยู่ฝั่งขวามือ เราก็เลี้ยวซ้ายเข้าโครงการ บุราสิริ วัชรพล ได้เลยรอบๆโครงการจะเป็นอย่างไร ไปดูกันค่ะ

รอบโครงการ

รอบๆโครงการ บุราสิริ วัชรพล รอบๆที่ดินโครงการจะเป็นอาคารที่พักอาศัยแนวราบ (หมู่บ้าน 2 ชั้น, อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น) เกือบทั้งหมดและที่ดินเปล่าซะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ โดยทางทิศเหนือและใต้จะมีหมู่บ้านบ้านเดี่ยว 2 ชั้นอยู่ โดยทิศใต้เป็นหมู่บ้านเศรษฐสิริ บ้านเดี่ยว 2 ชั้นหลังใหญ่และ ทิศตะวันออกเป็นโครงการ B-Avenue อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ซึ่งทั้งสองโครงการนี้ใช้ถนนภาระจำยอมร่วมกันกับโครงการบุราสิริ

ส่วนทางเข้าออกโครงการอยู่ทางฝั่งทิศตะวันออก ติดถนนสุขาภิบาล 5 ตรงข้ามโครงการเป็นสำนักงานเขตสายไหม และป้ายรถเมล์ มีตลาดออเงินอยู่ใกล้ๆ เดินออกมาหาอะไรกินกันได้สบายๆ พร้อมกับแถวๆโครงการมี Big C สุขาภิบาล 5 อยู่ และมีร้านอาหารอีกหลายร้าน เรียกได้ว่าเป็นโซนที่หาของกินได้ง่ายค่ะ แท้กซี่ก็มีผ่านไปมาบ่อยๆ

ทางเข้าออกโครงการ บุราสิริ วัชรพล จะอยู่ติดถนนสุขาภิบาล 5 เป็นถนนสี่เลนซึ่งเชื่อมต่อระหว่างถนนสายไหมและถนนรามอินทราแบบนี้

จุดสังเกตเวลาหาโครงการนี่ง่ายมากค่ะ ทางเข้าออกโครงการ บุราสิริ วัชรพล จะอยู่ตรงข้ามสำนักงานเขตสายไหมเลยแบบนี้

ซึ่งก็จะมีป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้ามโครงการ ซึ่งจากฝั่งตรงข้ามโครงการนี้จะวิ่งไปทางถนนใหญ่รามอินทรา

ทางเดินเท้าหน้าโครงการกว้าง เดินสบาย ข้างทางปลูกไม้พุ่ม และมีป้ายโครงการ บุราสิริ วัชรพล ที่อยู่ร่วมกันกับอีก 2 โครงการคือ B-Avenue, เศรษฐสิริ

เข้าไปดูในโครงการกันต่อเลยค่ะ

โครงการ บุราสิริ วัชรพล จะใช้ถนนภาระจำยอมร่วมกันกับอีก 2 โครงการคือ B-Avenue, เศรษฐสิริ

ฝั่งซ้ายมือก็จะมีป้ายโครงการทั้ง 3 โครงการติดอยู่

โครงการแรกที่เป็นโครงการเพื่อนบ้านของโครงการ และเป็นโครงการที่อยู่ติดถนนสุขาภิบาล 5 ที่สุดคือโครงการ B-Avenue อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ที่ภายในมีทั้งร้านอาหารอย่าง ชาบู นางใน อาคารสำนักงาน โรงเรียนสอนพิเศษ และร้านค้าต่างๆ

ตรงเข้าไปด้านในจะเป็นโครงการ เศรษฐสิริ และโครงการ บุราสิริ วัชรพล

เป็นถนนคอนกรีต 4 เลน และปลูกต้นไม้ทั้งไม้ยืนต้นและรั้วไม้พุ่มเอาไว้เป็นแนวดูเรียบร้อยดี รถเข้าโครงการฝั่งซ้าย ออกโครงการฝั่งขวา

เข้ามาด้านในถนนจะมีเกาะต้นไม้ตรงกลางเพิ่ม ซึ่งนอกจากจะช่วยแบ่งทางเข้าโครงการฝั่งซ้าย ออกโครงการฝั่งขวาแล้ว ในอนาคตเมื่อต้นไม้โตขึ้นกว่านี้ ถนนก็จะกลายเป็นซุ้มต้นไม้สีเขียวให้ความรู้สึกร่มรื่น

เข้ามาจะเจอวงเวียนต้นไม้ใหญ่ ซึ่งจะมีซุ้มใหญ่ของโครงการเศรษฐสิริอยู่ฝั่งซ้าย และโครงการ บุราสิริ วัชรพล อยู่ฝั่งขวา

ซุ้มโครงการเศรษฐสิริ เป็นซุ้มใหญ่สไตล์ไทยโมเดิร์น อยู่ข้างซุ้มโครงการ บุราสิริ เลยแบบนี้ โดยโครงการเศรษฐสิริ เป็นโครงการบ้าน 2 ชั้นหลังใหญ่ เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้โครงการบุราสิริมากที่สุด ทางฝั่งซ้ายมือของซุ้มโครงการ

ด้านหน้าซุ้มทางเข้าโครงการ บุราสิริ ที่เรามาสำรวจกันวันนี้ค่ะ ซุ้มทางเข้าโครงการจะอยู่ห่างจากถนนสุขาภิบาล 5 ประมาณ 400 เมตร

ขวามือของโครงการบุราสิริเป็นโครงการ B-Avenue อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น และถนนภาระจำยอมออกไปถนนสุขาภิบาล 5

ตัวโครงการ

ซุ้มโครงการ บุราสิริ วัชรพล เป็นซุ้มขนาดใหญ่ สร้างบรรยากาศให้รู้สึกเสมือนเข้าสู่โลกที่อุดมสมบูรณ์ด้วยผืนป่า ซุ้มทางเข้าขนาดใหญ่ที่เปรียบเหมือน Gateway จะส่งต่อให้เดินเข้า สู่กลางธรรมชาติ ลักษณะของร่มเงาต้นไม้สูงใหญ่ มาใช้ในการออกแบบ ใช้เส้นสายสื่อถึงกิ่งก้านที่แผ่ขยายออกไปของต้นไม้ และเจาะช่องด้านบน รูปสามเหลี่ยมให้แสงลอดผ่าน เปรียบเสมือนเงาจากใบไม้ตกกระทบกับผืนดินเป็นจุดเริ่มต้นของการ “Reforest” โดยซุ้มโครงการแบ่งทางเข้าฝั่งซ้าย ออกฝั่งขวา

สองฝั่งของทางเข้าโครงการออกแบบมาในคอนเซ็ป Forest Wall ที่ใช้แท่งเหล็กกลมสีแชมเปญเข้ากับซุ้มโครงการ ซึ่งเรียงระดับลดหลั่นกันไปโดยใช้เส้นโค้งที่จำลองเส้นสายธรรมชาติ และจัดสวนมาเขียวชอุ่มและร่มรื่นสวยงามทั้งสองฝั่งข้างทาง

ถนนสวนซุ้มโครงการเป็นคอนกรีตสแตมป์สีเทาดำ

ทางเข้าและออกของซุ้มโครงการจะแบ่งย่อยออกเป็นฝั่งละสองช่องค่ะ อย่างที่เห็นคือฝั่งทางเข้าโครงการ จะแบ่งเป็นช่องลูกบ้าน และ ช่องผู้มาติดต่อ พื้นส่วนซุ้มทางเข้าออกโครงการจะเป็นคอนกรีตสแตมป์นะคะ

ที่แบ่งช่องก็เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาลูกบ้านนั่นเอง เพราะช่องซ้ายลูกบ้านจะเข้าออกผ่านรั้วไม้กระดกด้วย Access card

ส่วนช่องขวาใกล้ป้อมรปภ. ตรงกลางเป็นช่องของผู้มาติดต่อ ซึ่งรปภ. จะได้สอบถาม ขอแลกบัตร และจดบันทึกได้ง่าย พร้อมกล้อง CCTV ที่ซุ้มทางเข้าออกเพื่อบันทึกภาพหน้าคนขับและป้ายทะเบียน

ผ่านซุ้มโครงการแล้วจะมีรั้วโครงการกันอีกชั้น

ถนนในโครงการเป็นถนนคอนกรีตกว้าง 16 เมตร สองฝั่งข้างทางปลูกต้นไม้มาให้ร่มรื่น

เข้ามาด้านในสองฝั่งถนน ล้อมรอบด้วยเนินหญ้า เล่นระดับ สลับไปมา โดยวาง natural swale รอบเนินเหล่านี้ เป็นพื้นที่รับน้ำตามธรรมชาติก่อนไหลลงสู่คลอง ใช้พืชพรรณที่ช่วยส่งเสริมบรรยากาศของพื้นที่ชุ่มน้ำ เช่น เตย กระจูด มะกอกน้ำ เป็นต้น

สำนักงานขายหรือ Sales Gallery จะอยู่ขวามือ โดยจะอยู่ใกล้ๆกับบ้านตัวอย่างทั้ง 5 แบบของโครงการ

สำนักงานขายของโครงการเปิดทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็นนะคะ ภายในสำนักงานขาย จัดเป็นโซนที่นั่งพักผ่อนที่เตรียมชุดที่นั่งรับรองไว้หลายชุด และมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายคอยบริการให้ข้อมูลและพาชมโครงการค่ะ

มีชุดที่นั่งภายในสำนักงานขายมาให้หลายชุด

Cooliving Designed Home

จุดเด่นของบ้านในโครงการ บุราสิริ วัชรพล นี้ คือนวัตกรรมบ้านเย็นอยู่สบาย “Cooliving Designed Home” ซึ่งระบบนี้จะประกอบไปด้วยการทำงานของหลายฟังก์ชั่นเพื่อช่วยการถ่ายเทอากาศและลดอุณหภูมิภายในบ้าน

ได้แก่ “Solar Attic” ระบบพัดลมและช่องระบายอากาศใต้หลังคา โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อช่วยลดความร้อนใต้หลังคาทำให้ภายในตัวบ้านเย็นลง และลดการสะสมของเชื้อโรค “Breeze Panel” ช่องระบายลมในตัวบ้านช่วยถ่ายเทและระบายอากาศภายในตัวบ้าน

“Shading Screen” ระแนงกันแดดที่ออกแบบโดยดูจากทิศทางของบ้านเช่น ทิศเหนือหรือใต้ จะรับแสงอาทิตย์และลมต่างกัน จึงออกแบบให้เหมาะกับแต่ละทิศ “Texture Wall” ผนังบ้านที่มี Texture ช่วยลดความร้อนจากแสงแดดที่ตกกระทบพื้นผิว รวมถึง ” UV Shield Color” หรือสีกันความร้อน ทั้งหมดนี้คือนวัตกรรมที่ช่วยถ่ายเทอากาศ และลดอุณหภูมิภายในบ้าน ทำให้ทุกมุมของบ้านอยู่สบาย

แบบบ้าน

โครงการมีแบบบ้านตัวอย่างให้เลือกครบทั้ง 5 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 50 – 190 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย เริ่มต้น 175 – 393 ตร.ม. ฟังก์ชั่นบ้าน 4 – 5 ห้องนอน, 3 – 5 ห้องน้ำ, นวัตกรรม Cooliving Designed
Home และ Elder Care Design Solution สำหรับผู้สูงอายุ และที่จอดรถ 2 – 4 คัน วันนี้ก่อนเราพาไปชมบ้านตัวอย่าง 2 แบบ เรามีแบบบ้านแบบอื่นๆมาให้ชมกันก่อนค่ะ

แบบบ้าน Sequoia (ซีคัวญา เป็นชื่อป่าขนาดใหญ่ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย) ขนาดพื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. สร้างบนที่ดินขนาด 50.4 – 99.2 ตร.ว. บ้าน 3 ห้องนอนบน พร้อม 1 ห้องนอนชั้นล่างปรับเป็นห้องทำงานได้ รองรับครอบครัวขยายในอนาคต ครัวกว้างเหมาะสำหรับครอบครัวซึ่งชอบทำอาหาร ห้องนอนมี Walk in closet ขนาดใหญ่

แบบบ้าน Sequoia ชั้น 1 และ 2

แบบบ้าน Savannah (สะวันนา เป็นทุ่งหญ้าขนาดใหญ่อยู่ในเขตร้อน) ขนาดพื้นที่ใช้สอย 325 ตร.ม. ห้องนอนชั้นล่าง 2 ห้องเพื่อรองรับการใช้งานครอบครัวใหญ่พิเศษฟังก์ชั่นเพื่อผู้สูงอายุและจอดรถในร่มได้ 4 คัน บ้านโปร่งโล่งโอ่โถงด้วยเพดานสูง 2.9 เมตร ห้องน้ำใน Master Bedroom เป็น Function แบบ His/Her (มีอ่างล้างมือ 2 อ่างแยกใช้งานได้พร้อมๆกัน) และมีอ่างอาบน้ำ ห้อง Living ชั้นบนเป็นพื้นที่ครอบครัวและแบ่งเป็นพื้นที่ห้องพระหรือใช้งานอื่นๆได้ด้วย

แบบบ้าน Savannah ชั้น 1 และ 2

แสนสิริ ผนึก โตคิว กรุ๊ป เปิดตัว “taka HAUS” (ทากะ เฮาส์) มูลค่า 2,000 ลบ. เตรียมเปิด Global Launch พร้อมกันใน 6 ประเทศ 16-17 กย.นี้ ตั้งเป้ายอดขายช่วงพรีเซลล์ 1,000 ล้านบาท  วางเป้าหมายกลุ่มลูกค้าไทยและต่างชาติ 55 : 45 เปอร์เซ็นต์

แสนสิริผนึกโตคิว กรุ๊ป เปิดตัว “taka HAUS” (ทากะ เฮาส์) เอกมัย 12  มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท คอนโดมิเนียมแบบ Low-rise ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Stay Unique, Stay Diverse” จำนวนเพียง 269 ยูนิตให้ความเป็นส่วนตัวสูง

พร้อม Facility ตอบรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่แตกต่างและหลากหลายจับกลุ่มคนไทยและต่างชาติ บนทำเลเอกมัยที่ตอบรับทุกการใช้ชีวิตที่แตกต่างอย่างลงตัว

เผยเอกมัย ถูกจัดอยู่ในโซนสุขุมตอนกลางด้วยศักยภาพของทำเลที่มีซอยเชื่อมสู่ทองหล่อ เข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกซึ่งกันและกันได้อย่างครบครัน ขณะที่ราคาประเมินที่ดินโต 50% เทียบเท่าทองหล่อ

และอัตราผลตอบแทนต่อการลงทุน 5-6% ต่อปี เป็นทำเลที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดต่างชาติโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น เตรียมเปิด Global Launch เปิดขายอย่างเป็นทางการพร้อมกันใน 6 ประเทศ

ไทย-ญี่ปุ่น-ฮ่องกง-จีน-สิงคโปร์-ไต้หวัน วันที่ 16-17 ก.ย.นี้ในราคาเริ่มต้น 4.49 ล้านบาท วางเป้าหมายกลุ่มลูกค้าไทยและต่างชาติ 55 : 45 เปอร์เซ็นต์

และตั้งเป้าปิดยอดขายช่วงพรีเซลล์ประมาณ 1,000 ล้านบาท หรือเกินกว่า 50% จากจำนวนยูนิต

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ (Chief Operating Officer) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า

บริษัทจะเปิดตัวโครงการ “taka HAUS” (ทากะ เฮาส์) ซึ่งนับเป็นคอนโดมิเนียมโครงการล่าสุดภายใต้แบรนด์ “HAUS” (เฮาส์) ที่มีแนวคิดการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ตอบรับไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าคนเมืองที่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ชิดธรรมชาติกลางเมืองใหญ่

โดยพัฒนาโครงการภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Urban Resort Condominium’ ให้ทุกๆวันเป็นวันพักผ่อนได้ในแบบที่เป็นคุณ โดยที่ผ่านมาบริษัทประสบความสำเร็จจากการพัฒนาคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ HAUS ไปแล้ว 2 โครงการ

โครงการแรกคือ ฮาสุ เฮาส์ ภายใต้แนวคิดแบบ Slow Living หรือการใช้ชีวิตอย่างละเมียดละไม และ โมริ เฮาส์ ภายใต้แนวคิด Trees of Life แบบ Eco-Living หรือการใช้ชีวิตที่อิงอาศัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ในทำเลสุขุมวิท 77 หรือ T77 ของแสนสิริ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้าชาวต่างชาติ โดยเฉพาะลูกค้าชาวญี่ปุ่น ฮ่องกงและสิงคโปร์

เนื่องจากตอบโจทย์การอยู่อาศัย บรรยากาศดี เงียบสงบร่มรื่นด้วยคลองธรรมชาติที่ทอดตัวผ่านพื้นที่สีเขียว สามารถเดินทางเข้าเมืองสู่ย่านธุรกิจได้อย่างสะดวก

สำหรับคอนโดมิเนียม ทากะ เฮาส์ จำนวน 269 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Stay Unique, Stay Diverse” ตอบการใช้ชีวิตที่ไม่หยุดนิ่งในแบบที่เป็นคุณ

พัฒนาภายใต้ บริษัท สิริ ทีเค วัน (Siri TK One Company Limited) ซึ่งเป็นบริษัทภายใต้ความร่วมมือระหว่าง  บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรระดับโลกและบริษัท โตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด ประเทศญี่ปุ่น

ซึ่งนับเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและให้บริการระบบรถไฟในเขตชานเมืองโตเกียว การพัฒนาเมืองและอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงกิจการโรงแรม รีสอร์ท และธุรกิจอื่นๆ และบริษัท สหโตคิว คอร์ปอเรชัน จำกัด

ในสัดส่วน กลุ่มแสนสิริถือหุ้น 70% และกลุ่มโตคิวฯ ถือหุ้นสัดส่วน 30% ร่วมกันพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม

โดยบริษัทเตรียมเปิด Global Launch เปิดขายอย่างเป็นทางการพร้อมกันใน 6 ประเทศ ไทย-ญี่ปุ่น-ฮ่องกง-จีน-สิงคโปร์-ไต้หวัน ในวันที่ 16 – 17 กันยายนนี้

ในราคาเริ่มต้น 4.49 ล้านบาท พร้อมโปรโมชั่นรับส่วนลดสูงสุดกว่า 50,000 บาท พร้อมลุ่นทริปไปฮาวายและสกีรีสอร์ท

“คำว่า “ทากะ” มีความหมายถึง “เหยี่ยว” ซึ่งตามความเชื่อญี่ปุ่นสื่อถึงสิ่งที่ดี ความเป็นสิริมงคลในการใช้ชีวิต นับเป็นหนึ่งใน 3 ความฝันที่ดีในช่วงปีใหม่สำหรับการเริ่มต้นใช้ชีวิต สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของโครงการทากะ เฮาส์

ซึ่งรักอิสระ คล่องแคล่ว ปราดเปรียว ทันสมัยชอบทำกิจกรรมที่หลากหลายเริ่มแยกจากครอบครัวออกมาอยู่เอง ใช้ชีวิตท่ามกลางแหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน

นอกจากนี้รูปแบบโครงการยังมีความโดดเด่น ทั้งฟังก์ชั่นการอยู่อาศัย ที่มียูนิต เลย์เอาท์ให้เลือกมากกว่า 30 แบบตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่หลากหลาย จำนวนยูนิตพักอาศัยเพียง 269 ยูนิต

ให้ความเป็นส่วนตัวสูงเทียบกับ Facility ภายในโครงการที่สามารถตอบรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่แตกต่างและหลากหลายเทียบเท่าคอนโดมิเนียมแบบไฮท์ไรซ์

โดยนับเป็นครั้งแรกของคอนโดมิเนียมแสนสิริที่มีการนำ ENDLESS JET POOL หรือ สระว่ายน้ำทวนกระแส สำหรับการออกกำลังกายในน้ำ UNDERWATER TREADMILL หรือลู่วิ่งใต้น้ำและ BIKE SIMULATOR เข้ามาใช้ในโครงการ

นอกเหนือไปจากสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย สวนและมุมพักผ่อนแบบเอาท์ดอร์พร้อม Wifi Internet ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

พร้อมหน่วยงาน Sansiri Security Inspection (SSI) คุมเข้มความปลอดภัย ที่มีอยู่ในทุกคอนโดมิเนียมตามมาตรฐานการพัฒนาโครงการของแสนสิริ

นอกจากนี้ Ground Floor ยังประกอบด้วย ล้อบบี้พร้อมห้องสมุด,  เอนเตอร์เทนเมนต์ รูม, Co-Kitchen, เกมส์ รูม และมุมพักผ่อนเก๋ๆแบบ Tree House ที่มีกระจกโดยรอบเพื่อให้กลมกลืนกับธรรมชาติอีกด้วย

พร้อมก้าวสู่ PropTech การเป็นบริษัท Property Technology เต็มรูปแบบรายแรกของไทย โดยนำนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ เข้ามาใช้ในโครงการเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า

โดยโครงการทากะ เฮาส์ จะมีการนำระบบ แสนสิริ โฮม เซอร์วิส แอปพลิเคชัน, สมาร์ท ล้อคเกอร์, EV Charging Station, Home Automation และ Alexa (Echo Dot By Amazon) เข้ามาใช้ภายในโครงการ” นายอุทัย กล่าว

โครงการคอนโดมิเนียม ทากะ เฮาส์ ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 63 หรือเอกมัย 12 (ซอยเจริญใจ) ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิทและถนนเพชรบุรีตัดใหม่ที่สามารถเดินทางเข้าออกสู่หลากหลายเส้นทางได้อย่างสะดวก

อาทิ ถนนพระรามเก้า และถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา รวมทั้งยังอยู่ใกล้สถานที่ตอบรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตต่างๆ ทั้ง โรงพยาบาลชั้นนำโดยรอบ อาทิ โรงพยาบาลสมิติเวช

โรงเรียนนานาชาติชั้นนำ อาทิ โรงเรียนนานาชาติ บางกอกเพรพ (Bangkok Prep) คอมมูนิตี้ มอลล์ อาทิ Nihonmura Mall, เจ อเวนิว, คาเฟ่, บาร์, ซุปเปอร์มาเก็ต, ร้านอาหาร

และแหล่ง Hangout ซึ่งเป็นที่นิยมมากมาย รวมทั้งยังสามารถเดินทางเข้าออกได้สะดวกสบายเนื่องจากมีทางทะลุเข้าออกได้หลากหลายเส้นทาง

“ซอยเอกมัย นับเป็นทำเลที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ โดยที่ผ่านมาแสนสิริประสบความสำเร็จในการเปิดขายโครงการ CEIL by Sansiri (ซีล บาย แสนสิริ) จำนวน 374 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาทในทำเลนี้มาแล้ว

ทั้งนี้ เอกมัย มีจุดเด่นในการเป็นทำเลที่ขนานไปกับทองหล่อและอยู่ห่างกันเพียง 500 เมตร มีซอยเชื่อมกันเป็นระยะๆ ทั้งทองหล่อซอย 10, ซอยแจ่มจันทร์ เอกมัยจึงถูกพ่วงเข้าไว้กับทองหล่อมาโดยตลอด

ทำให้ทั้งสองย่านนี้จึงมีข้อได้เปรียบ และสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกซึ่งกันและกันได้ จึงมีการใช้ประโยชน์หลากหลายกว่าซอยสุขุมวิทอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งศักยภาพของที่ดินในทำเลดังกล่าว

ราคาประเมินที่ดินในย่านเอกมัยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนใกล้เคียงกับสุขุมวิทตอนต้น อาทิ ซอยนานา ในขณะที่อัตราการเติบโตของราคาประเมินที่ดินก็สูงถึง 50% เทียบเท่าทองหล่อ

นอกจากนี้ยังมีตัวแปรที่สำคัญอีกหลายอย่าง อาทิโครงการจากภาครัฐและเอกชน เน้นย้ำความเป็นสุขุมวิทตอนกลาง และเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่การเป็นสุขุมวิทตอนต้นให้มากขึ้น

อาทิ โครงการพัฒนาและปรับปรุงฟื้นฟูย่านทองหล่อ-เอกมัย โดย UDDC หนึ่งในพื้นที่นำร่องของการพัฒนาและปรับปรุงฟื้นฟูย่าน ซึ่งศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UDDC) ทำร่วมกับกรุงเทพมหานคร

โดยมองว่าทำเลทองหล่อ-เอกมัยมีศักยภาพในหลายด้าน ทั้งการเป็นจุดเชื่อมต่อกับกรุงเทพชั้นกลางและชั้นนอก รวมไปถึงการเป็นพื้นที่ที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หลากหลาย

โดยแนวทางของการพัฒนาและปรับปรุงฟื้นฟูย่านทองหล่อ-เอกมัย คือการปรับปรุงโครงข่ายถนนตรอกซอยต่างๆ ให้สามารถเชื่อมต่อกันได้มากขึ้น กำหนดพื้นที่ที่เน้นการส่งเสริมการพัฒนา เพิ่มพื้นที่สีเขียว ปรับปรุงคลองให้มีทัศนียภาพที่ดีและเดินได้สะดวกขึ้น

ซึ่งในอนาคต เราจะได้เห็นทองหล่อ-เอกมัยในบทบาทของย่านธุรกิจสร้างสรรค์ที่นำเทรนด์ของเมือง ย่านที่อยู่อาศัยหนาแน่นและแหล่งงานนานาชาติ รวมไปถึงสามารถเดินได้สะดวกและมีระบบ feeder รองรับอีกด้วย” นายอุทัย กล่าว

นอกจากนี้จากการเปลี่ยนแปลงของเมืองและการขยายตัวของเส้นสุขุมวิทที่ขยายตัวออกมาทางเอกมัยมากขึ้น ยังส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาและค่าเช่าที่อยู่อาศัย

โดยการเปลี่ยนแปลงของราคาคอนโดมิเนียมรีเซลล์เติบโตเฉลี่ย 6 – 10% ต่อปี และราคาปล่อยเช่าในทำเลเอกมัยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 25,000-55,000 บาทต่อเดือน

ขณะที่ผลตอบแทนในการลงทุนอยู่ที่ประมาณ 5-6% ต่อปี ซึ่งนับว่าราคาคอนโดมิเนียมในทำเลนี้ยังเหมาะสมในการซื้อเพื่อการลงทุน

ดังนั้น “เอกมัย” จึงกลายเป็นทำเลที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่โฟกัสชาวต่างชาติเป็นหลัก โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้เช่าเกรดพรีเมียมสำหรับกลุ่มนักลงทุน

“บริษัทตั้งเป้าปิดยอดขายโครงการทากะ เฮาส์ ในช่วง Presale มากกว่า 50% หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับยอดขายโครงการคอนโดมิเนียมของแสนสิริซึ่งทำได้แล้ว 11,800 ล้านบาท

บริษัทจะสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 12,800 ล้านบาท หรือคิดเป็น 50% จากเป้าหมายยอดขายคอนโดมิเนียมที่วางไว้ 25,000 ล้านบาท

โดยการเปิดตัวโครงการ ทากะ เฮาส์ รวมทั้งโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ เพื่อตอบรับความต้องการอยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าในปีนี้ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี

ตามแผนธุรกิจที่วางไว้รวมทั้งมั่นใจว่าบริษัทจะสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมาย” นายอุทัย กล่าว

The Line สาทร คอนโดใหม่ใจกลางเมือง ภายใต้แนวคิด Simplicity in Everything  0 เมตร จาก BTS สุรศักดิ์ พร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ เพื่อให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้น

ต่อยอดความสาเร็จจากโครงการลักษณะเดียวกันที่มีทาเลที่ตั้งโครงการติดกับสถานีรถไฟฟ้า คือ โครงการ PYNE by Sansiri ซึ่งเป็นโครงการที่พิสูจน์ว่า โครงการคอนโดมิเนียมที่ห่างจาก BTS ในระยะ 0 เมตร จะมียอดการเติบโต (Growth Rate) ที่น่าพึงพอใจ

โครงการเดอะ ไลน์ สาทร เป็นโครงการภายใต้แบรนด์ เดอะ ไลน์ โครงการที่ 7 ที่ถูกพัฒนาขึ้นในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ถือว่าเป็นโครงการเดอะ ไลน์ ที่ใกล้รถไฟฟ้ามากที่สุด (โครงการเดอะไลน์อีก 6 โครงการ ได้แก่ เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101, เดอะ ไลน์ พหลฯ – ประดิพัทธ์, เดอะ ไลน์ อโศก – รัชดา, เดอะ ไลน์ ราชเทวี, เดอะ ไลน์ จตุจักร – หมอชิต และเดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71 สามารถเยี่ยมชมรายละเอียดโครงการทั้งหมดได้ที่เว็บไซต์ www.sansiri.com/theline)

แสนสิริ ร่วมทุนกับ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จากัด (มหาชน) หรือ BTS เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ภายใต้ชื่อ บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง วัน ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 100 ล้านบาท ในสัดส่วนการถือหุ้น 50:50 ด้วยวิสัยทัศน์ร่วมกันในการสร้างสีสันและปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมือง

จากความสาเร็จของโครงการเดอะ ไลน์ จตุจักร – หมอชิต ซึ่งเป็นโครงการแรก ภายใต้แบรนด์เดอะ ไลน์ ที่เปิดขายในปีพ.ศ. 2558 โดยสามารถปิดการขายห้องชุด

ทั้งหมดจานวน 841 ยูนิต รวมมูลค่าทั้งโครงการเกือบ 6,100 ล้านบาท ได้หมดภายในวันเดียว แสนสิริและ BTS จึงร่วมกันพัฒนาโครงการต่อไปในอนาคต ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือโครงการเดอะ ไลน์ สาทร

สาทร เป็นที่รู้จักในฐานะย่านศูนย์กลางเศรษฐกิจ (Central Business District หรือ CBD) แห่งแรกๆ ของกรุงเทพมหานคร และถือเป็นทาเล “เสือนอนกิน” ที่ทากาไรให้แก่ นักลงทุน โดยพิจารณาจากการประเมินของกรมธนารักษ์ที่ประเมินมูลค่าที่ดินซึ่งเพิ่มจาก ปีพ.ศ. 2558 ถึง 2559 ในอัตราเติบโตร้อยละ 25

คุณกฤษณ์ เตชะสัมมา รองผู้จัดการฝ่ายฯ และคุณธนาพงศ์ วรเนตร ผู้จัดการส่วนการตลาด บริษัท แสนสิริ จากัด (มหาชน) เปิดเผยจุดเด่นของโครงการว่า

Smart Location

โครงการเดอะ ไลน์ สาทร ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีสุรศักดิ์ 0 เมตร บริเวณรอบโครงการเดอะ ไลน์ สาทร มีสิ่งอานวยความสะดวกระดับ High-end มากมาย ล้อมรอบไปด้วยสถานที่สาคัญอย่าง โรงเรียน โรงแรมหรู ตึกสานักงานชื่อดัง ร้านอาหาร และสถานทูต

Smart Living

Smart Service

เมื่อทุกวินาทีมีคุณค่า เดอะ ไลน์ สาทร ขอนาเสนอ “น้องแสนดี” หุ่นยนต์ส่งของที่จะมาเป็นผู้ช่วยในการประหยัดเวลา และลดความยุ่งยากให้แก่ผู้พักอาศัยทุกท่าน ด้วยบริการรับส่งของถึงหน้าประตูห้อง โดยน้องแสนดีจะช่วยรับของจากล็อบบี้ ขึ้นลิฟต์ และส่งสัญญาณแจ้งไปยังสมาร์ทโฟนของผู้พักอาศัยเมื่อนาของมาส่งถึงหน้าประตูแล้ว

Smart Access

ลดความยุ่งยากและภาระจากการพกบัตรหลายๆ ใบ เพียงเชื่อมต่อสัญญาณการอนุมัติเปิดกับสมาร์ทโฟน ผู้พักอาศัยทุกท่านก็สามารถเข้า-ออกคอนโดฯ จากทางเข้าหลักสู่ที่จอดรถแบบ Mechanical Parking ประตูล็อบบี้ และลิฟต์ส่วนที่พักอาศัย

โดยไม่ต้องพกบัตร หรือในกรณีที่ผู้พักอาศัยไม่ได้อยู่ในห้อง แต่นัดแขกมาที่ห้อง ผู้พักอาศัยก็สามารถส่ง Digital Key ให้กับเพื่อนผ่านทางสมาร์ทโฟนเพื่อเข้าห้องได้ โดยสามารถกาหนดระยะเวลาการใช้งานของ Digital Key เช่น ใช้ได้แค่ครั้งเดียว หรือใช้ได้เฉพาะเดือนนี้ เป็นต้น

Smart Facilities

อำนวยความสะดวกผู้พักอาศัยทุกท่าน ด้วยการจองพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ผ่านทาง Sansiri Home Service Application รวมถึงการใช้ระบบเซนเซอร์ที่คอยนับจานวนคนใช้บริการในห้องฟิตเนส ผู้พักอาศัยจะสามารถทราบได้ว่า ช่วงเวลาที่ต้องการใช้ ณ ขณะนั้น มีผู้ใช้บริการเยอะหรือไม่

Smart Relaxation

เมื่อผู้พักอาศัยเหนื่อยล้าจากการทางาน เดอะ ไลน์ สาทร มีบริการ “เก้าอี้นวดไฟฟ้า OSIM” เก้าอี้นวดไฟฟ้าเพื่อสุขภาพชื่อดัง ซึ่งสามารถนวดบริเวณที่ปวดเมื่อยได้อย่างแม่นยาและเสมือนมือสัมผัส ด้วยการสแกนร่างกายของผู้ใช้บริการ ผ่านเทคโนโลยี “Human 3D Technology” โดยผู้ใช้บริการสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมการนวดใหม่ๆ ได้ในอนาคตอีกด้วย

Smart Design

ทุกยูนิตของโครงการเดอะ ไลน์ สาทร มีระเบียงที่หันไปทางทิศตะวันออก ทุกยูนิตจึงสามารถมองเห็นวิวใจกลางเมืองที่งดงาม

เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้แก่ผู้พักอาศัย โดยในแต่ละชั้นจะมีเพียง 9 ยูนิตเท่านั้น

เดอะ ไลน์ สาทร เลือกใช้ Air Tube System ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยถ่ายเทอากาศจากบริเวณระเบียงห้องพักเข้าสู่ภายในห้องและระบายออกสู่นอกอาคารผ่านพื้นที่เหนือฝ้าโดยไม่ผ่านโถงทางเดิน ซึ่งระบบระบายอากาศที่เหนือกว่านี้

นอกจากจะช่วยลดอัตราการใช้พลังงานของระบบปรับอากาศได้มากถึงร้อยละ 11 แล้ว ยังเพิ่มอัตราการระบายอากาศภายในห้องให้ดีกว่ามาตรฐานได้ถึง 11 เท่า

ช่วยลดความชื้นสัมพัทธ์ที่ก่อให้เกิดเชื้อราและความไม่สบายตัวได้กว่าร้อยละ 33 ทั้งยังสามารถช่วยให้ผู้อยู่อาศัยนอนหลับได้เร็วขึ้นมากกว่าร้อยละ 33 อีกด้วย

คอนโด คาวะ เฮ้าส์ อ่อนนุช 77 KAWA Haus Onnut 77

KAWA Haus อ่อนนุช 77 คอนโดใหม่จาก แสนสิริ ท่ามกลางความเร่งรีบของคนเมือง ธรรมชาติยังเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยสร้างเรื่องราวดีๆ ของชีวิต ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ และความสดชื่นของชีวิตริมน้ำในขณะที่ทุกความสะดวกสบายอยู่ใกล้แค่เอื้อม

เพียง 2 นาทีจากทางด่วน และ 5 นาทีจาก BTS อ่อนนุช โครงการตั้งอยู่ใน T77 มีทุกสิ่งที่คุณต้องการ ใกล้ทุกความสะดวกสบาย ทั้ง ฮาบิโตะ มอลล์, โรงเรียนนานาชาติ บางกอก เพรพ, และโครงการที่อยู่อาศัย ที่ทำให้สถานที่แห่งนี้มีชีวิตชีวา ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท*

ลงทะเบียนรับส่วนลดเพิ่ม 50,000 บาท คลิกที่นี่ >>  https://goo.gl/fuXhcQ

ที่ตั้งโครงการ

ถนนสุขุมวิท 77 แขวงประเวศ เขตประเวศ กทม. 10250

พิกัด Google : 13°42’42.9″N 100°36’06.3″E

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1685

Website : https://www.sansiri.com/condominium/kawa-haus/th/

ย้ำความเป็นเลิศในทุกบริบท 98 Wireless โครงการที่พักอาศัยแห่งแรกในประเทศไทย ที่ผ่านการรับรองคุณภาพความยั่งยืนจาก LEED อีกหนึ่งมาตรฐานการประเมินคุณภาพอาคารระดับสากลที่คนไทยต้องรู้จัก

แม้ว่าการประเมินคุณภาพจาก LEED อาจยังไม่เป็นที่รู้จักกันในวงกว้างนักสำหรับคนไทย แต่ต้องกล่าวว่า LEED ถือเป็นมาตรฐานการประเมินคุณภาพความยั่งยืนระดับสากล ในเรื่อง การออกแบบ การก่อสร้าง และการปฏิบัติการของอาคารสีเขียว หรือที่เรียกกันว่ารางวัล LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) จากสภาอาคารเขียวสหรัฐอเมริกา (U.S. Green Building Council: USGBC) ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วโลก

และ ถ้าบอกว่า โครงการ 98 Wireless โครงการแฟล็กชิพคอนโดมิเนียมล่าสุดของแสนสิริ ที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปี ได้รับรางวัล LEED ในระดับ Certified ดังนั้น เราคนไทยก็น่าจะทำความรู้จักรางวัล LEED นี้กันสักเล็กน้อย

เพราะทั่วโลกมีอาคารเพื่อการพาณิชย์และอาคารสำคัญ ๆ กว่า 38,600 แห่งที่ได้รับการรับรองมาตรฐานนี้ รวมแล้วเป็นพื้นที่ใช้สอยในอาคาร ถึงมากกว่า 560 ล้านตารางเมตรในมากกว่า 167 ประเทศ

ทั้งนี้ 98 Wireless ยังถือเป็นโครงการที่พักอาศัยแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับ Certified จาก LEED อีกด้วย

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “นับเป็นความภาคภูมิใจของแสนสิริที่โครงการ 98 Wireless เป็นที่พักอาศัยแห่งแรก ในไทยที่ได้รับรองมาตรฐาน LEED

เพราะแสนสิริใช้เวลากว่า 7 ปีมุ่งมั่นรังสรรค์ให้ทุกมิติ ของโครงการสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่การหาทำเล การออกแบบสถาปัตยกรรมทั้งภายในและภายนอก วัสดุที่ใช้ การบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

รวมถึงเป็นความตั้งใจของเราตั้งแต่เริ่มต้นสร้างที่จะผลักดันให้โครงการ 98 Wireless ได้รับการประเมินอาคารเขียวในระดับ Certified จาก LEED เพราะในที่สุดแล้ว คำว่า “The Best Comes as Standard” ของ 98 Wireless จะไม่ใช่ The Best ที่แท้จริง

หากไม่ก่อให้เกิดความยั่งยืนและช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้พักอาศัย เราเชื่อว่าความหรูหรา (luxury) และความยั่งยืน (sustainability) เป็นสองสิ่งที่ทำให้เกิดขึ้นควบคู่กันได้ และผู้พัฒนาโครงการที่พักอาศัยก็ควรจะสร้างให้เกิดขึ้นควบคู่กันด้วย

เราจึงจับมือกับบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อให้มาช่วยเป็นที่ปรึกษาของโครงการ 98 Wireless ดูแล ให้ได้มาตรฐานตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยไมน์ฮาร์ทยังมาช่วยดูแลในด้านของโครงสร้างภายในอาคาร ทั้งการวางระบบน้ำ ระบบไฟฟ้า ระบบลิฟต์ส่วนตัวสำหรับทุกยูนิต รวมไปถึงออกแบบ ที่จอดรถแบบซุปเปอร์คาร์เพื่อให้ตอบรับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยในทุกมิติอีกด้วย”

โครงการ 98 Wireless ได้ผ่านการประเมินมาตรฐาน LEED ในเดือนกันยายน 2017 ที่ผ่านมา ภายใต้เกณฑ์การประเมิน LEED ที่มีความชัดเจนและตรงไปตรงมา โดยผ่านมาตรฐานการตรวจวัดคุณภาพใน 7 ด้านสำคัญ ได้แก่

• ความยั่งยืนของสถานที่ตั้งอาคาร (Sustainable sites)
• การใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ (Water efficiency)
• การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการลดผลกระทบต่อชั้นบรรยากาศโลก(Energy & Atmosphere)
• การเลือกใช้วัสดุและทรัพยากร (Material & resources)
• คุณภาพสภาพแวดล้อมภายในอาคาร (Indoor environmental quality)
• นวัตกรรมในการออกแบบ (Innovation)
• การออกแบบที่สอดคล้องกับลักษณะภูมิอากาศและภูมิประเทศท้องถิ่น (Regional priority credits)

ในการประเมินคุณภาพภายใต้มาตรฐาน LEED นั้น โปรเจคที่ขอเข้ารับการประเมินจะถูกประเมินในระบบการให้คะแนนตามหัวข้อข้างต้น ซึ่งคะแนนทั้งหมดจะนำไปสู่การคิดเป็นเรทติ้งตามสัดส่วนในแต่ละหัวข้อ สำหรับโครงการคอนโดมิเนียม “98 Wireless” จุดเด่นที่ทำให้โครงการนี้กลายเป็นโครงการที่พักอาศัยโครงการแรกที่ผ่านการรับรอง LEED นั้นก็ด้วยเหตุผลสำคัญหลายประการ

นายอุทัย กล่าวปิดท้ายว่า “การที่โครงการ 98 Wireless ได้รับรองมาตรฐาน LEED นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และเป็นการตีนิยามความลักชัวรี่ในมิติใหม่ เพราะในอดีตความลักชัวรี่นั้นประกอบไปด้วยการดีไซน์ การตกแต่ง การเลือกใช้แบรนด์ที่มีคุณภาพและมาตรฐานเทียบเท่าระดับโลก

รวมถึงการบริการที่เหนือระดับ แต่ในปัจจุบัน ความลักชัวรี่ควรจะมีมิติในด้านความยั่งยืนควบคู่ ไปด้วย เพราะนอกจากช่วยให้โครงการที่พักอาศัยนั้นๆ มีความพร้อมสำหรับการอยู่อาศัย ในทุกมิติแล้ว ยังตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคในปัจจุบันโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มุ่งหา นวัตกรรมการอยู่อาศัยใหม่ๆ หรือมาตรฐานการรับรองเพื่อความยั่งยืนอีกด้วย

ซึ่งในอนาคต แสนสิริมีแผนที่จะพัฒนาโครงการอื่นๆ ให้ได้รับรองมาตรฐานเช่นเดียวกัน และหวังว่าในอนาคตอันใกล้ จะมีอาคารที่พักอาศัยและอาคารประเภทอื่น ๆ ผ่านมาตรฐาน LEED เพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นข้อพิสูจน์ว่า ผู้ประกอบการในบ้านเราให้ความสำคัญกับการประหยัดพลังงานและการรักษาสิ่งแวดล้อมไม่แพ้ผู้ประกอบการในประเทศอื่นๆ”

คอนโด โอกะ เฮ้าส์ สุขุมวิท 36 Oka Haus Sukhumvit 36

Oka Haus สุขุมวิท 36 คอนโดใหม่สไตล์รีสอร์ท จาก แสนสิริ ยกธรรมชาติมาไว้ใจกลางเมือง บนทำเลที่เดินทางได้หลากหลาย  เข้าสู่ใจกลาง ถ.สุขุมวิทและ ถ.พระราม 4 เพียงไม่กี่นาที ใกล้ BTS ทองหล่อ และทางด่วนเฉลิมมหานคร สิ่งอำนวยความสะดวกแวดล้อมด้วยทุกไลฟ์สไตล์ เริ่ม 3.69 ล้านบาท*

ลงทะเบียนรับส่วนลดเพิ่ม 50,000 บาท คลิกที่นี่ >> https://goo.gl/599cC3

ที่ตั้งโครงการ

ติดถนนพระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม.

พิกัด Google : 13°42’57.0″N 100°34’29.9″E

:: GALLERY ::

ภาพจำลองบรรยากาศตัวโครงการ Oka Haus สุขุมวิท 36

ภาพจำลองบรรยากาศตัวอาคาร Oka Haus สุขุมวิท 36

ภาพจำลองบรรยากาศ Co-Playground

ภาพจำลองบรรยากาศ Lobby

ภาพจำลองบรรยากาศ Leiaure Pool

ภาพจำลองบรรยากาศ Leiaure Pool

ภาพจำลองบรรยากาศ Co-Kitchen

ภาพจำลองบรรยากาศ Sky Lounge

ภาพจำลองบรรยากาศ Sky Lounge

ภาพจำลองบรรยากาศ Rooftop-Theater

ภาพจำลองบรรยากาศ Sky Garden

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1685

Website : https://www.sansiri.com/condominium/oka-haus/th/

ดีคอนโด แคมปัส กำแพงแสน dcondo Campus Kampangsaen

dcondo Campus กำแพงแสน คอนโดใหม่ใกล้ ม.เกษตศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เตรียพบชีวิตดีดี เริ่มต้นที่นี่…

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://goo.gl/T1tH3k

ที่ตั้งโครงการ

ถ.มาลัยแมน ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1685

Website : www.sansiri.com/condominium/dcondo-campus-kamphaeng-saen/th/

บ้านเดี่ยว คณาสิริ พระราม 2-วงแหวน Kanasiri Rama 2-Wongwaen

ครบทุกความสุข ที่มองหา “คณาสิริ พระราม 2-วงแหวน“ บ้านเดี่ยวโครงการใหม่ จาก แสนสิริ

ที่ตั้งโครงการ

ถนนพระรามที่ 2-ทางคู่ขนานถนน พระราม 2 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

พิกัด Google : 13°35’32.5″N 100°21’08.4″E

:: ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ ::

ลงทะเบียน คลิกที่นี่

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1685

Website : https://www.sansiri.com/

[Mini Review] ทำเลศักยภาพกำแพงแสน โซนติดม.เกษตร  เช่าหอพักหรือซื้อคอนโดกำแพงแสน  แบบไหนเวิร์คกว่า?

สวัสดีค่า ผู้อ่าน Homenayoo ที่รักทุกคน สำหรับใครที่กำลังมองหาห้องพักซักห้องไว้เป็นที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ เพราะอยากได้ทำเลใกล้ที่ทำงาน ใกล้แหล่งสถานศึกษาของลูกหรือตัวเองอยู่ แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ระหว่างการกู้เงินซื้อคอนโดแล้วผ่อนกับธนาคารที่สามารถปล่อยเช่าต่อและเป็นสินทรัพย์ที่ขายทำกำไรได้ หรือ การเช่าหอพักอยู่ที่จ่ายเงินต่อเดือนในราคาใกล้เคียงกัน จะเลือกแบบไหนดี เรามีบทวิเคราะห์สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้อหรือเช่าคอนโดมาฝากกัน โดยบทความฉบับนี้เราพาไปเที่ยวนครปฐมกันค่ะ โดยจะพูดถึงภาพรวมตลาดหอพักกำแพงแสน และคอนโดกำแพงแสน โซนติดม.เกษตร เอาใจกลุ่มนักศึกษา, บุคลากรที่ศึกษาหรือทำงานโซนนั้น และกลุ่มผู้สนใจลงทุนเพื่อปล่อยเช่าทำกำไรโซนนี้กันอยู่

ภาพรวมของตลาดหอพักกำแพงแสน และคอนโดกำแพงแสน พร้อมวิเคราะห์อัตราการเติบโตในอนาคต

กำแพงแสน เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดนครปฐม อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครในระยะขับรถมาประมาณชั่วโมงนิดๆ  มี 15 ตําบล 204 หมู่บ้าน จํานวนหลังคาเรือน 24,159 หลังคาเรือน และจํานวนประชํากร 125,565 คน โซนที่น่าสนใจและเป็นจุดแข็งของทำเลกำแพงแสน คือโซนที่อยู่ติดมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน นั่นเองค่ะ การมาของมหาวิทยาลัยเกษตรฯ ทำให้การขยายตัวของที่อยู่อาศัยและมูลค่าที่ดินในโซนนี้มีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นด้วย  ใครไปเที่ยวนครปฐมจะเห็นภาพตลาดหอพักกำแพงแสน และคอนโดกำแพงแสน ขยายตัวมากขึ้นอย่างชัดเจนค่ะ

ด้วยจำนวนนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ปริมาณ 14,091 คน และบุคลากรที่ทำงานในมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ อีก 2,158 คน รวมถึงใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรฯจะมีโรงพยาบาลกำแพงแสน, โรงพยาบาลสัตว์, โรงเรียนการบิน ที่จะมี นักเรียนการบิน, แพทย์, พยาบาล และ บุคลากรทางการแพทย์ เป็นอีกกลุ่มเป้าหมายของตลาดหอพักและคอนโดมิเนียมในย่านนี้ที่มีปริมาณความต้องการเยอะมาก เมื่อเทียบกับปริมาณที่พักอาศัยที่มีอยู่ในปัจจุบันนะคะ

ตลาดหอพักและคอนโดในโซนกำแพงแสนนี้ จะเป็นของคนในพื้นที่แทบทั้งหมดค่ะ อัตราค่าเช่าต่อเดือนอยู่ในช่วง  4,000 – 8,500 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและอายุของอาคารนะคะ ซึ่งความต้องการของกลุ่มคนหาที่พักในย่านนี้ก็มีทั้ง กลุ่มอพาร์ทเมนท์ ที่มีความอิสระมากกว่าการอยู่หอพักในมหาวิทยาลัย ราคาค่าเช่าเฉลี่ยเดือนละประมาณ 6,000 บาท  และกลุ่มคอนโดมิเนียมที่ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาจากกรุงเทพฯหรือต่างจังหวัดที่มาเรียนที่ม.เกษตร กำแพงแสน กลุ่มนี้มาจากครอบครัวรายได้ระดับกลางถึงสูงขึ้นไป รวมถึงอาจารย์มหาวิทยาลัย ที่ต้องการที่พักอาศัยที่ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ในย่านนั้น รวมถึงเรื่องการรักษาความปลอดภัยในอาคาร, ความสะดวกสบายจากพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ก็จะเลือกเช่าอยู่คอนโดกันเป็นส่วนใหญ่ ราคาค่าเช่าเฉลี่ยเดือนละประมาณ 8,000 บาท

สำหรับคนที่ยังตัดสินใจไม่ได้ระหว่างการกู้เงินซื้อคอนโดแล้วผ่อนกับธนาคารที่สามารถปล่อยเช่าต่อและเป็นสินทรัพย์ที่ขายทำกำไรได้ หรือ การเช่าหอพักอยู่ที่จ่ายเงินต่อเดือนในราคาใกล้เคียงกัน จะเลือกแบบไหนดีนั้น เรามาเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย ของการเช่าหอพักและการผ่อนคอนโดกันนะคะ เอาเป็นว่าทำเลใกล้เคียงกัน โซนๆเดียวกัน ข้อดีข้อเสียเมื่อเทียบกันแล้วแบ่งเป็นหัวข้อได้ดังนี้

1. ค่าเช่าหอ VS ค่าผ่อนคอนโด

อย่างที่รู้กันว่าราคาเช่าหอพัก อาจจะถูกกว่าคอนโดอยู่ละตามปกติ แต่ถ้าเราคิดตัวเลขชัดๆต่อเดือนออกมาเช่น ดอกเบี้ย + ค่าผ่อน เดือนละเท่าไหร่  ถ้าผ่อนน้อยกว่า 8000 แล้วการเดินทางไม่ต่างจากเดิม จะเช่าเขาอีกทำไมล่ะคะ

ลองเทียบค่าเช่าคอนโดเดือนละ 8000 x 12 = 96,000 บาท นี่ คือค่าเช่าต่อปี ที่ตัดเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมด ในขณะที่เงินผ่อนคอนโด เพิ่มเงินขึ้นมาหน่อย อยู่ยาว 4 ปี พอเรียนจบก็มี Asset สามารถปล่อยเช่าหรือขายทำกำไรได้ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ระยะยาวที่มีมูลค่าเพิ่มสูงกว่าดอกเบี้ยที่ได้จากการฝากธนาคารเยอะ เพราะเฉลี่ยแล้วคอนโดนี่ราคาขึ้นปีละ 10% เลย ฉะนั้นเราสรุปให้เลยค่ะว่า ถ้ามีต้นทุนอยู่แล้ว หรือไม่ได้ต้องกู้เยอะ การซื้อดีกว่าเช่าอยู่แล้วค่ะในภาพรวม

อย่างไรก็ตาม การกู้ซื้อคอนโดมีเงื่อนไขหลายอย่างที่เราต้องตรวจสอบดีๆ ไม่ว่าจะเป็น อัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายธนาคาร, ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาคอนโด, ราคาขายต่อ รวมถึงรายละเอียดที่เป็นประโยชน์ปลีกย่อยอื่นๆเช่น การผ่อนคอนโด สามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีของเราได้, ค่าใช้จ่ายด้านการประกันที่เราต้องจ่าย เป็นต้น

2. Facility ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ความปลอดภัย พื้นที่ใช้สอยในห้อง และอื่นๆ ที่คอนโดมีให้

คอนโดมีระดับการรักษาความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆมากกว่าหอพักค่ะ แต่เมื่อเราจะซื้อคอนโด เราต้องศึกษาจุดขายของคอนโดที่เราจะซื้อให้ดีเพราะถือเป็นมูลค่าสินทรัพย์ของเราในอนาคตนะคะ  เช่นชั้น ห้อง มุมที่เลือกน่าอยู่มั้ย ส่วนกลางของโครงการได้รับการดูแลรักษาดีแค่ไหน, ทำเลนี้มีปริมาณความต้องการที่อยู่อาศัยมากแค่ไหน เป็นต้น เพื่อผลประโยชน์ระยะยาวของเราก็ต้องตรวจสอบเรื่องพวกนี้ดีๆค่ะ

สำหรับคนที่อ่านแล้วสนใจหรือกำลังมองหาโครงการโซนกำแพงแสนกันอยู่นั้น เรามีคอนโดโครงการใหม่ล่าสุดจาก แสนสิริ มาฝากกันค่ะ

โครงการ ดีคอนโด แคมปัส กำแพงแสน คอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร บนพื้นที่โครงการ ประมาณ 8 ไร่ ยูนิตรวมทั้งโครงการ 766 ยูนิต ที่จอดรถ 221 คัน ที่จอดรถจักรยานยนต์ 65 คัน คิดเป็นมากกว่า 30% ของจำนวนยูนิตโครงการ

พร้อมพื้นที่ส่วนกลางจัดเต็มทั้งโครงการ ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ แบบโอลิมปิคยาว 53 เมตร, พร้อมที่นั่งพักผ่อนมาให้นอนเล่นกันได้, สวนหย่อมรอบโครงการ, สนามบาส, ร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง. Co living space ซึ่งออกแบบมาให้เข้ากับไลฟ์สไตล์นักศึกษาค่ะ คือจะมีพื้นที่ที่ใช้นั่งพักผ่อนนั่งเล่น, จัดปาร์ตี้ และพื้นที่ทำงานกลุ่ม งานเดี่ยว, ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง และประตูติด Digital door lock มาให้ทุกห้องเพิ่มความปลอดภัยขึ้นไปอีกระดับ

โครงการ ดีคอนโด แคมปัส กำแพงแสน เปิดให้ชมโครงการพร้อมห้องตัวอย่างตั้งแต่วันนี้ และเปิดจองอย่างเป็นทางการวันที่ 18 – 19 พฤศจิกายน 2017  พร้อมโปรโมชั่นพิเศษมากมาย

ทำเลและตัวโครงการจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่า : )

โครงการ ดีคอนโด แคมปัส กำแพงแสน มีจุดเด่นคือทำเลโครงการที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ม.เกษตร เลย จัดเป็นโครงการจากอสังหาเจ้าใหญ่อย่าง แสนสิริ เป็นทำเลโซนมหาวิทยาลัยที่ตอบโจทย์นักศึกษาและบุคลากรที่ทำงานในมหาวิทยาลัยชัดเจน โดยจำนวน unit ภายในโครงการ คิดเฉลี่ยแล้วจำนวนไม่ถึง 5% ของจำนวนนักศึกษา รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางแบบจัดเต็มของโครงการที่มีให้เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย ทั้ง นักศึกษา, อาจารย์, บุคลากรทางการแพทย์ที่มีรายได้สูง และนักลงทุนที่สนใจซื้อไว้ปล่อยเช่าทำกำไรนั่นเอง ซึ่งเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมากจากโครงการตระกูล dcondo campus ทั้งหมดที่ผ่านมา

โครงการ ดีคอนโด แคมปัส กำแพงแสน อยู่ติดถนนใหญ่ห่างจากมหาลัยเพียง 150 เมตร สังเกตจากภาพแผนที่  โดยรอบที่ดินโครงการนั้น ทิศเหนือและตะวันออกจะเป็นที่ดินบุคคลอื่น ที่ยังเป็นที่ดินว่างเปล่าโล่งๆ มีบ้าน 1 – 2 ชั้นขึ้นแบบห่างๆ  และทิศใต้เป็นอาคารสูง 2 – 4 ชั้น  ถัดมาจะเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น  ทางเข้าออกโครงการอยู่ทางทิศตะวันตก ติดถนนมาลัยแม้น หน้ามหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ วิทยาลัยเขตกำแพงแสน โดยม.เกษตรจะอยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการเลย ทำให้นักศึกษาและบุคลากรที่ทำงานมหาวิทยาลัยสามารถเดินหรือขับจักรยานเข้าไปเรียนหรือไปทำงานได้สบายๆ ภายในมหาวิทยาลัยใกล้โครงการมีสวนสุขภาพและสนามฟุตบอลสำหรับเดินเล่นและออกกำลังกายได้

เรามีวิวรอบๆโครงการมาให้ชมกันค่ะ

ภาพที่ 1 ตัวโครงการตั้งอยู่ติดกับถนนมาลัยแม้น  จากภาพจะเป็นวิวถนนมาลัยแม้นมองไปทางฝั่งทิศเหนือ

ภาพที่ 2 จะเป็นพื้นที่ของโครงการ ดีคอนโด แคมปัส กำแพงแสน ที่อยู่ติดกับถนนมาลัยแม้น และตรงข้ามม.เกษตร วิทยาลัยเขตกำแพงแสน เลย

ภาพที่ 3 จะเป็นวิวถนนมาลัยแม้นแถวหน้าโครงการมองไปทางทิศใต้

Master Plan หรือผังชั้น 1 ของโครงการ ดีคอนโด แคมปัส กำแพงแสน ค่ะ โครงการจัดพื้นที่ส่วนกลางหลักๆเอาไว้ที่คอร์ทยาร์ดตรงกลาง ล้อมรอบด้วยอาคาร A,B, C  มีที่จอดรถ 230 คัน หรือประมาณ 30% ของจำนวนยูนิตโครงการ ยูนิตที่พักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 1 เลย โดยจากผังจะเห็นว่าส่วนระเบียงห้องของชั้น 1  โดยยูนิตรวมทั้งโครงการ 766 ยูนิต แบ่งอาคาร A 272 ยูนิต, อาคาร B 271 ยูนิต และอาคาร C 223 ยูนิต

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ แบบโอลิมปิคยาว 53 เมตร, สระน้ำตื้นพร้อมที่นั่งพักผ่อนมาให้นอนเล่นกันได้, สวนหย่อมรอบโครงการ, ร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง, สนามบาส, Co living space ซึ่งออกแบบมาให้เข้ากับไลฟ์สไตล์นักศึกษาค่ะ คือจะมีพื้นที่ที่ใช้นั่งพักผ่อนนั่งเล่น, จัดปาร์ตี้ และพื้นที่ทำงานกลุ่ม งานเดี่ยว พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง และประตูติด Digital door lock มาให้ทุกห้องเพิ่มความปลอดภัยขึ้นไปอีกระดับ

ส่วนภาพจำลองโครงการและพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆของโครงการจะมีหน้าตาอย่างไร ไปชมกันเลยค่ะ

ภาพจำลองให้เห็นภาพรวมโครงการ ดีคอนโด แคมปัส กำแพงแสน  ค่ะ ด้านหน้าจะเป็นอาคาร A และ B ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นอาคาร C มีพื้นที่จอดรถรอบๆตัวอาคาร และปลูกต้นไม้มาร่มรื่น เป็นคอนโดสไตล์โมเดิร์น 8 ชั้น ใช้สีโทนเบจ น้ำตาล เทาเข้มเป็นพื้น ตัดเส้นกรอบเพิ่มมิติให้อาคารภายนอกด้วยสีน้ำตาลและสีเบจ ตกแต่งโครงการด้วยต้นชมพูพันธ์ทิพย์ ซึ่งเป็น Signature ของกำแพงแสน

ภาพจำลองส่วนด้านหน้าทางเข้าออกโครงการค่ะ ด้านหน้าโครงการจะเป็นส่วน Clubhouse 2 ชั้นของโครงการ ชั้นล่างของ Clubhouse จะเป็นร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง, นิติบุคคล และห้องตัวอย่าง ชั้น 2 เป็นห้องฟิตเนส, co working space และนิติบุคคลชั้น 2 อีกจุด

ภายในโครงการมีระบบรักษาความปลอดภัย พร้อมไม้กระดกขึ้นลง เข้าออกแบบ Access Card รปภ. 24 ชั่วโมง

ภาพจำลองสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ แบบโอลิมปิคยาว 53 เมตร พร้อมเก้าอี้พักผ่อนข้างสระว่ายน้ำ และปลูกต้นไม้รอบๆมาให้ร่มรื่น

ภาพจำลองห้องฟิตเนสวิวสระว่ายน้ำ

ภาพจำลองสนามบาส ฟังก์ชั่นเอาใจนักศึกษาที่ชอบออกกำลังกาย สามารถมาเล่นกันได้ในโครงการเลย

ภาพจำลองสนามบาสให้เห็นทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งสนามบาสจะเรืองแสงเพื่อให้เล่นได้ตอนกลางคืนด้วย

ภาพจำลองสวนหย่อม ทางเดิน และมุมที่นั่งพักผ่อนในโครงการ  ซึ่งออกแบบมาให้เข้ากับไลฟ์สไตล์นักศึกษาค่ะ คือจะมีพื้นที่ที่ใช้นั่งพักผ่อนนั่งเล่น, จัดปาร์ตี้ และพื้นที่ทำงานกลุ่ม งานเดี่ยว ที่สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ส่วนกลางของโครงการได้เต็มที่

พร้อมความพิเศษด้านการออกแบบห้อง โดยผู้ที่ซื้อในงานเปิดจองของทางโครงการ จะได้รับชุดเฟอร์นิเจอร์พิเศษที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของในห้องได้ เช่น สามารถเลื่อนปรับมาเป็นโต๊ะทำงาน ทำโต๊ะยาวหรือสอดเก็บไว้ข้างโซฟาได้ รวมทั้งได้ออกแบบให้มีพื้นที่ในการเก็บสิ่งของในห้องไว้อย่างลงตัว ทำให้ดูเป็นห้องที่สามารถอยู่ได้จริงบนแนวคิดของการอยู่อาศัย

ภาพส่วนห้องนอน จะเห็นว่าใต้โซฟาข้างเตียงมีช่องสำหรับวางของได้ และโต๊ะกาแฟที่สามารถใช้เก็บของใต้โต๊ะได้ถึง 2 ชั้นและเลื่อนปรับมาเป็นโต๊ะทำงานได้

ภาพส่วนตู้เสื้อผ้าปลายเตียงมีชั้นวางของมาให้หลายชั้น ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยแนวตั้งได้ดี

โครงการ ดีคอนโด แคมปัส กำแพงแสน  จัดเป็นอีกโครงการที่ทำมาเพื่อขายลูกค้ากลุ่ม First Jobber หรือ กลุ่มผู้ซื้อคอนโดหลังแรก และกลุ่มนักลงทุนที่มองหาทำเลใกล้มหาวิทยาลัย เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยเองหรือปล่อยเช่านักศึกษาหรือคนทำงานในมหาวิทยาลัยโซนกำแพงแสน เนื่องจากทำเลโครงการที่อยู่ตรงข้าม มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ วิทยาลัยเขตกำแพงแสน เลย นอกจากนี้ยังอยู่โรงพยาบาลกำแพงแสน ซึ่งมีทั้งหมอและบุคลากรทางการแพทย์มากมาย รวมถึงเป็นโครงการที่มีส่วนกลางขนาดใหญ่ มีมูลค่าและฟังก์ชั่นที่แตกต่างจากบรรดาหอพักในย่านนั้น เป็นจุดขายที่ทำให้มีศักยภาพในการปล่อยเช่าสูง

“ตอนนี้ทางโครงการได้เปิดให้เข้าชมห้องตัวอย่างได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ที่สำนักงานขายติด ม.เกษตร กำแพงแสน พร้อมส่วนลดพิเศษมากมาย”

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1685

Website : https://www.sansiri.com/condominium/dcondo-campus-kamphaeng-saen/th/

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

แสนสิริ โชว์ผลงานปิดการขาย The Line สาทร มูลค่า 4,000 ล้านบาท หลังเปิดขาย Online Booking เพียงวันแรก ปิดการขาย 327 ยูนิตทันที

ดันยอดขายพรีเซลล์แตะ 31,000 ล้านบาท สู่เป้าหมายพรีเซลล์ 40,000 ล้านบาทผลประกอบการ 9 เดือน กวาดรายได้กว่า 23,129 ล้านบาท กำไร 2,022 ล้านบาท โตขึ้น 15%

บมจ.แสนสิริ โชว์ผลงานปิดการขาย เดอะ ไลน์ สาทร มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท หลังเปิด Online booking วันแรก ราคาเฉลี่ย 270,000 บาทต่อ ตร.ม. หมดเกลี้ยง 327 ยูนิต

จากความโดดเด่นด้านจุดขายภายใต้คอนเซ็ปต์ “”SIMPLICITY IN EVERYTHING”” ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ติดบีทีเอสสถานีสุรศักดิ์เพียง 0 เมตร

มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายด้านนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยแบบ Smart Innovation และการออกแบบ Smart Design โดยทุกยูนิตเป็นแบบ Single Loaded Corridor ที่มอบความเป็นส่วนตัวสูง

และมีพื้นที่ระเบียงส่วนตัวโปร่งโล่ง และไม่บดบังวิว ดันยอดขาย พรีเซลล์แตะ 31,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 80% จากเป้าพรีเซลล์ใหม่ 40,000 ล้านบาท

ขณะที่ผลประกอบการรอบ 9 เดือน กวาดรายได้รวม23,129 ล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 70% จากเป้าหมายรายได้รวม 34,000 ล้านบาท

โดยรายได้อื่นๆ หรือรายได้จากการรับบริหารโครงการภายใต้ความร่วมมือกับบีทีเอสเพิ่มขึ้นถึง 47% จากรอบ 9 เดือนของปีก่อน ขณะที่มีกำไรสุทธิ 2,022 ล้านบาท โตขึ้น 15% ไตรมาสสุดท้ายทยอยรับรู้รายได้จากการโอนโครงการเดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้าที่เริ่มโอนตั้งแต่เดือน ต.ค. ที่ผ่านมา

โดยวางเป้าหมายการโอนไว้ 80% มูลค่ารวมกว่า1,300 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2560 พร้อมแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายผนึกกับแผนสั่นสะเทือนวงการอสังหาฯ ไทยในปี 2560 ด้วยการประกาศการลงทุน 80 ล้านดอลล่าร์ หรือ 2,800 ล้านบาทใน 6 แบรนด์ชั้นนำของโลก สะท้อนวิสัยทัศน์ระดับโลกเพื่อการใช้ชีวิตในอนาคต

นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน)(SIRI) เปิดเผยว่า บริษัทได้ปิดการขายโครงการ เดอะ ไลน์ สาทร จำนวน 327 ยูนิต มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นคอนโดมิเนียมโครงการล่าสุดภายใต้ความร่วมมือระหว่างบีทีเอสและแสนสิริลงอย่างรวดเร็ว

หลังเปิดขายแบบ Online booking ในวันแรก ในราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาทหรือเฉลี่ย 270,000 บาทต่อตารางเมตร โดยมีสัดส่วนกลุ่มลูกค้าเป็นคนไทยและต่างชาติ 70 : 30 เปอร์เซ็นต์ สร้างยอดขายในตลาดต่างชาติได้ถึง 1,300 ล้านบาท คอนโดมิเนียมโครงการที่ 12 ภายใต้ความร่วมมือของบีทีเอสและแสนสิริประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว

“”ความสำเร็จของโครงการ เดอะ ไลน์ สาทร ภายใต้คอนเซ็ปต์ “”SIMPLICITY IN EVERYTHING”” มาจากความโดดเด่นทั้งในด้านทำเลและคอนเซ็ปต์โครงการซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองติดบีทีเอสสถานีสุรศักดิ์เพียง 0 เมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกด้านนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยแบบ Smart Innovation และการออกแบบ Smart Design ซึ่งทุกยูนิตมอบความเป็นส่วนตัวสูงสุดด้วยพื้นที่ระเบียงส่วนตัวโปร่งโล่งและไม่บดบังวิวจากความสูงอาคาร 46 ชั้น ทำให้โครงการปิดการขายลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ยอดขายพรีเซลล์ของแสนสิริล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 31,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 80% จากเป้าพรีเซลล์ใหม่ 40,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกันในวันนี้ (13 พฤศจิกายน 2560) บริษัทฯ ได้รายงานผลประกอบการในรอบ 9 เดือนซึ่งมีรายได้รวมกว่า23,129 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและคิดเป็นเกือบ 70% จากเป้าหมายรายได้รวม 34,000 ล้านบาท

โดยรายได้อื่นๆ หรือรายได้จากการรับบริหารโครงการภายใต้ความร่วมมือระหว่างแสนสิริและบีทีเอสเพิ่มขึ้นถึง 47% จากรอบ 9 เดือนของปีก่อน ขณะที่บริษัทมีกำไรสุทธิ 2,022 ล้านบาท โตขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายบริษัทยังมียอดทยอยรับรู้รายได้จากการโอนโครงการเดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า จำนวน 86 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท ที่เริ่มโอนตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยวางเป้าหมายการโอนไว้ 80% มูลค่ารวมกว่า 1,300ล้านบาทภายในสิ้นปี 2560

สำหรับผลการดำเนินงานเฉพาะไตรมาส 3/2560 บริษัทมีรายได้รวมกว่า 7,345 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 6,784 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 735 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 602ล้านบาท เป็นผลจากปัจจัยบวกด้านเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง

ส่งผลให้บริษัทมียอดขายที่ดีทั้งโครงการแนวราบและแนวสูงรวมทั้งปิดการขายโครงการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อาทิ โครงการเดอะ วัลลีย์ เขาใหญ่ (The Valley Khaoyai) มูลค่ากว่า 1,100 ล้านบาท ด้วยการออกแบบโครงการที่สวยงามใกล้ชิดธรรมชาติ บนทำเลศักยภาพ ถนนผ่านศึก-กุดคล้า ที่สงบเหมาะแก่การพักผ่อน รวมถึงปัจจัยด้านราคาและความน่าเชื่อถือเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในทำเลเดียวกัน

โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่มีความต้องการซื้อเพื่อพักผ่อน เป็นบ้านหลังที่สอง และเพื่อลงทุนขายต่อหรือปล่อยเช่า โครงการดีคอนโด นครระยอง คอนโดมิเนียมจำนวน 575 ยูนิต ที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าไทยทั้งในด้านการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและลงทุนปล่อยเช่า จากทำเลที่ตั้งโครงการซึ่งใกล้แหล่งนิคมอุตสาหกรรมระยอง จึงสามารถปิดการขายโครงการมูลค่ากว่า 830 ล้านบาทในที่สุด

“”ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทยังได้เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ อาทิ แบรนด์ใหม่ของโครงการแนวราบ””อณาสิริ อยุธยา”” ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในการรุกทำเล อยุธยา อีกหนึ่งทำเลที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ที่มีศักยภาพใกล้นิคมอุตสาหกรรม และนับเป็นครั้งแรกของโครงการแนวราบของแสนสิริที่มีครบทั้งทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด บ้านเดี่ยว ในโครงการเดียว เตรียมเปิดพรีเซลส์วันที่ 24-25 พฤศจิกายนนี้

นอกจากนี้ยังเตรียมต่อยอดความสำเร็จของแบรนด์””คณาสิริ”” ในการเปิดตัวโครงการ “”คณาสิริ พระราม 2-วงแหวน”” จำนวน 293 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ในทำเลติดถนนพระราม 2 เตรียมเปิดพรีเซลส์วันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ หลังจากโกยยอดขายแบรนด์คณาสิริทั้งหมดในปีนี้ไปแล้ว

กว่า 1,000 ล้านบาท โดยล่าสุดปิดการขาย “”คณาสิริ ปิ่นเกล้า-กาญจนา”” ในเฟสแรกด้วยยอดขาย 100 ล้านบาท รวมถึงบริษัทยังเตรียมรุกแบรนด์ “”ดีคอนโด แคมปัส”” ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมใกล้สถานศึกษา เจาะกลุ่มลูกค้าผู้ปกครองและนักศึกษาซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดี

โดยเตรียมเปิดตัว “”ดีคอนโด แคมปัส กำแพงแสน”” ภายใต้คอนเซ็ปต์””ชีวิตดีดี เต็มที่ทั้งวัน”” ตั้งอยู่ตรงข้ามมหาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน จังหวัดนครปฐม จำนวนทั้งสิ้น 766 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท เปิดจอง 18 – 19 พฤศจิกายนนี้ ในราคาเริ่มต้นที่ 1.39 ล้านบาท”” นายวันจักร์ กล่าว

ล่าสุดบริษัทยังได้เผยแผนธุรกิจที่แข็งแกร่งสะเทือนวงการอสังหาฯ ไทยในปี 2560 ด้วยการประกาศแผนการลงทุน 80 ล้านดอลล่าร์ หรือ 2,800 ล้านบาท ใน 6 แบรนด์ชั้นนำของโลก สะท้อนวิสัยทัศน์ระดับโลกเพื่อการใช้ชีวิตในอนาคต ซึ่งนับเป็น 6 ธุรกิจด้านเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ชั้นนำของโลก นับเป็นการขยายฐานการลงทุนในธุรกิจอื่นครั้งสำคัญเพื่อสร้างพันธมิตรในประเภทธุรกิจอันหลากหลาย

โดยทั้ง 6 ธุรกิจล้วนมีอัตราการเติบโตสูงในตลาดโลกซึ่งจะเป็นแหล่งรายได้ใหม่ของแสนสิรินอกประเทศไทย เร่งเดินหน้ากลยุทธ์โมเดลธุรกิจแบบ asset light ในยุคปฏิวัติดิจิทัลเพื่อสร้างโอกาสจากการผนึกกำลังร่วมและโอกาสการเติบโตที่รวดเร็ว

โดยมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของบริษัททั้ง 6 จากการเข้าถือหุ้นของแสนสิริจะส่งผลดีต่อธุรกิจหลักของแสนสิริ การลงทุนครั้งนี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของแสนสิริที่มุ่งให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตในอนาคต ครอบคลุมทั้งแนวทางการดำเนินชีวิต การทำงาน การพักผ่อนหย่อนใจ และการเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยีและสื่อรูปแบบใหม่ๆ โดยธุรกิจที่แสนสิริร่วมลงทุนครั้งนี้ประกอบด้วย Standard International

แบรนด์ที่ทรงพลังที่สุดในธุรกิจบูติกโฮเทลซึ่งพลิกโฉมหน้าวงการโรงแรมระดับไฮเอนด์แบบใหม่ไปสู่อีกรูปแบบ One Night แอพพลิเคชั่นจองโรงแรมที่ปฎิวัติวิธีการจองภายในวันเข้าพักในโรงแรมที่คัดสรรมาอย่างดีจากทั่วโลกให้เลือก Hostmaker บริษัทผู้บริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์อันดับหนึ่งจากลอนดอน

Airbnb JustCo ผู้ให้บริการโคเวิร์คกิ้งสเปซสุดสร้างสรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Farmshelf นวัตกรรมฟาร์มอัจฉริยะเพื่อการปลูกผักสดสะอาดในที่พักอาศัยและ Monocle แบรนด์สื่อทรงอิทธิพลระดับโลก ครอบคลุมทั้งสิ่งพิมพ์ ออนไลน์ วิทยุ ภาพยนตร์ รีเทล และธุรกิจบริการ

ทั้งนี้ แสนสิริคือผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย ก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2527 นับเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรรายเดียวของประเทศซึ่งมีมูลค่ายอดขายโครงการมากกว่า 40,000 ล้านบาทต่อปี

อีกทั้งยังมีชื่อเสียงอันแข็งแกร่งในต่างประเทศ ทั้งจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน และญี่ปุ่น ด้วยยอดขายในตลาดต่างประเทศในปี 2560 ด้วยเป้าหมายยอดขายในตลาดต่างประเทศในปี 2560 ที่วางไว้ 9,000 ล้านบาท

บ้านเดี่ยว คณาสิริ ปิ่นเกล้า-กาญจนาฯ Kanasiri Pinklao-Kanchana

“คณาสิริ ปิ่นเกล้า-กาญจนาฯ” บ้านเดี่ยวลุคใหม่ สไตล์ Mid-century พร้อมนวัตกรรมบ้านเย็นสบาย ด้วยธรรมชาติ Cooliving Designed Home บ้านมีลมเย็นสบายโดยที่ไม่ต้องเปิดแอร์ บนทำเล ใกล้รถไฟฟ้า และทางด่วนเพียง 15 นาที ให้คุณเดินทางสู่ทุกจุดหมายได้อย่างรวดเร็ว และง่ายดายกว่าที่เคย เริ่ม 4-6 ล้านบาท*

ที่ตั้งโครงการ

ถนนบางคูลัด-วัดพระเงิน ต.บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

:: HOUSE TYPE ::

• แบบบ้าน Dylan
• บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
• พื้นที่ใช้สอย 113 ตร.ม.
• ขนาด 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ
• ส่วนรับประทานอาหาร, ห้องครัวไทย, ที่จอดรถ 2 คัน

แปลนบ้านชั้น 1

แปลนบ้านชั้น 2

• แบบบ้าน Lennon
• บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
• พื้นที่ใช้สอย 128 ตร.ม.
• ขนาด 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ
• ส่วนรับประทานอาหาร, ห้องครัวไทย, ที่จอดรถ 2 คัน

แปลนบ้านชั้น 1

แปลนบ้านชั้น 2

• แบบบ้าน Clapton
• บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
• พื้นที่ใช้สอย 147 ตร.ม.
• ขนาด 3 ห้องนอน, 1 ห้องนอนล่าง, 3 ห้องน้ำ
• ส่วนรับประทานอาหาร, ห้องครัวไทย, ที่จอดรถ 2 คัน

แปลนบ้านชั้น 1

แปลนบ้านชั้น 2

• แบบบ้าน Zepplin
• บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
• พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม.
• ขนาด 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ
• ส่วนรับประทานอาหาร, ห้องครัวไทย, ที่จอดรถ 2 คัน

แปลนบ้านชั้น 1

แปลนบ้านชั้น 2

:: GALLERY ::

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1685

Website : http://www.sansiri.com

บ้านเดี่ยว เศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ-ประชาชื่น 2 Setthasiri Chaengwattana-Prachachuen 2

เศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ-ประชาชื่น 2 จาก บมจ.แสนสิริ บ้านเดี่ยวโครงการใหม่ ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองประปา ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เดินทางสะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีศรีรัช และ ทางพิเศษอุดรรัถยา

รายล้อมด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน ใกล้อิมแพ็ค เมืองทองธานี, รร.บีเอฟเอส, รร.เซนต์ฟรังซิสเซเวียร์, รร.พระหฤทัยดอนเมือง, โรบินสัน ศรีสมาน, เทสโก้ โลตัส, เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ, กรมทหารสือสาร และ ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน อาทิ คลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สวนสาธารณะ, Access Card Control, กล้องวงจรปิด และ ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 15-30 ล้านบาท*

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใครคลิก >> https://goo.gl/T9kx2v

ที่ตั้งโครงการ

ถนนเลียบคลองประปา ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

พิกัด : 13.926975, 100.561278

:: HOUSE TYPE ::

• แบบบ้าน Apatite
• บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
• ที่ดิน เริ่มต้น 69.7 ตร.วา.
• พื้นที่ใช้สอย 263 ตร.ม.
• ขนาด 4 ห้องนอน, 4 ห้องน้ำ, ห้องรับแขก, ห้องพักผ่อน
• ส่วนรับประทานอาหาร, ห้องครัว, ส่วนเตรียมอาหาร, ห้องแม่บ้าน, 2 ที่จอดรถ

แปลนบ้านชั้น 1

แปลนบ้านชั้น 2

• แบบบ้าน Ametrine
• บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
• ที่ดิน เริ่มต้น 101.7 ตร.วา.
• พื้นที่ใช้สอย 353 ตร.ม.
• ขนาด 5 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, ห้องรับแขก, ห้องพักผ่อน
• ส่วนรับประทานอาหาร, ห้องครัว, ส่วนเตรียมอาหาร, ห้องแม่บ้าน, 3 ที่จอดรถ

แปลนบ้านชั้น 1

แปลนบ้านชั้น 2

• แบบบ้าน Ametrine
• บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
• ที่ดิน เริ่มต้น 106.97 ตร.วา.
• พื้นที่ใช้สอย 437 ตร.ม.
• ขนาด 5 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, ห้องรับแขก, ห้องพักผ่อน, ห้องอเนกประสงค์
• ส่วนรับประทานอาหาร, ห้องครัว, ส่วนเตรียมอาหาร, ห้องแม่บ้าน, 4 ที่จอดรถ

แปลนบ้านชั้น 1

แปลนบ้านชั้น 2

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-201-3999

Website : https://sansiri.com/

แสนสิริ ประสบความสำเร็จแบรนด์ “คณาสิริ” โกยยอดขายกว่า 1,000 ลบ. ล่าสุด Sold Out “คณาสิริ พระราม 2-วงแหวน” เฟสแรกหมดเกลี้ยง

แสนสิริ ประสบความสำเร็จแบรนด์ “คณาสิริ” โกยยอดขายแบรนด์ทั้งหมดกว่า 1,000 ล้านบาท เผยดีมานด์บ้านเดี่ยวระดับราคา 3-5 ล้านบาทยังพุ่งแรง ล่าสุดปิดขาย “คณาสิริ พระราม 2- วงแหวน” เฟสแรกหมดเกลี้ยง กวาดยอดขายกว่า 50 ล้านบาท ชี้ที่มาความสำเร็จเพราะทำเลดีเดินทางสะดวกติดถนนใหญ่พระราม 2 และจุดเด่นดีไซน์บ้านสไตล์ Mid Century 70’s ผสานสถาปัตยกรรมวันวานกับชีวิตสไตล์ใหม่อย่างลงตัว

พร้อม Cooliving Designed Home นวัตกรรมบ้านระบายความร้อนด้วยโซล่า เซลล์ ไม่ใช้ไฟฟ้า ไฮไลท์ฟังก์ชั่น Breeze Panel ช่องลมสำหรับถ่ายเทอากาศภายในบ้านทำให้ปลอดโปร่ง Roof Shade ขนาดยาวกันแดดและฝนมากขึ้น คาดปัจจัยบวกเศรษฐกิจ-การเมืองปี’61 หนุนตลาดบ้านเดี่ยวโต เตรียมรุกต่อเปิดตัวแบรนด์คณาสิริโครงการใหม่ปีหน้า

บ้านเดี่ยว บุราสิริ บางนา Burasiri Bangna 

3-4 ก.พ. นี้ เปิดโครงการใหม่ “บุราสิริ บางนา“ จาก แสนสิริ บนทำเลถนนบางนา-ตราด กม.26 (ขาเข้า) รับส่วนลด 100,000 บาท เริ่ม 4.19-12 ล้านบาท*

ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษและเข้าเยี่ยมชมโครงการฯ ก่อนใคร คลิก : https://goo.gl/szJk52

ที่ตั้งโครงการ

ทางหลวงแผ่นดิน 3413 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ

:: GALLERY ::

ภาพบรรยากาศจำลองด้านหน้าบ้าน โครงการ บุราสิริ บางนา

ภาพบรรยากาศจำลองพื้นที่โครงการ บุราสิริ บางนา

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1685

Website : https://www.sansiri.com

คอนโด เดอะ ไลน์ วงศ์สว่าง The Line Wongsawang

เตรียมพบกับ The Line วงศ์สว่าง โครงการใหม่จาก แสนสิริ คอนโด High Rise 36 ชั้น ที่พร้อมให้คุณบาลานซ์ชีวิตอย่างลงตัว เราเลือกสรรทุกสิ่ง ตั้งแต่เลือกใช้แนวคิด “ก้อนเมฆ” มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบสถาปัตยกรรม ซึ่งให้ความรู้สึกเคลื่อนไหวบนความสงบนิ่ง ที่นี่…จึงเป็นที่ที่บรรจบของการอยู่อาศัยอย่างมีคุณภาพ

เดอะ ไลน์ วงศ์สว่าง ตั้งอยู่ใจกลางของย่านวงศ์สว่าง เพียง 200 เมตร ถึงรถไฟฟ้า MRT วงศ์สว่าง จุดเชื่อมต่อที่จะพาคุณเข้าถึงใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว ตอบโจทย์ชีวิตหลากสไตล์ เพียง 15 นาที ถึง อารีย์, จตุจักร, เซ็นทรัลลาดพร้าว อีกทั้งยังอยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน ที่พร้อมนำคุณสู่ทุกจุดหมายได้อย่างง่ายดาย เริ่ม 1.99 ล้านบาท*

ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่ : https://goo.gl/ojRcYm

ที่ตั้งโครงการ

ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กทม.

:: FLOOR PLAN ::

แปลนอาคารชั้น 1

แปลนอาคารชั้น 2

แปลนอาคารชั้น 3-13

แปลนอาคารชั้น 14-36

:: UNIT TYPE ::

1 Bedroom : 28.00 ตร.ม.

1 Bedroom : 35.00 ตร.ม.

1 Bedroom : 40.75 ตร.ม.

2 Bedrooms : 47.75 ตร.ม.

2 Bedrooms : 49.00 ตร.ม.

2 Bedrooms : 54.00 ตร.ม.

ดูแบบแปลนห้องทั้งหมด คลิกที่นี่

:: GALLERY ::

แนวคิดโครงการ

The Line วงศ์สว่าง คอนโดสูง 36 ชั้น ที่พร้อมให้คุณบาลานซ์ชีวิตอย่างลงตัว
เราเลือกสรรทุกสิ่ง ตั้งแต่เลือกใช้แนวคิด “ก้อนเมฆ” มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบสถาปัตยกรรม ซึ่งให้ความรู้สึกเคลื่อนไหวบนความสงบนิ่ง ที่นี่…จึงเป็นที่ที่บรรจบของการอยู่อาศัยอย่างมีคุณภาพ

Co-Living Space
เพราะวิถีชีวิตใหม่ของการใช้ชีวิต มุ่งเน้นการอยู่อาศัยซึ่งแบ่งปันความสุขร่วมกัน จึงเกิดเป็น แนวคิด Co-Living Space คือการแบ่งปันพื้นที่ความสุขให้กับทุก ๆ คน ที่นี่จึงออกแบบ ทุกพื้นที่ใช้สอย และสิ่งอำนวยความสะดวกให้สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการ

Co-Working Space เลือกสรร…เพื่อการทำงานอย่างมีสไตล์

เพราะชีวิตอิสระยิ่งขึ้น ทุกที่จึงต้องพร้อมให้คุณทำงานได้เสมอ เราจึงจัดสรรพื้นที่ เพื่อรองรับการทำงานของคุณ พร้อมอุปกรณ์ทันสมัยไว้รองรับการทำงานแบบส่วนตัวหรือการประชุมแบบเป็นทีม

Co-Recreation เลือกสรร…เพื่อเติมเต็มกิจกรรมแห่งความสุข

คุณสามารถเพลิดเพลินกับการออกกำลังกาย ที่ Fitness Room พร้อมอุปกรณ์ทันสมัยได้ในทุกวันๆ อีกทั้งยังมองเห็นวิวกว้าง 180 องศา ด้วยผนังกระจก 3 ทิศทาง

Co-Lifestyle เลือกสรร…เพื่อเติมเต็มความบันเทิงให้ชีวิต

ดื่มด่ำกับการดูภาพยนตร์เรื่องโปรดกับ Sky Cinema ที่ตกแต่งด้วยสีน้ำเงินคราม เพื่อสร้างสรรค์บรรยากาศของท้องฟ้าให้มาอยู่รอบตัวคุณ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1685

Website : https://www.sansiri.com

บ้านเดี่ยว เศรษฐสิริ พหล-วัชรพล Setthasiri Phahol-Watcharaphol

เศรษฐสิริ พหล-วัชรพล บ้านเดี่ยวใหม่จาก แสนสิริ รังสรรค์ทุกรายละเอียดชีวิตตะวันออก เติมเต็มจุดสมดุลของชีวิตเมือง กับการพักผ่อน บนทำเลที่เป็นศูนย์กลางของความสะดวกสบาย เริ่ม 12.59-25 ล้าน* เร็ว ๆ นี้

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษสูงสุด 1 ล้านบาท* เมื่อจองในวันงาน คลิก : https://goo.gl/vtQoWT

ที่ตั้งโครงการ

ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.

พิกัด Google : 13°52’31.9″N 100°39’05.9″E

** หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากโครงการยังไม่เปิดตัว **

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1685

Website :